เที่ยวโอซาก้า (Osaka)

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองโอซาก้าที่ห้ามพลาด สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1583 โดย Toyotomi Hideyoshi แต่ก็ได้รับความเสียหายจากสงครามและเหตุเพลิงไหม้ จนต้องมีการสร้างขึ้นใหม่ ตัวหอคอยปราสาทในปัจจุบันได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้บุคคลทั่วไปได้เยี่ยมชม ส่วนบริเวณรอบๆ ปราสาทก็ยังเป็นจุดชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยม

• ค่าเข้าชม: ด้านในปราสาท
  • ผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็ก (ต่ำกว่า 15 ปี) ฟรี
    ※Osaka Amazing Pass เข้าชมได้ฟรี
• เวลาทำการ: 9:00 – 17:00 (เข้าก่อน 16:30)
• วันหยุด: 28 ธันวาคม – 1 มกราคม
• การเดินทาง: เดินประมาณ 15 – 20 นาที จากสถานี
  • Tanimachiyonchome (รถไฟใต้ดินสาย Tanimachi Line)
  • Temmabashi (รถไฟใต้ดินสาย Tanimachi Line)
  • Osaka Business Park (รถไฟใต้ดินสาย Nagahoritsurumiryokuchi Line)
  • Morinomiya (รถไฟใต้ดินสาย Nagahoritsurumiryokuchi Line หรือ Chuo Line หรือ รถไฟสาย JR Osaka Loop Line)
  • Osakajokoen (รถไฟสาย JR Osaka Loop Line)

ที่เที่ยวย่านอุเมดะ (Umeda)

ย่านอุเมดะ (Umeda) ตั้งอยู่ในเขตทางเหนือของตัวเมืองโอซาก้า หรือที่เรียนว่าย่านคิตะ (Kita) เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของการขนส่งของเมือง โดยมีทั้งสถานีรถไฟ JR, Hanshin และ Hankyu ที่เชื่อมไปยังเมืองต่างๆ นอกจากนี้บริเวณรอบๆ สถานีก็ยังเต็มไปด้วยศูนย์การค้าขนาดใหญ่มากมาย

อุเมดะ สกาย บิลดิ้ง (Umeda Sky Building) สร้างเสร็จเมื่อปี 1993 มีความสูง 173 เมตร มีทั้งหมด 40 ชั้น แบ่งเป็น 2 อาคารและมีทางเชื่อมด้านบน โดยสร้างเป็นสวนลอยฟ้าซึ่งมีชื่อเรียกว่า คุจูเทเอ็น (Kuchu Teien Observatory) ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองโอซาก้าแบบ 360 ได้ นอกจากนี้ก็ยังมี ร้านค้าต่างๆ โรงภาพยนตร์ และส่วนของออฟฟิศสำนักงาน ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนที่มาเยือนโอซาก้า

• ค่าเข้าชม: Kuchu Teien Observatory
  • ผู้ใหญ่ 2,000 เยน, เด็ก (4-12 ปี) 500 เยน
    ※Osaka Amazing Pass เข้าชมได้ฟรีตั้งแต่ 9:30 – 15:00
• เวลาทำการ:
  • 9:30 – 22:30 (เข้าก่อน 22:00)
• การเดินทาง: เดินประมาณ 7 – 9 นาที จากสถานี
  • Osaka (รถไฟสาย JR)
  • Umeda (รถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line)
  • Osaka-umeda (รถไฟสาย Hankyu)

HEP FIVE หนึ่งในแลนด์มาร์คของย่านอุเมดะ เป็นศูนย์การค้าซึ่งเปิดให้บริการเมื่อปี 1998 โดยมีกลุ่มลูกค้าคือวัยหนุ่มสาว ภายในมีทั้งหมด 9 ชั้นบนดินและอีก 2 ชั้นใต้ดิน ที่ด้านบนชั้น 7 นั้นยังมีชิงช้าสวรรค์สีแดงซึ่งมีชื่อว่า HEP FIVE Ferris Wheel ตัวชิงช้าสวรรค์มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 75 เมตร เมื่อกระเช้าขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 106 เมตร จะสามารถมองเห็นตัวเมืองโอซาก้าได้โดยรอบ

