สวัสดีค่าาา ช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นอากาศหนาวมากๆ จึงเป็นเหตุให้เราอยากกินราเมงทุกวันๆ ตอนไปเที่ยวโอซาก้าครั้งล่าสุด เราได้ลิ้มลองราเมงอร่อยๆ หลายๆ แบบ และเจอร้านที่ถูกใจเราร้านนึง วันนี้เราจึงอยากจะแบ่งปันความอร่อยนี้ให้เพื่อนๆ กันจ้ะ ไปดูกันเลยเนอะ

เกี่ยวกับ Raiyo House (らいよはうす)

เป็นร้านราเมงขนาดเล็กที่มีเพียง 14 ที่นั่งเท่านั้น ร้านเล็กๆ ที่ดูเรียบง่าย ตั้งอยู่ที่โอซาก้า เปิดมาตั้งแต่ปี 1982 แล้ว ชื่อร้าน “Raiyo House (らいよはうす)” นั้นมาจากเสียงอ่านแบบองโยมิของ “頼洋(YORIHIRO)”  กลายเป็นชื่อของ “Raiyo House” นั่นเองค่า

ราคาอาหาร: อยู่ประมาณ 890 ~ 1100 เยน
เวลาทำการ: 11:00 AM – 02:AM / 5:00PM – 03:00AM
วันหยุด: วันอาทิตย์และวันหยุดพิเศษตามฏิทินญี่ปุ่น

สถานที่ตั้งและการเดินทาง: เดินจากสถานี 5 นาทีจาก Nakatsu st. โดยรถไฟใต้ดิน Mido-suji Line ทางออก Exit:5 (กรุณาออกทางที่ขึ้นลิฟต์)

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของร้าน
raiyohouse.in.coocan.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

รีวิวร้าน Raiyo House

เอาล่ะค่ะ เราขอเริ่มต้นการเดินทางตั้งแต่ลงจากรถไฟใต้ดิน Midosuji Line นะคะ ให้เพื่อนๆ มองหาป้ายทางออก Exit: 5 เอาไว้เลยนะคะ

Nakatsu st. Exit 5 รูปร่างหน้าตาป้ายก็ประมาณนี้ เลข 5 ในวงกลมสีดำคือ หมายเลขทางออกค่ะ (คำว่าทางออกไม่ได้เขียนภาษาองักฤษไว้ ยังไงก็ลองสังเกตกันดีๆ นะคะ) และเมื่อเดินถึงทางออกหมายเลข 5 จะมีฝั่งให้เลือกออกระหว่างบันไดและลิฟต์ แนะนำว่าให้เลือกขึ้นทางลิฟต์นะคะ เนื่องจากจะทำให้ขึ้นมาบนพื้นดินโดยที่อยู่ฝั่งเดียวกับร้านค่ะ เดินง่ายกว่า ถ้าเดินขึ้นฝั่งบันไดจะไปโผล่อีกฝั่งของถนนค่ะ ระวังกันด้วยนะคะอาจจะทำให้หลงได้

หลังจากออกจากสถานีแล้วหันหน้าเข้าหาถนน แล้วจึงเลือกเดินด้านขวามือไปตามทางเดินโดยไม่ต้องข้ามถนน ทางเดินจะพาเราเดินอ้อมไปด้านหลังของอาคารที่ติดกับสถานี เมื่อถึงด้านหลังแล้วจะเจอ 3 แยก ให้เดินเลี้ยวขวาอีกครั้งหนึ่งโดยไม่ต้องข้ามถนนเช่นกัน หากเพื่อนๆนึกภาพไม่ออกสามารถดูภาพประกอบได้จากภาพแผนที่ด้านล่างค่ะ

map จากนั้นเดินตรงไปประมาณ 50 เมตรจะเจอ 4 แยกไฟแดงค่ะ หากเดินถูกทางตรง 4 แยกไฟแดงจะมีร้านมินิมาร์ทอยู่ และร้านตรงข้ามมินิมาร์ทจะเป็นร้านขายดอกไม้

4 แยก สภาพแวดล้อมโดยทั่วไปของ 4 แยกไฟแดงค่ะจะเห็นว่ามีร้านดอกไม้เล็กๆ อยู่ตรงมุมด้านขวาของรูป

