ADVERTORIAL

การเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่น ประกันเดินทาง (Travel Insurance) ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากเราไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บ หรือเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา ยิ่งในประเทศญี่ปุ่นมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงมาก และการสื่อสารที่ยากลำบาก นอกจากนี้ประกันเดินทางต่างประเทศยังครอบคลุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นขณะที่เราอยู่ในระหว่างการเดินทางอีกด้วย

ประกันเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมีกี่แบบ?

ประกันเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปญี่ปุ่นมีทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่

1. ประกันเดินทางรายเที่ยว

ประกันภัยเดินทางรายเที่ยวเป็นประกันการเดินทางที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะวันที่กำหนด เช่น เราเดินทางจากกรุงเทพฯ – ญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2566 – 20 เมษายน 2567 เมื่อถึงกำหนดการกลับ ประกันเดินทางก็จะสิ้นสุดลงตามระยะเวลาที่เลือกไว้

2. ประกันเดินทางรายปี

ประกันภัยเดินทางรายปีเป็นประกันเดินทางที่ให้ความคุ้มครองตลอด 1 ปี แบบไม่จำกัดเที่ยว จะไปเที่ยวกี่ครั้งก็ได้รับความคุ้มครองตลอดจนกว่าจะครบ 1 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยๆ ปีละมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป

ประกันเดินทางคุ้มครองอะไรบ้าง?

ในการซื้อประกันเดินทางต่างประเทศ จะคุ้มครองตามจำนวนระยะเวลา ประเทศที่เดินทาง และแผนที่เอาประกันได้เลือกเอาไว้ โดยหลักๆ ประกันเดินทางจะคุ้มครองในกรณีต่อไปนี้

1. คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล

สิ่งที่ควรให้ความสำคัญที่สุดของประกันเดินทางต่างประเทศ คือการคุ้มครองการรักษาพยาบาล ในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย แล้วต้องการรับการรักษาในขณะที่เดินทางอยู่ในต่างประเทศ เพราะเป็นส่วนที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุด และยังมีความซับซ้อนมากที่สุด เพราะนอกจากจะมีค่ารักษาพยาบาลแล้ว ในบางกรณีที่เจ็บป่วยหนัก อาจจะต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น หรือส่งตัวกลับมารักษาที่ไทยด้วย ดังนั้น ควรเลือกประกันที่มีโรงพยาบาลในเครือข่ายครอบคลุมในประเทศที่เราจะเดินทางไป และไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปเองก่อน รวมถึงครอบคลุมการรักษาต่อเนื่องเมื่อกลับมาถึงประเทศไทยด้วย

TIPS: ประกันเดินทางบางเจ้าจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยติดต่อกับโรงพยาบาลให้ ก็จะช่วยลดปัญหาและอุปสรรคในการสื่อสารไปได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเดินทางไปยังประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักอย่างประเทศญี่ปุ่น

 2. คุ้มครองกรณีเที่ยวบินล่าช้าหรือยกเลิกการเดินทาง

การทำประกันเดินทางต่างประเทศจะช่วยให้เรามีความสบายใจมากขึ้นในระหว่างเดินทาง เพราะมีการคุ้มครองในกรณีที่เกิดปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับการเดินทาง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแม้เกิดเหตุที่ไม่คาดคิด ก็ยังมีทางออกและยังได้รับการชดเชยอย่างเหมาะสม เช่น

หากเที่ยวบินล่าช้า

ประกันเดินทางจะจ่ายค่าชดเชยให้สำหรับความล่าช้าทุกๆ 6 ชั่วโมง ทำให้เราได้รับเงินสินไหมเพื่อไปใช้จ่ายชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการที่เที่ยวบินล่าช้าได้ เช่น ค่าอาหารหรือที่พักในระหว่างรอ

การยกเลิกหรือต้องเลื่อนการเดินทาง 

กรณีที่เราไม่สามารถเดินทางได้แล้ว เนื่องจากเจ็บป่วยหรือกรณีอื่นๆ ที่ประกันคุ้มครอง ประกันเดินทางจะจ่ายค่าชดเชยให้ในส่วนที่เราไม่สามารถขอคืนเงินได้ เช่น บางโรงแรมที่เราจองและชำระเงินไปแล้ว โดยไม่สามารถขอเงินคืนได้ ประกันเดินทางก็จะเป็นผู้จ่ายค่าชดเชยให้เราแทน

การขยายระยะเวลาคุ้มครองโดยอัตโนมัติ กรณีที่ไม่สามารถเดินทางกลับมาได้

กรณีที่เกิดภัยธรรมชาติหรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่สนามบินหรือสายการบินไม่สามารถทำการได้ตามปกติ ประกันเดินทางบางเจ้าจะมีการขยายเวลาคุ้มครองให้โดยอัตโนมัติ เช่น จากเดิมเราซื้อประกันเดินทางไว้ครอบคลุมตั้งแต่วันที่ 1-10 หากเกิดพายุทำให้บินกลับไทยไม่ได้ในวันที่ 10 ทำให้ต้องอยู่ที่ต่างประเทศต่ออีก 3 วัน ประกันก็จะขยายวันคุ้มครองให้เป็นวันที่ 1-13 แบบนี้เป็นต้น

TIPS: เงื่อนไขในการจ่ายค่าสินไหม วงเงินความคุ้มครอง และจำนวนวันที่ขยายระยะเวลาคุ้มครองให้ของประกันแต่ละเจ้าก็จะไม่เท่ากัน อย่าลืมดูรายละเอียดให้ครบถ้วนนะ