• ค่าเข้าชม: HEP FIVE Ferris Wheel
  • 800 เยน, เด็ก (ต่ำกว่า 5 ขวบ) ฟรี
    ※Osaka Amazing Pass ขึ้นได้ฟรี
• เวลาทำการ:
  • ร้านค้า 11:00 – 21:00
  • ร้านอาหาร 11:00 – 22:30
  • สวนสนุก 11:00 – 23:00
  • HEP FIVE Ferris Wheel 11:00 – 23:00 (รอบสุดท้าย 22:45)
• การเดินทาง: เดินประมาณ 3 – 5 นาที จากสถานีดังต่อไปนี้
  • สถานี Osaka-umeda (รถไฟสาย Hankyu)
  • สถานี Osaka-Umeda (รถไฟสาย Hanshin)
  • สถานี Osaka (รถไฟสาย JR) ทางออก Midosuji Exit
  • สถานี Umeda (รถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line)
  • สถานี Higashi-Umeda (รถไฟใต้ดินสาย Tanimachi Line)

Osaka Station City เป็นแหล่งรวมศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงสถานีรถไฟ JR Osaka แบ่งออกได้เป็น 2 อาคารคือ South Gate Building ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า Daimaru Umeda และโรงแรม Hotel Granvia Osaka ส่วนอีกอาคารคือ North Gate Building ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้า LUCUA และ LUCUA 1100

• เวลาทำการ:
  • Daimaru Umeda
    ร้านค้า 10:00 – 20:00, ร้านอาหาร 11:00 – 23:00
  • LUCUA, LUCUA 1100
    ร้านค้า 13:00 – 20:30, ร้านอาหาร 11:00 – 23:00
• ทำเลที่ตั้ง: เชื่อมกับสถานี JR Osaka

ที่เที่ยวย่านนัมบะ (Namba)

ย่านนัมบะ (Namba) รวมไปถึงย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) และย่านนิปปอนบาชิ (Nipponbashi) ตั้งอยู่ในเขตทางใต้ของตัวเมืองโอซาก้า หรือที่เรียนว่าย่านมินามิ (Minami) ทั้ง 3 ย่านนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถเดินเที่ยวต่อกันได้เลย

โดทงโบริ (Dotonbori) ถนนเลียบคลองที่เริ่มตั้งแต่สะพานโดทงโบริ (Dotonboribashi Bridge) ไปจนถึงสะพานนิปปอมบาชิ (Nippombashi Bridge) สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย โดยมีสัญลักษณ์สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องมาถ่ายรูปด้วยก็คือ ป้ายกูลิโกะ (Glico Sign) ซึ่งอยู่ตรงสะพานเอบิสึบาชิ (Ebisubashi Bridge)

• เวลาทำการ:
• การเดินทาง: จากสถานี Namba (รถไฟใต้ดิน) ทางออก Exit 14 เดินประมาณ 3 นาที
• ร้านค้าเปิดประมาณ 11:00 – 21:00
  ※เวลาทำการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้าน

Don Quijote Dotonbori หรือที่เรียกกันว่า “ร้านดองกิ” เป็นร้านจำหน่ายสินค้าลดราคาขวัญใจนักท่องเที่ยว โดยมีให้เลือกสารพัดตั้งแต่ขนม เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงของแบรนด์เนม สาขานี้ยังมีความพิเศษตรงที่มีชิงช้าสวรรค์แบบวงรีแห่งแรกของโลกที่หมุนในแนวนอนอีกด้วย โดยใช้เวลานั่งประมาณ 15 นาทีต่อรอบ

• ค่าเข้าชม: Ebisu Tower 1,000 เยน
• เวลาทำการ:
  • Don Quijote เปิด 24 ชั่วโมง
  • Ebisu Tower 11:00 – 22:00 (รอบสุดท้าย 21:30)
    ※เวลาทำการในแต่ละฤดูอาจมีการเปลี่ยนแปลง
• การเดินทาง: จากสถานี Namba (รถไฟใต้ดิน) ทางออก Exit 14 เดินประมาณ 5 นาที

คลิกรับคูปองส่วนลดที่ร้านดองกิในญี่ปุ่น
ลด 5% เมื่อซื้อ 10,000 เยนขึ้นไป (ไม่รวมภาษี)
ลด 7% เมื่อซื้อ 30,000 เยนขึ้นไป (ไม่รวมภาษี)

