[รีวิว] ค่าครองชีพด้านอาหารการกินในประเทศญี่ปุ่นแบบละเอียดสำหรับตั้งงบเที่ยว

39446
อาหารการกินในประเทศญี่ปุ่น

วันนี้เรามีเกร็ดความรู้ที่หลายคนน่าจะสนใจ เพราะเราจะมาคุยเรื่องค่าครองชีพด้านอาหารการกินในญี่ปุ่นกันค่ะ ทำไมเราถึงพูดคุยเรื่องนี้กันล่ะ? ก็ประเทศนี้ขึ้นชื่อเรื่องค่าครองชีพแพงหู่ฉี่ ถ้าเรารู้เอาไว้จะได้เตรียมเงินไปช้อปไปกินกันได้ถูกไงจ้า! และอีกประโยชน์หนึ่งคือการที่เราจะสามารถเลือกทานอาหารที่เราชอบในราคาที่ไม่แพงเกินไปนั่นเองค่ะ ไปดูกันดีกว่าว่าบ้านเขามีราคาอาหารเป็นอย่างไรกันบ้าง!

ค่าครองชีพพื้นฐานในที่นี้คือ ราคาสินค้าขั้นต่ำสุดที่เราจะสามารถซื้อหาอาหารการกินได้นั่นเองในราคาขั้นต่ำ ซึ่งในบทความนี้เราได้ยึดเอาตามค่าครองชีพของเมืองโตเกียวเป็นหลัก เพราะเป็นเมืองหลวงที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไปเยือนนั่นเอง

*หมายเหตุ:

  • การประเมินราคาสินค้าในบทความนี้เป็นการประเมินสินค้าในภาพรวม ซึ่งได้จากประสบการณ์การส่วนตัวในการใช้ชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่นและประสบการณ์ช่วงการเดินมาท่องเที่ยวของแอดมินเอง ในบางพื้นที่ของจังหวัดอื่นๆ อาจจะถูกหรือแพงกว่าเรทนี้นิดหน่อยแล้วแต่สภาพสังคมในแต่ละพื้นที่ค่ะ
  • เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2019 ญีปุ่นได้มีการรปรับภาษีจาก 8% เป็น 10% (ราคาสินค้าจากรูปในบทความนี้อาจมีความแตกต่างจากราคาในปัจจุบัน) ยกเว้นสินค้าและบริการบางประเภทที่ยังคิดภาษี 8% เท่าเดิม เช่น สินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตและตลาด (ยกเว้นร้านสะดวกซื้อ) อาหารที่ซื้อจากร้านกลับบ้าน อาหารที่ขายในสวนสนุก

รีวิวค่าครองชีพด้านอาหารการกินประเภทต่างๆ

1. น้ำเปล่าและเครื่องดื่มในร้านสะดวกซื้อ

เนื่องจากว่าน้ำดื่มในประเทศญี่ปุ่นเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า (น้ำแร่) น้ำชา น้ำอัดลม น้ำผลไม้ จึงมีราคาใกล้เคียงกันตั้งแต่ราคา 108 – 150 เยน ส่วนนม และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์มีราคาสูงขึ้นมาอีกนิดอยู่ที่ประมาณ 150 – 216 เยน ส่วนเครื่องดื่มที่ตู้กดมีทั้งราคาที่สูงกว่าร้านสะดวกซื้อและต่ำกว่า แล้วแต่สถานที่ค่ะ

2. ขนมทานเล่นในร้านสะดวกซื้อ

แม้ของทานเล่นในร้านสะดวกซื้อจะมีหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่ราคาโดยเฉลี่ยจะไม่ทิ้งห่างกันมากค่ะ

ไอศกรีม Kin no Ice Nama Choco Bar (White) ราคา 213 เยน จากร้าน 7-11

  • ขนมขบเคี้ยว ขึ้นอยู่กับรสชาติและความหวือหวาของขนมเลยค่ะ มีตั้งแต่ เลย์ราคา 90 เยน ไปจนถึงช็อกโกแลตอร่อยๆ ประมาณ 324 เยน บางครั้งก็เป็นแบบทานเล่นแบ่งขายชิ้นเล็กๆ ชิ้นละ 10-20 เยนก็มีนะคะ แต่ว่าใส่ปาก 2 คำก็หมดแล้ว
  • ของหวานและไอศกรีม เป็นโซนที่อันตรายมากสำหรับคนที่กลัวอ้วน เพราะมีให้เลือกอย่างละลานตาในร้านสะดวกซื้อ ไอศกรีมราคาไม่แพงอยู่ที่ประมาณ 216 – 324 เยน ของแพงก็พวก Hagendaz แต่ยี่ห้ออื่นๆ ไม่แพงมาก กินเล่นๆ ราคาต่ำกว่า 200 เยนก็มีค่ะ ส่วนพวกของหวาน เค้กเป็นก้อน ชูครีม เครปเย็น โมจิ ดังโงะ โยเกิร์ต อยู่ที่ราคาประมาณ 250 เยนโดยเฉลี่ย แต่ถ้าอังการมากก็มีราคาประมาณ 300 – 400 เยน