3. คุ้มครองกระเป๋าเดินทางและทรัพย์สิน

ประกันเดินทางคุ้มครองกรณีการเสียหายหรือสูญหายของกระเป๋าเดินทาง ข้อนี้คิดว่าหลายคนคงมีความกังวลอยู่มาก เพราะอย่างที่เรารู้ๆ กันว่าการโหลดกระเป๋าขึ้น-ลงเครื่องบิน ต้องแข่งกับเวลาและยังมีกระเป๋าเดินทางเป็นจำนวนมาก และมีน้ำหนักมาก ดังนั้น เราจึงมักจะเห็นในข่าวหรือตามอินเทอร์เน็ตอยู่เรื่อยๆ ว่ามีการโยนกระเป๋าเดินทางและทำให้กระเป๋าเสียหาย

จริงๆ แล้ว หากกระเป๋าเดินทางเสียหายจากการขนส่งโดยสายการบิน เพื่อนๆ สามารถเรียกร้องความรับผิดชอบจากสายการบินให้ชดเชยค่าเสียหายได้ทุกสายการบินอยู่แล้วนะ แม้ว่าจะไม่มีประกันเดินทางก็ตาม เพียงแต่ว่าแต่ละสายการบินก็อาจจะชดเชยด้วยการซ่อมกระเป๋าหรือจ่ายค่าชดเชยด้วยเงื่อนไขและวงเงินที่แตกต่างกัน แต่ถ้าเพื่อนๆ มีประกันเดินทาง ก็จะสามารถเลือกได้ว่าจะเรียกร้องให้สายการบินหรือบริษัทประกันเป็นผู้ชดใช้ให้ 

นอกจากนี้ ประกันเดินทางยังคุ้มครองรวมไปถึงทรัพย์สินอื่นๆ หรือพาสปอร์ตที่เราพกติดตัวไปด้วย รวมไปจนถึงกรณีกระเป๋าเดินทางถูกจัดส่งมาล่าช้า เนื่องจากความผิดพลาดของสายการบิน เช่น พนักงานอาจจะโหลดกระเป๋าเราไปที่เครื่องบินผิดลำ ทำให้กระเป๋าเดินทางของเราไม่ถูกจัดส่งมาที่ปลายทาง ซึ่งในบางครั้งอาจใช้เวลานานหลายชั่วโมงหรือหลายวันกว่าจะได้กระเป๋ากลับมา ถ้าเรามีประกันเดินทางก็จะได้รับค่าสินไหม  เพื่อช่วยเยียวยาค่าใช้จ่ายที่เราต้องซื้อของใช้จำเป็นในระหว่างรอ

บริการอื่นๆ ที่จำเป็น

ความคุ้มครองข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ประกันเดินทางต่างประเทศยังคุ้มครองเรื่องอื่นๆ อีกมากซึ่งสามารถไปดูรายละเอียดได้ในเว็บเปรียบเทียบหรือเว็บไซต์โดยตรงของบริษัทประกันต่างๆ และนอกจากนี้สิ่งสำคัญนอกจากความคุ้มครองคือ การบริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง ที่คอยติดต่อประสานงานกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการประสานงานหาโรงพยาบาลในต่างประเทศ การให้คำแนะนำกรณีเอกสารเดินทางหาย เป็นต้น

ประกันเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ราคาเท่าไร?

ราคาประกันเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับระยะเวลา (จำนวนวัน) และแผนความคุ้มครอง ตัวอย่างการเปรียบเทียบ หากเลือกระยะความคุ้มครอง 7 วัน ประกันเดินทาง Sompo แผน B+ จะอยู่ที่ 712 บาท โดยสามารถคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลได้ถึง 3 ล้านบาทเลยทีเดียว [เช็คเบี้ยประกันกับ Sompo ที่นี่]

สิ่งที่สำคัญมากๆ ในการติดต่อขอรับความช่วยเหลือกับบริษัทประกันทางโทรศัพท์ คือเราจะต้องแน่ใจว่าได้ใช้ Sim Card หรือทำการเปิด Roaming เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยสามารถติดต่อกับเราได้ เพราะปัญหาที่พบบ่อยๆ คือ เมื่อเราใช้ Sim Card ที่แค่เล่นอินเทอร์เน็ตได้อย่างเดียว แต่ไม่สามารถรับสายจากประเทศไทยได้ ก็จะทำให้เราไม่สามารถติดต่อรับความช่วยเหลือกับบริษัทประกันได้ หรือเป็นไปอย่างยากลำบาก

ส่งท้าย

สุดท้ายนี้การไปเที่ยวญี่ปุ่น การทำประกันเดินทางเป็นสิ่งจำเป็นเพราะจะช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างเดินทางได้มาก และการเลือกประกันเดินทางควรคำนึงความคุ้มครองที่จำเป็นสำหรับของแต่ละบุคคล รวมถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันนั้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตามอยากให้คิดว่าการทำประกันเดินทางในการไปท่องเที่ยวก็คือตัวช่วยในการเยียวยาเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับเรา เพื่อให้เรากลับไปอยู่ในสภาวะใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั้นให้มากที่สุด การซื้อประกันเดินทางไม่ใช่การทำให้เราได้รับกำไรจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุใดๆ และการไม่เคลมประกันอะไรเลยก็จะน่าจะเป็นเรื่องดีที่สุด เพราะว่าทริปท่องเที่ยวของเพื่อนๆ นั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่นนั่นเอง

ค้นหาตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com