ถนนเอบิสุบาชิ (Ebisu Bashi-suji) ถนนช้อปปิ้งใต้หลังคาที่อยู่ระหว่างสะพานเอบิสึบาชิทางฝั่งใต้ของย่านโดทงบริ (Dotonbori) ยาวมาจนถึงห้าง Namba Marui รวมมีระยะทางประมาณ 400 เมตร เรียงรายไปด้วยร้านขายสินค้าแฟชั่น ร้านขายของฝาก ตลอดจนร้านอาหารและขนมหวานของญี่ปุ่น

• เวลาทำการ:
  • ร้านค้าเปิดประมาณ 11:00 – 21:00
    ※เวลาทำการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้าน
• การเดินทาง:
  • สถานี Namba (รถไฟใต้ดิน) ทางออก Exit 14, B12, B13, B14, B15
  • สถานี Namba (รถไฟ Nakai) ทางออก Exit E3

ถนนชินไซบาชิ-ซุจิ (Shinsaibashi-suji) เป็นถนนช้อปปิ้งใต้หลังคาที่อยู่ระหว่างสะพานเอบิสึบาชิทางฝั่งเหนือของย่านโดทงบริ (Dotonbori) ยาวมาจนถึงย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) รวมมีระยะทางประมาณ 600 เมตร เรียงรายไปด้วยร้านขายสินค้าแฟชั่นและร้านค้าอีกนานาชนิด ถือได้ว่าเป็นถนนละลายทรัพย์ของโอซาก้าที่ห้ามพลาด

• เวลาทำการ:
  • ร้านค้าเปิดประมาณ 11:00 – 21:00
    ※เวลาทำการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้าน
• การเดินทาง:
  • สถานี Namba (รถไฟใต้ดิน) ทางออก Exit 14 เดินประมาณ 5 นาที
  • สถานี Shisaibashi (รถไฟใต้ดิน) ทางออก Exit 5, 6, 10

อเมริกามูระ (Americamura) หรือที่เรียกว่า “หมู่บ้านอเมริกัน” ตั้งอยู่ใกล้กับย่านชินไซบาชิ (Shisaibashi) เป็นแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งวัฒนธรรมของเหล่าวัยรุ่นของฝั่งโอซาก้า คล้ายๆ กับย่านชิบูย่า (Shibuya) และฮาราจูกุ (Harajuku) ของฝั่งโตเกียว

• เวลาทำการ:
  • ร้านค้าเปิดประมาณ 11:00 – 20:00
    ※เวลาทำการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้าน
• การเดินทาง:
  • จากสถานี Shisaibashi (รถไฟใต้ดิน) เดินประมาณ 3 นาที
  • จากสถานี Yotsubashi (รถไฟใต้ดิน) เดินประมาณ 3 นาที
  • จากสถานี Namba (รถไฟใต้ดิน) เดินประมาณ 7 นาที

ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market) ตั้งอยู่ในย่านนิปปอนบาชิ (Nipponbashi) เป็นตลาดสดเก่าแก่ของเมืองโอซาก้า และได้ชื่อว่าเป็น “ครัวของโอซาก้า” ประกอบด้วยร้านต่างๆ กว่า 170 ร้านซึ่งตั้งเรียงกันอยู่สองข้างทางเดินระยะ 580 เมตร ทั้งร้านขายอาหารสด อาหารพร้อมทาน ผักผลไม้ และของใช้ต่างๆ

• เวลาทำการ:
  • 9:00 – 18:00
    ※เวลาทำการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้าน
• การเดินทาง:
  • จากสถานี Nippombashi (รถไฟใต้ดิน) ทางออก Exit 10 เดินประมาณ 5 นาที
  • จากสถานี Kintetsu-Nippombashi ทางออก Exit 10 เดินประมาณ 5 นาที

ที่เที่ยวย่านเทนโนจิ (Tennoji)

ย่านเทนโนจิ (Tennoji) อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตัวเมืองโอกาซ้า เป็นอีกย่านที่เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเมือง โดยมีทั้งสถานีรถไฟ JR และ Kintetsu และยังเป็นที่ตั้งของอาคารที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น รวมถึงพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่