3. อาหารรองท้องในร้านสะดวกซื้อ

เป็นอาหารง่ายๆ ไม่หนักท้องมาก เน้นความรวดเร็ว เหมาะสำหรืบมื้อเช้าหรือมื้อเย็นเบาๆ ที่สำคัญคืออร่อยและราคาประหยัด

ข้าวปั้นจากร้านสะดวกซื้อภายในสถานีรถไฟ มีโปรโมชั่นชิ้นละ 100 เยน แถมคาราเกะ 1 ชิ้นจำหน่ายเฉพาะช่วงเช้า

ขนมปังใส้ยากิโซบะ จากร้าน 7-11 ราคา 165 เยน

  • ข้าวปั้น ราคาไม่แพง อิ่มอร่อย รวดเร็ว เฉลี่ยอยู่ที่ 110 – 150 เยนขึ้นอยู่กับความอลังการของใส้ค่ะ ราคา 90 เยนก็มีนะคะแต่เป็นข้าวปั้นเปล่าๆ ใส่เกลือ (ฮา) ส่วนใส่ยอดฮิตคือใส่แซลม่อนย่างค่ะ (เราก็ชอบ)
  • ขนมปัง แซนวิช หรือจำพวกข้าวสาลี ทานแทนข้าวได้แต่ไม่หนักท้องมากราคาอยู่ที่ประมาณ 150 – 324 เยน ส่วนตัวเราชอบขนมปังยากิโซะบะ อิ่มอร่อย และราคาถูก แต่อย่าถามถึงเรื่องโภชนาการนะ ฮ่าๆ
  • บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มีหลายรสและบริษัทค่ะ ทั้งของเกาหลี จีน ญี่ปุ่น ราคาประมาณ 108- 216 เยน แล้วแต่เกรดของความอร่อย แอบกระซิบคนชอบเผ็ดจะชอบของจีนค่ะ ส่วนคนทานจืดจะชอบแบบญี่ปุ่น

4. ข้าวกล่องในร้านสะดวกซื้อ

โซบะผักชุบแป้งทอด ราคา 399 เยน จากร้าน Lawson

ข้าวกล่อง เมนูยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ไม่มีเวลาหรือมีเวลาน้อย ก็หาตามร้านสะดวกซื้อนี่ละค่ะ หลายคนบอกว่าราคาถูกกว่าร้านอาหารด้วย ถูกน่ะเรื่องจริงค่ะ แต่ก็แค่บางเมนูเท่านั้น หรือไม่ก็ได้ปริมาณน้อยกว่าที่ทานตามร้านอาหาร

ปัจจุบันราคาอาหารในร้านสะดวกซื้อแพงขึ้น แต่ก็ยังถูกกว่าร้านอยู่นิดหน่อย ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 380 – 400 เยน (มีเมนูน้อย) อย่างเช่น ข้าวหน้าหมูย่าง (อร่อยนะคะ) ข้าวหน้าแซลม่อนแบบชิ้นเล็กๆ (อร่อยเช่นกัน) โซบะเย็น แต่ปริมาณน้อย ไม่ค่อยอิ่ม ขยับขึ้นมาที่เมนูแกงกะหรี่ ข้าวหน้าเนื้อ สปาเก็ตตี้ ราคาจะขยับมาอยู่ที่ 424 – 550 เยน หรือบางเมนู เช่น ซูชิเซ็ตใหญ่ๆ ก็เกือบถึง 1,000 เยนเลยค่ะ

5. อาหาร Fast Food แบบญี่ปุ่น

ข้าวหน้าหมูราคา 500 เยนจากร้าน Yoshinoya

ร้านอาหารจานเดียวแบบญี่ปุ่นนี้เราขอเรียกว่า Fast Food เนื่องจากว่าเป็นร้านที่เน้นความรวดเร็วในการรับประทาน ไม่พิถีพิถันมาก อาทิ ร้านโซบะ อุด้ง แบบยืนทานหรือมีที่นั่งทานแบบเคาท์เตอร์เล็กๆ ร้านข้าวหน้าเนื้อทั้งแบบยืนทานและแบบนั่งทานยี่ห้อต่างๆ เช่น Yoshinoya, Matsuya