ร้านดอกไม้ หน้าตาร้านดอกไม้ค่ะ ถ้าเจอร้านนี้แสดงว่ามาถูกทางแล้ว ให้เดินผ่านหน้าร้านดอกไม้ไปเรื่อยๆ จนถึง 4 แยกถัดไปค่ะ เมื่อถึง 4 แยกแล้วให้ทำการเลี้ยวซ้ายและเดินตรงไป 50 เมตรจะเจอร้าน Raiyo House จ้า

Raiyo House หน้าตาร้านจะประมาณนี้ค่ะ มีป้ายและด้านในเป็นพลาสติกกันความหนาว (เฉพาะช่วงหน้าหนาว) หน้าตาจะคล้ายๆ แบบนี้ แต่ถ้าช่วงอากาศปกติจะไม่มีพลาสติกกั้นค่ะ จุดสังเกตคือโคมสีส้มหน้าร้านค่ะ เนื่องจากว่าร้านเล็กมากๆ ต้องจ้องหาโคมสีส้มให้ดีๆ ไม่งั้นเดินเลยเอาง่ายๆ ค่ะ และภาพวงกลมสีส้มบนพื้นผ้าสีขาวนั่นคือตราประจำร้านค่ะ ฉะนั้นจะไม่มีป้ายชื่อร้าน ยังไงเพื่อนๆลองสังเกตกันดูดีๆ นะคะ

เมนูร้าน Raiyo House เมนูมาเป็นป้ายพร้อมรูปค่ะ แต่ไม่มีภาษาอังกฤษนะคะ อยากทานแบบไหนจิ้มโลดค่ะ อย่างน้อยก็มีรูปให้ อิ อิ ตอนที่เราไปเป็นเวลาเกือบ 5 ทุ่มแต่ด้านในก็ยังมีคนเต็มที่นั่งและเนื่องจากว่าไปกับเพื่อนอีกคน เราจึงได้รับที่นั่งกิตติมศักดิ์ ด้านนอกร้านที่ด้านหลังมีแค่พลาสติกกันความหนาว 555 แต่ใต้โต๊ะเขาเปิดฮีทเตอร์จ่อให้เลยค่ะ อากาศจึงอยู่ในระดับกำลังดี ด้านนอกโต๊ะกว้างมากสำหรับ 2 คนคิดว่าดีกว่าไปแออัดกันด้านในค่ะ โต๊ะเป็นไม้ธรรมดาสีสมพระอาทิตย์ ด้านหน้ามีเมนูและท็อปปิ้งวางไว้ให้เติมเอง

ท็อปปิ้ง ตัวอย่างท็อปปิ้งค่ะมีให้หยิบเติมกันได้ตามความชื่นชอบ ขอบอกว่าท็อปปิ้งร้านนี้ฟรีค่ะ! หากเพื่อนๆ คนไหนเคยกินราเมงที่ญี่ปุ่นอาจจะพอทราบมาบ้างว่าแม้แต่ท็อปปิ้งก็ต้องเสียเงินเพิ่ม อย่างน้อย 200 เยนขึ้นไป การได้ท็อปปิ้งฟรีนี่คือสวรรค์เลยนะคะ คุ้มที่จะซดยันน้ำซุปช้อนสุดท้ายเลยก็ว่าได้ โฮะๆ หลังจากที่เราเมียงมองเมนูอยู่พักใหญ่ก็ตัดสินใจแลือกเมนูคนละแนวเพื่อทดสอบรสชาติกันค่ะ

รางเมงร้าน Raiyo House แถ่นแทนแท๊นนน ด้านซ้ายมือราเมง (คือเมนูก็เชียนว่าชื่อ “ราเมง” เฉยๆจริงๆ ^^) ขวามือคือ ราเมงมะเขือเทศ หรือ “โทมะโทราเมง” รสชาติก็ไปคนละทางคนละแนวเลยค่ะ แต่อร่อยทั้งคู่

ราเมง เริ่มจาก “ราเมง” กันนะคะ น้ำซุปมกลิ่นหอมของตัวน้ำซุปเอง บวกกับงาขาว และกลิ่นชาชูหมูย่างเรียกน้ำย่อยให้ทำงานได้ดีมากๆ ค่ะ ปริมาณ ผู้หญิงทานเยอะอิ่มค่ะ คนทานน้อยอาจจะลำบากนิดหนึ่งนะคะ ท็อปปิ้งมีต้นหอมเขียวและไข่ต้มที่ตรงกลางหยอดมายองเนสไว้ด้วยค่ะ