อาคารอาเบะโนะ ฮารุคัส (ABENO HARUKAS) มีความสูง 300 เมตร มีจำนวน 60 ชั้นบนดินและ 5 ชั้นใต้ดิน ที่ด้านบนมีจุดชมวิว HARUKAS 300 ซึ่งสามารถชมเมืองโอซาก้าได้แบบ 360 องศา นอกจากนี้ก็ยังมีศูนย์การค้า Kintetsu Department Store รวมทั้งโรงแรม Osaka Marriott Miyako Hotel อาคารอาเบะโนะ ฮารุคัสได้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2014 ถือเป็นอาคารที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นในขณะนั้น จนกระทั่งถูกแซงหน้าด้วยตึกอาซาบูได ฮิลส์ โมริ เจพี ทาวเวอร์ในโตเกียวที่เปิดตัวในปี 2023

• ค่าเข้าชม:
  • HARUKAS 300 ผู้ใหญ่ 2,000 เยน, เด็ก 500 – 1,200 เยน
    ※Osaka Amazing Pass ลดค่าเข้าชมได้ 10%
• เวลาทำการ:
  • HARUKAS 300 9:00 – 22:00 (เข้าก่อน 21:30)
  • Kintetsu Department Store 10:00 – 20:00
• การเดินทาง:
  • จากสถานี Osaka-Abenobashi (รถไฟสาย Kintetsu) เดินประมาณ 1 นาที
  • จากสถานี Tennoji (รถไฟlสาย JR และรถไฟใต้ดิน) เดินประมาณ 2 นาที

วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple) สร้างขึ้นเมื่อปี 593 โดยเจ้าชายโชโตคุ (Prince Shotoku) ถือเป็นวัดพุธอย่างเป็นทางการแห่งแรกของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ภายในวัดมีเจดีย์ห้าชั้นซึ่งมีความสวยงาม โดยเป็นต้นแบบของเจดีย์แดงที่มีวิวภูเขาไฟฟูจิที่เห็นกันบ่อยๆ ตามรูปโปรโมทการท่องเที่ยวญี่ปุ่น

• ค่าเข้าชม:
  • Central Temple ผู้ใหญ่ 400 เยน, เด็ก 300 เยน
  • Garden ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก 200 เยน
    ※Osaka Amazing Pass เข้าชมได้ฟรี
• เวลาทำการ:
  • เมษายน – กันยายน 8:30 – 16:30
  • ตุลาคม – มีนาคม 8:30 – 16:00
• การเดินทาง:
  • จากสถานี Shitennojimae-yuhigaoka เดินประมาณ 5 นาที
  • จากสถานี Tennoji เดินประมาณ 12 นาที
  • จากสถานี Osaka-Abenobashi เดินประมาณ 14 นาที

ที่เที่ยวย่านชินเซไก (Shinsekai)

ย่านชินเซไก (Shinsekai) แปลตรงตัวได้ว่า “โลกใหม่” เป็นหนึ่งในย่านแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในเมืองโอซาก้าโดยอยู่ใกล้ๆ กับย่านเทนโนจิ (Tennoji) ย่านนี้เป็นเมืองเก่าที่มีบรรยากาศแบบย้อนยุคสไตล์เรโทร โดยเป็นแหล่งรวมร้านอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้าอย่างคุชิคัตสึ ซึ่งเป็นอาหารเสียบไม้แล้วชุบแป้งทอด

ตรอกจังจังโยโกะโจ (Janjan Yokocho) หรือที่เรียกว่า ถนนช้อปปิ้งนันโยโดริ (Nanyodori Shopping Street) เป็นถนนสายช้อปปิ้งใต้หลังคาที่มีความยาวประมาณ 180 เมตร เรียงรายไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านขายคุชิคัตสึจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษ

• เวลาทำการ:
  • ร้านค้าเปิดประมาณ 10:00 – 20:00
    ※แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้าน
• การเดินทาง:
• จากสถานี Dobutsuen-mae ทางออก 1 เดินประมาณ 5 นาที
  • จากสถานี Shin-Imamiya ทางออก East เดินประมาณ 5 นาที

หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของย่านชินเซไก (Shinsekai) มีต้นแบบมาจากหอไอเฟลในเมืองปารีส ตัวหอคอยเดิมสร้างขึ้นเมื่อปี 1912 แต่ได้ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1956 ปัจจุบันหอคอยมีความสูง 103 เมตร และมีจุดชมวิวอยู่ที่ความสูงประมาณ 90 เมตร