จุดเด่นคือราคาไม่แพง รวดเร็วและสะดวก แต่ไม่เหมาะกับการทานละเลียดค่อยๆ ชิมรสชาติแบบร้านอาหารที่เป็นสัดส่วน ราคาอยู่ที่ประมาณ 380 – 600 เยนต่อเมนู ราคาต่ำสุด คือ มีแต่ข้าวบวกเนื้อสัตว์กับซุปมิโซะ หรือมีแค่โซบะ (จืดๆ) ชามเดียว ถ้าเพิ่มไข่ เพิ่มสลัด ซุปมิโสะ หรือทานเป็นเซ็ตก็จะราคาสูงขึ้น เกือบเท่ากับร้านอาหารปกติเลยค่ะ แต่ก็ถูกกว่าอยู่ดี อ้อ ร้านพวกนี้มักเปิด 24 ชั่วโมงด้วยนะคะ

6. อาหาร Fast Food แบบตะวันตก


พิซซ่าชิ้นละประมาณ 430 เยน/ชิ้นโดยประมาณ จากร้าน Pizzala (พิซซ่าแบรนด์หนึ่งของญี่ปุ่น)

ร้านพวกไก่ทอด เช่น เคเอฟซี (ญีปุ่นเรียกว่า เคนตั๊กกี้) ร้านแฮมเบอร์เกอร์ หลายๆ ร้าน เช่น แมคโดนัลด์ หรือ ร้านพิซซ่า ราคาอยู่ที่ประมาณ 360 – 450 เยน/แฮมเบอเกอร์ 1 ชิ้น/พิซซ่า 1 ชิ้น ถ้าเป็นเซ็ตอยู่ที่ประมาณ 700 เยน แต่ร้านที่เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นจะแพงกว่านิดหนึ่ง เริ่มต้นที่ประมาณ 460 – 900 เยน แต่ได้ปริมาณและความอร่อยที่สดดีค่ะ (จากประสบการณ์นะ) ที่แพงๆ คือ เบอร์เกอร์เนื้อ เพราะคนญี่ปุ่นเขาชอบทานเนื้อกันนั่นเอง

7. ราเมง

ราเมงราคา 890 เยน จากร้าน Ichiran Ramen

เสน่ห์ของร้านราเมงญี่ปุ่น คือ ไม่ว่าจะเป็นร้านที่ดังหรือไม่ดัง ราคาโดยเฉลี่ยไม่ได้แพงตามชื่อเสียง แต่จะเป็นไปตามมาตรฐานทั่วไปของร้านราเมงและการใช้วัตถุดิบ โดยถูกที่สุดคือ 880 – 980 เยนเป็นเมนูพื้นฐาน แต่ถ้าเพิ่มท้อปปิ้ง เครื่องเติม เพิ่มเส้น หรือเป็นเซ็ตใหญ่ (มีข้าวด้วย) ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,100 – 1,600 เยน โดยทั่วไปเทียบกับราคาข้าวแล้วจะแพงกว่าประมาณ 30 – 50% แต่ก็อร่อยและฟินมากเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว หรือช่วงดึกๆ ตีสองตีสามจะฟินเป็นพิเศษค่ะ อิ อิ

8. อาหารจีน (ระดับร้านทั่วไป)

อาหารจีนเป็นเซ็ต ราคา 800 เยน จากร้านอาหารจีนแห่งหนึ่งในโตเกียว

นักท่องเที่ยวที่สรรหาร้านอาหารญี่ปุ่นทาน จะไม่ค่อยสังเกตเห็นว่ามีร้านอาหารจีนเท่าไหร่ แต่หากอยากทานอาหารรสชาติถูกปาก (ไม่จืด) ได้เยอะและไม่แพง บอกเลยว่าร้านอาหารจีนคือทางเลือกที่ตอบโจทย์มาก ราคาในร้านประมาณ 500 – 800 เยน แต่ปริมาณเยอะ และค่อนข้างมีรสชาติใกล้เคียงอาหารไทย คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่หันมาทานข้าวกล่องอาหารจีนกันมากขึ้น สนนราคา 500 เยนเอ๊ง! แต่ปริมาณเหมือนราคา 1,000 เยน พวกเมนูกุ้งผัดเปรี้ยวหวาน หรือต้นหอมผัดตับงี้ ก็อร่อยมากเช่นกัน

