เมืองโอซาก้า (Osaka) นั้นมีแหล่งท่องเที่ยวโดนๆ หลายแห่งเลย หนึ่งในนั้นก็คือย่านชินเซไก (Shinsekai) ที่เราจะพามารีวิวให้ชมกันในวันนี้ค่ะ ที่นี่นอกจากจะมีแลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียงอย่างหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) แล้ว ก็ยังมีร้านอาหารเด็ดของเมืองโอซาก้าให้เลือกลิ้มลองกันหลายร้านเลยทีเดียว
เกี่ยวกับย่านชินเซไก (Shinsekai)
สาระและเกร็ดน่ารู้
ชินเซไก (Shinsekai / 新世界) แปลตรงตัวได้ว่า “โลกใหม่” เป็นหนึ่งในย่านแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในเมืองโอซาก้า (Osaka) ที่มีบรรยากาศแบบย้อนยุคสไตล์เรโทร โดยเป็นแหล่งรวมร้านอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้าอย่างคุชิคัตสึ (Kushi-katsu) ซึ่งเป็นอาหารเสียบไม้แล้วชุบแป้งทอด
ข้อมูลการเยี่ยมชม
- เวลาทำการ:
- ขึ้นอยู่กับร้าน (ร้านอาหารส่วนใหญ่เปิด 11:00 น. บางร้านเปิดตลอด 24 ชั่วโมง)
- การเดินทาง:
- เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Ebisucho สาย Sakaisuji Line (Exit 3)
- เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Dobutsuen-mae สาย Midosuji Line (Exit 5)
- เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟ Shin-Imamiya สาย JR หรือ Nankai (East Exit)
รีวิวเที่ยวย่านชินเซไก (Shinsekai)
เราขอเริ่มต้นจากสถานีรถไฟ Dobutsuen-mae นะคะ พอขึ้นบันไดมาจากสถานีตรงทางออก 3 เดินตรงไปนิดนึงก็จะเจอทางรอดนี้อยู่ทางซ้ายมือค่ะ
ตรอกจังจังโยโกะโจ (Janjan Yokocho)
พอโผล่มาเราก็จะเจอกับตรอกจังจังโยโกะโจ (Janjan Yokocho / ジャンジャン横丁) [ดูแผนที่] ซึ่งมีความยาวประมาณ 180 เมตร ตรงนี้ก็มีร้านอาหารให้เลือกหลายร้านเลยค่ะ แน่นอนว่าร้านยอดนิยมที่คนเข้าคิวเยอะๆ ก็คือร้านที่ขายคุชิคัตสึค่ะ
พอเดินมาจนสุดทางก็จะเจอร้านขายเสื้อผ้านี้ค่ะ จากนั้นก็ให้เลี้ยวไปทางซ้ายมือ แล้วเดินต่ออีกนิด ก็จะเจอโซนที่มีนักท่องเที่ยวเดินกันขวักไขว่แล้วค่ะ
ย่านชินเซไก (Shinsekai)
คนที่มาเที่ยวโอซาก้าก็อาจจะสังเกตเห็นโคมไฟปลาปักเป้าหน้าตาแบบในหลายที่ โคมไฟนี้ก็เป็นของร้าน Zuboraya (づぼらや) ซึ่งเป็นร้านอาหารปลาปักเป้าค่ะ
※หมายเหตุ: เมื่อปี 2020 ร้าน Zuboraya Shinsekai ได้ปิดให้บริการแล้ว และได้มีการนำโคมไฟปลาปักเป้าออกไปเป็นที่เรียบร้อย
มุมมหาชนของย่านชินเซไก (Shinsekai / 新世界) ซึ่งมีทั้งโคมไฟปลาปักเป้าและหอคอยซึเทนคาคุค่ะ สำหรับร้านค้าสองข้างทางในถนนนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นร้านขายคุชิคัตสึ นอกจากนี้ก็ยังมีร้านทาโกยากิ โอโคโนมิยากิ และร้านอิซากายะซึ่งเป็นร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น ร้านอาหารส่วนใหญ่จะเปิดประมาณ 11 โมง และก็จะคึกคักมากในช่วงค่ำค่ะ