• ค่าเข้าชม:
  • ผู้ใหญ่ 1,200 เยน, เด็ก 600 เยน
    ※Osaka Amazing Pass เข้าได้ฟรี
• เวลาทำการ: 10:00 – 20:00 (เข้าก่อน 19:30)
• การเดินทาง:
  • จากสถานี Ebisucho (รถไฟใต้ดินสาย) ทางออก Exit 3 เดินประมาณ 3 นาที
  • จากสถานี Dobutsuen-mae (รถไฟใต้ดิน) ทางออก Exit 1 เดินประมาณ 6 นาที
  • จากสถานี Shin-Imamiya (รถไฟสาย JR) ทางออก East Exit เดินประมาณ 6 นาที

ที่เที่ยวริมอ่าวโอซาก้า (Osaka Bay)

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) หรือที่เรียกย่อๆ ว่า USJ เปิดให้บริการเมื่อปี 2001 เป็นสวนสนุกยอดนิยมของโอซาก้าที่ห้ามพลาด ประกอบไปด้วย 10 โซนหลัก ได้แก่ Hollywood, New York, Minion Park, San Francisco, Jurassic Park, Amity Village, Waterworld, Universal Wonderland, The Wizarding World of Harry Potter และ Super Nintendo World

• ค่าเข้าชม: 1 DAY Studio Pass
  • ผู้ใหญ่ 8,600 – 10,900 เยน
  • เด็ก 5,600 – 6,800 เยน
    ※ราคาแตกต่างไปตามวันที่เข้าชม [ดูข้อมูลตั๋วเพิ่มเติม]
• เวลาทำการ:
  • 8:30 – 22:00
    ※แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัน (ประกาศล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน)
• การเดินทาง: จากสถานี Universal City (รถไฟ JR สาย Yumesaki Line) เดินประมาณ 4 นาที

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium KAIYUKAN) เปิดให้บริการเมื่อปี 1990 เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณเท็มโปซาน ฮาร์เบอร์ วิลเลจ (Tempozan Harbor Village) ตรงบริเวณริมอ่าวโอซาก้า ภายในมีทั้งหมด 8 ชั้น ประกอบด้วย 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนอุโมงค์ตู้ปลาสำหรับชมสัตว์น้ำ โซนจำลองป่าญี่ปุ่น และโซนมหาสมุทรแปซิฟิก

• ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 2,700-3,500 เยน, เด็ก 700 – 1,800 เยน
• เวลาทำการ:
  • 8:00 – 21:00
    ※เวลาทำการอาจแตกต่างไปในแต่ละฤดูกาล
• วันหยุด: กรุณาตรวจสอบวันหยุดที่เว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์
• การเดินทาง: จากสถานี Osakako (รถไฟใต้ดินสาย Chuo Line) เดินประมาณ 10 นาที

เรือซานต้ามาเรีย (Santa Maria) เป็นเรือสำราญที่ให้บริการล่องเรือชมวิวในอ่าวโอซาก้า ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 45 – 60 นาทีต่อรอบ ตัวเรือสร้างเลียนแบบเรือที่มีชื่อว่า “Santa Maria” ของโคลัมบัสซึ่งใช้ล่องไปยังทวีปอเมริกา โดยมีขนาดใหญ่กว่า 2 เท่า

• ค่าเข้าชม:
  • Day Cruise: ผู้ใหญ่ 1,800 เยน, เด็ก 900 เยน
  • Twilight Cruise: ผู้ใหญ่ 2,300 เยน, เด็ก 1,150 เยน
    ※Osaka Amazing Pass ขึ้นได้ฟรี
• เวลาทำการ:
  • Day Cruise เริ่ม 11:00 รอบสุดท้าย 17:00 (หรือ 16:00 ในบางวัน)
  • Twilight Cruise เริ่ม 17:30 – 19:00 น. (ขึ้นอยู่กับวัน)
• วันหยุด: หยุดตรงกับวันหยุดของ Osaka Aquarium KAIYUKAN
• ทำเลที่ตั้ง: ท่าเรืออยู่ข้างๆ พิพิธภัณฑ์ Osaka Aquarium KAIYUKAN

ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Ferris Wheel) เป็นจุดชมวิวบริเวณโอซาก้าที่ได้รับความนิยม เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 1997 มีความสูงที่ 112.5 เมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 100 เมตร ประกอบด้วย 60 กระเช้า ใช้เวลานั่งประมาณ 15 นาทีต่อรอบ นอกจากนี้ในตอนกลางคืนยังมีการประดับไฟที่ชิงช้าสวรรค์ LED อย่างสวยงาม

• ค่าเข้าชม: 900 เยน
  ※Osaka Amazing Pass ขึ้นได้ฟรี
• เวลาทำการ: 10:00 – 22:00 (บางวันเปิดถึง 21:00)
  ※เวลาทำการในแต่ละฤดูอาจมีการเปลี่ยนแปลง
• วันหยุด: หยุดตรงกับวันหยุดของ Osaka Aquarium KAIYUKAN
• การเดินทาง: จากสถานี Osakako (รถไฟใต้ดินสาย Chuo Line) เดินประมาณ 5 นาที

เท็มโปซาน มาร์เก็ต เพลส (Tempozan Market Place) เป็นศูนย์การค้าที่ประกอบด้วยร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร รวมกว่า 80 ร้าน และก็ยังมีศูนย์อาหาร Naniwa Kuishinbo Yokocho ที่รวมอาหารท้องถิ่นของโอซาก้าไว้หลายชนิด ตลอดจนสวนสัตว์ในร่ม Tempozan Anipa และสวนสนุก LEGOLAND Discovery Center Osaka ซึ่งเหมาะกับการมาท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว

• เวลาทำการ:
  • ร้านค้า 11:00 – 20:00
  • ร้านอาหาร 11:00 – 21:00
  • ศูนย์อาหาร 11:00 – 20:00
    ※แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้าน
• วันหยุด: หยุดตรงกับวันหยุดของ Osaka Aquarium KAIYUKAN
• ทำเลที่ตั้ง: อยู่ติดกับชิงช้าสวรรค์ Tempozan Ferris Wheel

ซากิชิมะ คอสโม ทาวน์เวอร์ (Sakishima Cosmo Tower) อาคารศาลาว่าการจังหวัดโอซาก้า เปิดทำการครั้งแรกเมื่อปี 1995 ตัวอาคารสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโอซาก้า และสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ด้วยความสูง 256 เมตร แบ่งเป็น 55 ชั้นเหนือพื้นดินและ 3 ชั้นใต้ดิน โดยชั้นบนสุดนั้นมีจุดชมวิวซึ่งสามารถเดินชมได้แบบ 360 องศา

• ค่าเข้าชม: Sakishima Cosmo Tower Observatory
  • ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 600 เยน
    ※Osaka Amazing Pass ขึ้นได้ฟรี
• เวลาทำการ: 11:00 – 22:00 (เข้าก่อน 21:30)
• วันหยุด: ทุกวันจันทร์ (หรือวันถัดมาในกรณีที่วันจันทร์เป็นวันหยุด), 1 มกราคม
• การเดินทาง:
  • จากสถานี Trade Center Mae เดินประมาณ 3 นาที
  • จากสถานี Cosmosquare เดินประมาณ 7 นาที

ที่เที่ยวรอบโอซาก้า (Around Osaka)

ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทฉะ (Sumiyoshi Taisha) สร้างขึ้นในปี 211 ถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่มากของญี่ปุ่น ตัวอาคารหลักที่เห็นในปัจจุบันนั้นสร้างขึ้นเมื่อปี 1810 ภายในเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าที่คุ้มครองนักเดินทางและชาวเรือ นอกจากนี้ยังมีสะพานโค้งสีแดงที่สะท้อนกับผิวน้ำซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 วิวที่สวยที่สุดของภูมิภาคคันไซอีกด้วย

• ค่าเข้าชม: ฟรี
• เวลาทำการ:
  • เมษายน – กันยายน เปิด 6:00 – 17:00 น.
  • ตุลาคม – มีนาคม เปิด 6:30 – 17:00 น.
• การเดินทาง:
  • จากสถานี Sumiyoshi Taisha เดินประมาณ 1 นาที
  • จากสถานี Sumiyoshi-Toriimae เดินประมาณ 1 นาที