9. อาหารญี่ปุ่นทั่วไป

เซ็ตข้าวหน้าหมู 1,188 เยน จากร้านอาหารในย่านอุเอโนะ

เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีหลายๆ เมนูให้เลือก เช่น ข้าวเทมปุระ มีโต๊ะให้นั่งทาน ชิลๆ ได้ มีทั้งเมนูข้าว ราเมงและอื่นๆ ราคามาตรฐานเป็นเซ็ตอยู่ที่ประมาณ 800 – 1,200 เยน ร้านพวกนี้ ส่วนใหญ่เป็นเซ็ตและมานั่งทานกันเป็นครอบครัวที่ใช้เวลาทานได้นาน ราคาก็แพงหน่อย แต่ข้อดีคือได้รับสารอาหารครบและวัตถุดิบมีคุณภาพ

10. เนื้อย่าง (ยากินิคุ)

ร้านเนื้อย่างที่ญี่ปุ่นมีหลายระดับ ตั้งแต่ราคาถูก ไปจนถึงราคาสูงลิบลิ่ว

เนื้อ Lightly Roasted Chuck (Sudare-cut) ชิ้นนี้ราคา 4,000 เยน จากร้าน Jojoen Yugentei ในโตเกียว

  • ร้านเนื้อย่างราคามาตรฐาน ราคาไม่ถูกไม่แพง เราขอคิดเป็นราคาต่อหัวนะคะ จะอยู่ที่ประมาณคนละ 2,000 – 3,000 เยน/คน ทานปริมาณปกติ หรือถูกกว่านั้นต้องไปทานช่วงกลางวันค่ะ เป็นเมนูเฉพาะช่วงกลางวันมาเป็นเซ็ตมีครบ แต่มีเนื้อยู่ประมาณ 4 ชั้น 555 ราคาเบาๆ ประมาณ 990 เยน
  • ร้านเนื้อย่างพรีเมี่ยม ร้านประเภทนี้ถ้าไม่ซีเรียสกับการทานเนื้อย่างจริงจังก็อย่าไปดีกว่าค่ะ แพงเกิ๊นนน แต่ว่าอร่อยจริงเข้าขั้นละลายในปาก ทานแบบอิ่มหนำสำราญอยู่ที่ประมาณ 10,000 – 15,000 เยน/คน เพราะแพงทุกอย่างตั้งแต่เครื่องดื่มยันเครื่องเคียง แต่ถ้าเอาแบบชิมๆ ให้รู้รสชาติก็น่าจะประมาณ 5,000 – 6,000 เยน/คน

11. ซูชิและอาหารทะเล

ร้านซูชิและของทะเลก็มีหลายประเภทค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบแบบไหน แต่ขอแบ่งประเภทด้วยราคานะคะ

ซูชิหน้าโทโร่ ราคา 300 เยน (หน้าอื่นๆ ราคา 100 เยน) จากร้านซูชิหมุนราคาย่อมเยาแห่งหนึ่งแถวสถานี Ikebukuro ในโตเกียว


ซูชิถาดใหญ่ 3,800 เยน หน้าอื่นๆ แบบสั่งแยกราคาประมาณ 800 เยน/ 2 คำ จากร้าน Sushiden

  • ร้านซูชิทั่วไปหาได้ตามย่านการค้า ไม่เน้นการบริการ และร้านซูชิหมุน ร้านประเภทนี้เราสามารถทานซูชิหรือข้าวหน้าปลาดิบได้ในราคาย่อมเยา ถูกสุดคือจานละ 100 เยน ข้าวหน้าปลาดิบอยู่ที่ประมาณ 800 – 1,000 เยน
  • ร้านซูชิที่เน้นวัตถุดิบหรือร้านที่เน้นการทานเพื่อศิลปะ ร้านประเภทนี้ที่เน้นวัตถุดิบที่เราเห็นบ่อยๆ คือร้านแถวๆ ตลาดปลาหรือริมทะเล ราคาข้าวหน้าปลาดิบหรืออาหารทะเลสดอยู่ที่ประมาณจานละ 1,500 – 2,500 เยนขึ้นไป ส่วนซูชิราคาขึ้นอยู่กับวัตถุดิบค่ะ มีตั้งแต่ะจานละเกือบ 1,000 เยน หรือเป็นเซ็ตราคาประมาณ 4,000 – 6,000 เยน ไปจนถึง 10,000 เยนเยนก็มี