ราเมง เป็นราเมงที่เส้นมีขนาดเล็กพอสมควร แต่ต้องบอกว่าเส้นขนาดกลาง เนื่องจากเราเคยเจอเล็กกว่านี้ หากให้กะดู เส้นราเมงเล็กพอๆ กับสปาเก็ตตี้เส้นเล็กค่ะ เส้นจะแข็งพอดี (คนญี่ปุ่นทานราเมงไม่ล้วกเส้นนิ่มนะคะ) และเป็นเส้นราเมงสีไข่อ่อนๆ ตอนสูดเส้นมันส์มากค่ะ พร้อมกับซดน้ำซุปหอมๆ ไปด้วยนี่ยิ่งทำให้อร่อยมากขึ้นค่ะ ความอร่อยของราเมงร้านนี้อยู่ที่น้ำซุปและชาชูหมูย่างค่ะ

เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วร้านราเมงจะเน้นการหมักชาชูให้ได้ความอร่อย แต่ร้านที่นำชาชูมาย่างมีอยู่น้อย และการทานราเมงกับหมูย่างหอมๆ นั้น นอกจากจะช่วยเพิ่มความหอมของน้ำซุปแล้ว ยังสามารถดึงความอร่อยของหมูชาชูออกมาได้อย่างชุ่มฉ่ำมากอีกด้วย ในส่วนของน้ำซุปนั้น ส่วนตัวเราคิดว่าให้คะแนนความพอดีของน้ำซุปค่ะ คือไม่เค็มมากจนเวอร์ ไม่เลี่ยนเกินไปแต่กลับมีกลิ่นอายของรสชาติที่ชวนซดมากๆ ชอบมากๆ ค่ะ เราเองก็ยกชามซดเลยล่ะร้านนี้

ราเมงมะเขือเทศ เมนูนี้สำหรับคนชอบซุปมะเขือเทศเลยค่ะ ท็อปปิ้งและเส้นเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่น้ำซุป จากกลิ่นงาขาว จะกลายเป็นกลิ่นซุปมะเขือเทศอ่อนๆ ที่รวมกับน้ำซุปหมูที่รู้สึกถึงความเป็นลูกครึ่งระหว่างตะวัตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน มีมะเขือเทศเป็นชิ้นเล็กๆ บ้าง เมนูนี้จริงๆ แล้วคนที่เกลียดมะเขือเทศ (อย่างเรา) ก็สามารถทานได้ เพราะเขาทำได้ดีมากเรื่องการขจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ของมะเขือเทศ

ราเมงมะเขือเทศ ส่วนรสชาติน้ำซุปนั้นต้องขอบอกว่าออกไปทางมะเขือเทศที่มีกลิ่นหมูย่างหอมๆ รวมเข้าด้วยกัน เมนูนี้คิดว่าจะถูกปากชาวต่างชาติอย่างเราที่คุ้นกับอาหารตะวันตกค่ะ ทำให้สามารถทานได้เรื่อยๆ และกลบของความเลี่ยนของซุปราเมง (ที่หลายๆคนอาจจะไม่ถนัดซุปแบบญี่ปุ่นได้) ทานได้เพลินๆ เรื่อยๆ แป๊บๆ หมดชามแล้วค่ะ ถือว่าเป็นราเมงทานแล้วเพลินมากๆเมนูนี้

ยังไงก็ขอฝากร้านราเมง Raiyo House เล็กๆ นี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของเพื่อนๆที่ไปเที่ยวโอซาก้าด้วยนะคะ คราวหน้าเราจะมีรีวิวกับอาหารอร่อยๆ กันใหม่นะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า

บทความโดย 5tHbeaR
รูปภาพโดย Mttery

ค้นหาโรงแรมที่พักในโอซาก้า


บทความเที่ยวโอซาก้า (Osaka)

การเดินทาง
› วิธีเดินทาง
› บัตรเหมาจ่ายสุดคุ้ม
สถานที่ท่องเที่ยว
› Highlight
› Universal Studios Japan
› Osaka Bay
› Umeda
› Namba
› Tennoji
› Sumiyoshi
› เที่ยวนอกเมือง
โรงแรมที่พัก
ของกินของฝาก

+ ดูบทความเที่ยวโอซาก้าทั้งหมด

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com