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาโอซาก้า (Osaka Museum Of Natural History) ตั้งอยู่ภายในบริเวณสวนนะงะอิ (Nagai Park) ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองโอซาก้า เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับความเป็นมาของเมืองโอซาก้า รวมทั้งความสัมพันธ์ของมนุษย์และธรรมชาติ มีไฮไลท์อยู่ที่การจัดแสดงโครงกระดูกไดโนเสาร์ทีขุดพบในจังหวัดโอซาก้า

• ค่าเข้าชม:
• ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก 200 เยน
  ※Osaka Amazing Pass เข้าฟรี
• เวลาทำการ:
  • มีนาคม – ตุลาคม 9:30 – 17:00 (เข้าก่อน 16:30)
  • พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ 9:30 – 16:30 (เข้าก่อน 16:00)
• วันหยุด:
  • ทุกวันจันทร์ (หรือวันถัดมาในกรณีที่วันจันทร์เป็นวันหยุด)
  • ช่วงปีใหม่ (28 ธันวาคม – 4 มกราคม)
• การเดินทาง: จากสถานี Nagai ทางออก 3 เดินประมาณ 10 นาที

สวนมิโน (Minoo Park) หรือชื่อเต็มๆ ว่า วนอุทยานแห่งชาติเมจิ โนะ โมริ มิโน (Meiji no Mori Minoo Park) เป็นวนอุทยานแห่งชาติซึ่งตั้งอยู่บนหุบเขามิโน (Mount Minoo) โดยอยู่ในระดับเหนือน้ำทะเลประมาณ 100 – 600 เมตร เต็มไปด้วยพรรณไม้และแมลงนานาชนิด มีจุดชมวิวที่สำคัญคือ น้ำตกมิโน (Minoo Waterfall) ซึ่งมีความกว้าง 5 เมตร และสูง 33 เมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม

• ค่าเข้าชม: ฟรี
• เวลาทำการ:
  • น้ำตก เปิด 24 ชั่วโมง
  • ร้านค้า เปิดประมาณ 11:00 – 17:00
• การเดินทาง: จากสถานี Minoo เดินไปยังน้ำตกประมาณ 50 นาที

อาหารขึ้นชื่อของโอซาก้า

โอซาก้าเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องของกินอร่อย โดยมีอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อหลายอย่าง อาทิ

• ทาโกยากิ (Takoyaki) ขนมครกญี่ปุ่นที่ทำจากแป้งและผัก สอดไส้ด้วยปลาหมึกยักษ์
• โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki) พิซซ่าญี่ปุ่นที่ทำจากแป้งและกะหล่ำปลี
• คุชิคัตสึ (Kushikatsu) อาหารเสียบไม้ชุบแป้งทอด กินคู่กับน้ำจิ้มและกะหล่ำปลี

การเดินทางในเมืองโอซาก้า

รถไฟใต้ดิน

รถไฟใต้ดินของเมืองโอซาก้า (Osaka Metro) ประกอบด้วย 8 สายหลักๆ ได้แก่ Midosuji Line, Tanimachi Line, Yotsubashi Line, Chuo Line, Sennichimae Line, Sakaisuji Line, Nagahori Tsurumi-ryokuchi Line และ Imazatosuji Line เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในเมือง ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 190 เยน (เด็ก 100 เยน) สำหรับบัตรเหมาที่แนะนำคือ Osaka Amazing Pass ราคาเริ่มต้นที่ 3,500 เยน

รถไฟ JR

รถไฟ JR WEST ที่ให้บริการเป็นหลักคือสาย Osaka Loop Line ที่วิ่งเป็นวงกลมรอบเมือง นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายสาย เช่น Kansai Airport Line ที่ให้บริการระหว่างสนามบินคันไซ, JR Yumesaki Line ที่วิ่งไปยังสวนสนุก Universal Studios Japan เป็นต้น

รถไฟเอกชน

ในเมืองโอซาก้ามีรถไฟเอกชนให้บริการหลายบริษัท ได้แก่ Nankai, Hankyu, Kintetsu, Hanshin และ Keihan ซึ่งจะวิ่งให้บริการภายในเมืองและไปยังเมืองใกล้เคียงต่างๆ เช่น เกียวโต โกเบ นารา