12. อาหารในร้านอิซากายะ / ร้านเหล้าญี่ปุ่น

เนื้อย่างราดซอสทาเระ กับไข่ดิบ 400 เยนโดยประมาณ จากร้านอิซากายะแห่งหนึ่ง

ร้านอิซากายะหรือร้านเหล้าญี่ปุ่นเหมาะกับการนั่งดื่มเคล้ากับแกล้มและการพูดคุยค่ะ ไม่ใช่ร้านอาหารนะ ดังนั้นพวกเมนูข้าวจะหาแทบไม่ได้เลยนอกจากข้าวผัด และทุกเมนูราคาแพงหมด ฮาา เช่น ไก่ย่างไม้ละ 180 เยน (สามคำหมด) อาหารทานเล่นราคา 600 – 700 เยน เครื่องดื่มราคาประมาณแก้วละ 700 – 800 เยน ร้านถูกหน่อยก็ 400 – 500 เยน รสชาติตามราคาและคุณภาพค่ะ ถ้าเผลอเข้าไปล่ะก็ ค่าเสียหายประมาณ 3,000 – 5,000 เยน/คน

13. นาเบะ หม้อไฟ สุกี้ ชาบู จิ้มจุ่ม

เมนูนาเบะซุปเกลือสำหรับ 2 ท่าน หม้อละ 2,500 – 3,000 เยน จากร้าน Toridori Trust Tower สถานี Tokyo (เป็นหม้อไฟในร้านอิซากายะอีกที)

ร้านนาเบะ หม้อไฟ สุกี้ ชาบู จิ้มจุ่ม (ส่วนใหญ่มีในฤดูหนาว) พวกนี้ราคาเฉลี่ยตายตัวอยู่ที่ประมาณ 3,500 – 4,000 เยน/คน (ยกเว้นร้านหม้อไฟของพวกนักซูโม่แพงมาก) เพราะเป็นบุฟเฟ่ต์ค่ะ บางร้านจะเป็นเซ็ต หรือบางร้านเป็นบุฟเฟ่ต์ยันเครื่องดื่มเลย เช่น MK เป็นต้น พวกร้านนาเบะ สุกี้ยากี้ มีวัฒนธรรมการทานข้าวต้มหรือเมนูปิดที่ใช้น้ำซุปด้วย ใครไปทานก็เผื่อท้องเอาไว้ด้วยนะคะ

14. อาหารญี่ปุ่นแบบคอร์ส


เซ็ตอาหารแห่งขุนเขาจากโรงแรม Yunogo Bishunkaku

ร้านประเภทนี้ต้องสั่งจองล่วงหน้า ส่วนใหญ่อยู่ในโรงแรมแบบเรียวกัง (โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น) อาหารเป็นคอร์สจะมีรายการอาหารประมาณ 8 – 12 อย่าง ตั้งแต่ของเย็น (กับแกล้ม) พวกซาชิมิ หรือของสด เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ญี่ปุ่นพวกสาเกญี่ปุ่น โชจู ตามด้วยอาหารของต้ม ย่าง ทอด เส้น และข้าว ตบท้ายด้วยของหวาน

หน้าตาจะดูจุ๋มจิ๋มน่ารัก จุดเด่นอยู่ที่การคัดกรองวัตถุดิบและการทำอย่างมีศิลปะ มีการเสิร์ฟตามลำดับขั้นตอนยาวประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง การทานจึงค่อนข้างมีสุนทรีย์มากเป็นพิเศษ (แต่ไม่ค่อยเหมาะกับคนไทยเท่าไหร่ เพราะช้าไม่ทันใจ ฮ่าๆ) ราคามักจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 10,000 เยนแล้วแต่ความหรูหราของวัตถุดิบค่ะ

15. ผลไม้

สตรอว์เบอร์รี่ในตลาดอะเมโยโกะ ย่านอุเอโนะ ในโตเกียว

ปิดท้ายกันที่ผลไม้สดๆ สามารถหาซื้อกันได้ตามตลาดสดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ผลไม้ยอดฮิตสุดๆ สำหรับนักท่องเที่ยวก็คือสตรอว์เบอร์รี่ โดยมีให้เลือกหลายราคา เริ่มตั้งแต่ประมาณ 500 เยนต่อแพ็ค

สรุป

การตั้งงบในการเที่ยวญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งก็มาจากอาหารการกินนี่ละค่ะ ถ้าอยากประหยัดก็เข้าร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหาร Fast Food แบบง่ายๆ แม้ว่าจะมีราคาถูก แต่รสชาติก็อร่อยใช้ได้เลยค่ะ นอกจากอาหารมื้อหลักๆ แล้ว เราควรเตรียมงบเผื่อเจอขนมน่ากินๆ ระหว่างเดินเที่ยวด้วยนะคะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวทุกท่าน ใครที่กำลังเตรียมตัวไปญี่ปุ่นอยากทานอะไร ก็เตรียมกำลังทรัพย์กันให้พร้อมนะคะ อิ อิ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า

ค้นหาโรงแรมที่พักในญี่ปุ่น


รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com