ร้านคุชิคัตสึ ดารุมะ (Kushikatsu Daruma)
แน่นอนว่ามาถึงแหล่งแล้วก็ต้องลองคุชิคัตสึซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ เราเลือกร้าน Kushikatsu Daruma สาขา Dobutsuenmae (串かつだるま 動物園前店) [ดูแผนที่] เป็นเจ้าดังของโอซาก้า มีหลายสาขาในโอซาก้าด้วยค่ะ ซึ่งแค่ในแถบย่านชินเซไกนี้ก็มีถึง 4 สาขาแล้วจ้า~
พอเข้าไปในร้านก็จะมีเมนูให้เลือก (สามารถขอเมนูภาษาอังกฤษได้) ราคาก็เริ่มต้นไม้ละ 100 กว่าเยนค่ะ อย่างหมู ไก่ ปลาหมึก ผักต่างๆ ถ้าเป็นกุ้งก็แพงหน่อยอยู่ที่ไม้ละ 200 กว่าเยน อาหารต่างๆ นั้นจะทอดมาให้เรียบร้อยแล้ว สำหรับวิธีการทานก็คือให้เอาจิ้มกับน้ำจิ้มทีเดียว ห้ามกัดแล้วจิ้มลงไปอีกครั้งนะคะ ส่วนผักเอาไว้แก้เลี่ยนค่ะ
เติมพลังเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าต่อไปยังจุดชมวิวกันค่ะ
Kokomoyotteya (ココモよってぇ屋) อยู่ก่อนถึงหอคอย เป็นร้านที่สะดุดตามากจนต้องขอแวะ หุหุ
หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower)
สัญลักษณ์ที่สำคัญของย่านชินเซไกนี้ก็คือ หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower / 通天閣) ซึ่งมีต้นแบบมาจากหอไอเฟล (Eiffel Tower) ในเมืองปารีส (Paris) ของประเทศฝรั่งเศส ตัวหอคอยเดิมสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1912 แต่ได้ถูกทำลายลงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1956 ปัจจุบันหอคอยมีความสูง 103 เมตร และมีจุดชมวิวอยู่ที่ความสูงประมาณ 90 เมตร
- เวลาทำการ:
- เปิดทุกวัน 10:00 – 20:00 น. (เข้าก่อน 19:30 น.)
- ค่าเข้าชม:
- ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่มัธยมปลาย) 900 เยน
- เด็ก (ตั้งแต่ 5 ขวบ – มัธยมต้น) 400 เยน
- ค่าเข้าชมเพิ่มเติม:
- Tembo Paradise ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก 500 เยน
- Tower Slider ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยน
- สิทธิพิเศษ: Osaka Amazing Pass
- ใช้เข้าชมได้ฟรีทุกวัน
- ใช้เล่นสไลเดอร์ Tower Slider ฟรีเฉพาะวันธรรมดา
- ได้รับส่วนลด 100 เยน สำหรับ Tembo Paradise
ทางเข้าหอคอยอยู่ตรงนี้ค่ะ เราต้องลงไปชั้น B1 ที่อยู่ด้านล่างก่อน
ลงมาก็เจอร้านขายขนมละลานตาพร้อมกับคนเข้าคิวที่ยาวพอสมควร ช่วงที่ไปนั้นคนเยอะมากค่ะ ต้องต่อคิวกันนานเกือบครึ่งชั่วโมงเลยค่ะ กว่าจะถึงเคาท์เตอร์ซื้อตั๋วที่อยู่บริเวณหน้าลิฟต์ขึ้นไปด้านบน
ราคาตั๋วปกติสำหรับผู้ใหญ่ก็อยู่ที่ 700 เยน ส่วนเราใช้ Osaka Amazing Pass แบบ 1 Day Pass ก็ใช้แสกนบาร์โค้ดก่อนขึ้นลิฟต์ได้เลย ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ (พาสราคา 2,800 เยน [สั่งซื้อพาสทางออนไลน์ที่นี่]
※หมายเหตุ: ปัจจุบันได้ปรับค่าเข้าชมจาก 700 เยน เป็น 900 เยน