รถไฟอื่นๆ

• รถไฟ New Tram เป็นรถไฟอัตโนมัติที่ไม่มีคนขับ ให้บริการในแถบริมอ่าวโอซาก้า
• รถราง (Tramway) ให้บริการในแถบชานเมืองของโอซาก้า

รถบัส

รถบัสไม่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในโอซาก้า เนื่องจากรถไฟใต้ดินและรถไฟท้องถิ่นนั้นครอบคลุมการเดินทางภายในเมืองแล้ว อีกทั้งยังรวดเร็วกว่าอีกด้วย

รถเช่า

การเช่ารถขับในโอซาก้าเป็นทางเลือกที่สะดวกสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่นอกตัวเมือง ไม่ต้องกังวัลเรื่องรอบรถสาธารณะ แถมยังสามารถเช่าและคืนรถคนละจุดได้ บริษัทรถเช่าก็มีอาทิ Toyota Rent a Car, Nissan Rent a Car, Nippon Rent-A-Car, Orix Rent a Car, Times Car Rental เป็นต้น

การเดินทางมายังเมืองโอซาก้า

การเดินทางจากโตเกียว

สามารถเดินทางมาได้สะดวกจากโตเกียวโดยรถไฟชินคันเซ็นในเส้นทางระหว่างสถานี Tokyo – Shin-Osaka โดยขบวนที่เร็วที่สุดคือ NOZOMI ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง หากขึ้นเครื่องบินในประเทศก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายก็นิยมนั่งรถบัสกลางคืน (Night Bus) โดยใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง ซึ่งจะมาถึงโอซาก้าในตอนเช้าพอดี

การเดินทางจากประเทศไทย

สามารถนั่งเครื่องบินตรงมาจากกรุงเทพมาลงที่สนามบินคันไซ (Kansai International Airport / ตัวย่อ: KIX) โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5.30 – 6 ชั่วโมง ซึ่งมีให้เลือก 4 สายการบินหลัก คือ การบินไทย (Thai Airways), เจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines), ไทยแอร์เอเชียเอกซ์ (Thai AirAsia X) และล่าสุดคือ สายการบินพีช (Peach Aviation) หรือต่อเครื่องบินในประเทศอื่น เช่น เวียดนาม แอร์ไลน์ (Vietnam Airlines), สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงขึ้นไป

ย่านที่พักในเมืองโอซาก้า

• ย่านชินโอซาก้า (Shin-Osaka): ย่านด้านเหนือของตัวเมืองโอซาก้ามีรถไฟชินคันเซ็นผ่าน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวทั้งในเมืองและนอกเมืองด้วย JR Pass ต่างๆ รวมทั้งมีรถไฟด่วนพิเศษ HARUKA ที่วิ่งระหว่างสนามบินคันไซ ตลอดจนรถไฟ JR และรถไฟใต้ดิน
• ย่านอุเมดะ (Umeda): ย่านใจกลางเมืองที่มีแหล่งช้อปปิ้งมากมาย และยังเป็นศูนย์กลางการเดินทางรถไฟต่างๆ ของ JR รวมทั้งรถไฟด่วนพิเศษ HARUKA ที่วิ่งระหว่างสนามบินคันไซ (แต่ไม่มีชินคันเซ็น) และบริษัทเอกชนอย่าง Hankyu และ Hanshin รวมทั้งรถไฟใต้ดินและรถบัสลีมูซีนระหว่างสนามบินคันไซ
• ย่านนัมบะ (Namba): ย่านช้อปปิ้งชื่อดังของโอซาก้าอย่างโดทงโบริ รวมถึงชินไซบาชิ และตลาดคุโรมง มีรถไฟใต้ดินผ่านหลายสาย และยังมีรถไฟด่วนพิเศษ Rapi:t ของบริษัท Nankai ที่วิ่งระหว่างสนามบินคันไซ เหมาะสำหรับคนที่เน้นเที่ยวในตัวเมือง
• ย่านเทนโนจิ (Tennoji): นย่านธุรกิจที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของโอซาก้าที่เดินทางสะดวกเช่นกัน โดยมีทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟ JR รวมทั้งรถไฟด่วนพิเศษ HARUKA ที่วิ่งระหว่างสนามบินคันไซ และรถไฟ Kintetsu