กรอกโค้ด JAPKAK5OFF
ลด 5% สูงสุด 380 บาท ไม่มีขั้นต่ำ
ใช้ได้จนถึง 31 ธ.ค. 2024
ขึ้นมาด้านบนชั้น 2 แล้วก็ต้องเข้าคิวอีกเกือบครึ่งชั่วโมงเพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบนที่ชั้น 5 ระหว่างรอก็หมุนกาชาปองกันไป เอิ๊ก~ พอเดินไปได้ครึ่งทางก็มีบริการถ่ายรูปเราพร้อมใส่กรอบให้ค่ะ ใครอยากได้รูปมาเป็นของฝากก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มนะคะ
พ้นจากโซนกาชาปองก็จะเจอกับโซนการจัดแสดงเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องคินนิคุแมน (Kinnikuman) ค่ะ จากตรงนี้เหลืออีกนิดเดียวก็จะได้ขึ้นลิฟต์ไปด้านบนแล้วค่า~
ในลิฟต์ก็มีการฉายไฟค่ะ รูปที่เห็นนี้ก็คือ บิลลิเคน (Billiken) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ หลายคนน่าจะสังเกตเห็นรูปปั้นสีทองหน้าตาแบบนี้ตามหน้าร้านต่างๆ รวมทั้งของที่ระลึกที่ขายตามร้านในย่านชินเซไกแห่งนี้ค่ะ
ภาพวิวจากด้านบนชั้น 5 บนความสูง 87.5 เมตร ตึกสูงๆ ที่เห็นนั้นก็คือ ABENO HARUKAS เป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ [ดูรีวิวได้ที่ » HARUKAS 300 จุดชมวิวเมืองโอซาก้าบน ABENO HARUKAS] ส่วนอาคารยาวๆ ตรงกลางรูปก็คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองโอซาก้า (Osaka City Museum of Fine Arts) และถัดมาก็เป็นสวนสัตว์เทนโนจิ (Tennoji Zoo) ค่ะ
ภาพจากจุดชมวิวอีกฝั่ง พระอาทิตย์ก็ใกล้จะลับขอบฟ้าแล้วค่ะ
ด้านบนชั้น 5 นี้มีรูปปั้นของบิลลิเคน (Billiken) และเทพแห่งโชคลาภตามความเชื่ออีก 7 องค์ ในรูปนี้เป็นเทพเอบิสุ (Ebisu) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการประมงค่ะ
ลงมาที่ชั้น 3 ก็มีนิทรรศการแสดงแบบจำลองของชินเซไกเมื่อ 100 ปีก่อนค่ะ
ตรงนี้แบบจำลองหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ดั้งเดิมก่อนที่จะถูกทำลาย และสวนสนุกลูนาร์พาร์ค (Luna Park) ซึ่งปัจจุบันได้ปิดตัวลงไปแล้ว
ต่อด้วยร้านขายของฝาก Glico-ya
ถัดมาก็มีโซน Cafe de Luna Park ที่มีโต๊ะกับเก้าอี้ให้นั่งทาน
กลับลงมาด้านล่างก็เป็นเวลาเกือบ 5 โมงค่ะ ฟ้าเริ่มมืดแล้ว (ช่วงหน้าหนาวจะมืดเร็ว)
ถนนยามเย็น พอเปิดไฟก็ให้บรรยากาศที่ดูตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียว
หอคอยเปิดไฟตอน 5 โมงเย็นนะคะ
แล้วก็ขอลากันไปด้วยภาพมุมมหาชนของย่านชินเซไกในช่วงฟ้ามืดนี้นะคะ ถือเป็นย่านแสงสีที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น สำหรับในบทความหน้าเราก็จะพาไปเยี่ยมชมครัวของโอซาก้าแล้วหาของอร่อยทานกัน รอติดตามชมนะคะ สวัสดีค่า
อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market) ตลาดสดแหล่งของกินในเมืองโอซาก้า
ค้นหาโรงแรมที่พักในโอซาก้า
บทความเที่ยวโอซาก้า (Osaka)
การเดินทาง
› วิธีเดินทาง
- สนามบินคันไซ (Kansai Airport) และวิธีการเดินทางเข้าเมือง
- วิธีการเดินทางระหว่างโตเกียว – โอซาก้า ทั้งแบบมีและไม่มี JR PASS
- [รีวิว] รถไฟ JR HARUKA เดินทางเข้าเมืองจาก Kansai Airport
- [รีวิว] สายการบินไทย (Thai Airways) กรุงเทพ – โอซาก้า
- [รีวิว] สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines) กรุงเทพ – โอซาก้า
› บัตรเหมาจ่ายสุดคุ้ม
- Osaka Amazing Pass พาสนั่งรถไฟ & เข้าที่เที่ยวในโอซาก้าฟรี 1 – 2 วัน
- JR Kansai Wide Area Pass พาสนั่งรถไฟเที่ยวทั่วคันไซ 5 วัน
สถานที่ท่องเที่ยว
› Highlight
› Universal Studios Japan
- [รีวิว] Universal Studios Japan (USJ) พร้อม Express Pass+ทริคท่องเที่ยว
- [รีวิว] Universal Studios Japan (USJ) กับบรรยากาศช่วงคริสต์มาส
- [รีวิว] Universal Studios Japan (USJ) ตอนกลางคืน ชมโชว์ & ขบวนพาเหรด
- [รีวิว] 10 เครื่องเล่นสุดฮิตใน Universal Studios Japan (USJ) ที่ไม่ควรพลาด!
› Osaka Bay
- [รีวิว] Osaka Aquarium KAIYUKAN พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังแห่งเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Santa Maria Bay Cruise ล่องเรือชมอาทิตย์อัสดงที่อ่าวโอซาก้า
- [รีวิว] Tempozan Ferris Wheel ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน เมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Tempozan Market Place แวะกินมื้อเที่ยงที่ห้างริมอ่าวโอซาก้า
- [รีวิว] Sakishima Cosmo Tower ชมวิวอ่าวโอซาก้ามุมสูงบนตึกระฟ้า
› Umeda
- [รีวิว] Umeda Sky Building จุดชมวิวเมืองโอซาก้าบนตึกสูงระฟ้า
- [รีวิว] HEP FIVE Ferris Wheel นั่งชิงช้าสรรค์ชมวิวเมืองโอซาก้ายามค่ำ
› Namba
- [รีวิว] Dotonbori เดิน กิน เที่ยว ไปหากูลิโกะในโอซาก้า
- [รีวิว] Kuromon Ichiba Market ตลาดสดแหล่งของกินในเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Namba & Shinsaibashi ย่านละลายทรัพย์แห่งโอซาก้า
› Tennoji
- [รีวิว] HARUKAS 300 จุดชมวิวเมืองโอซาก้าบนตึก ABENO HARUKAS
- [รีวิว] วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple) วัดเก่าแก่แห่งเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Shinsekai & Tsutenkaku Tower เที่ยวย่านชินเซไก ชมวิวจากหอคอย
› Sumiyoshi
- [รีวิว] Sumiyoshi Taisha ศาลเจ้าเก่าแก่ของเมืองโอซาก้า
- [รีวิว] Osaka Museum Of Natural History ชมวิวัฒนาการเมืองโอซาก้า
› เที่ยวนอกเมือง
โรงแรมที่พัก
- [รีวิว] remm Shin-Osaka โรงแรมทำเลดีในโอซาก้า ติดสถานีรถไฟ
- [รีวิว] Residential Hotel Hare Shin-Osaka โรงแรมในบรรยากาศบ้านญี่ปุ่น
ของกินของฝาก
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com