คู่มือเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido Guide)
ข้อมูลการท่องเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง แนะนำและรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดฮอกไกโดที่ห้ามพลาด ทั้งในเมืองซัปโปโรและเมืองรอบๆ ตลอดจนสภาพอากาศ วิธีการเดินทาง สำหรับการวางแผนท่องเที่ยว
เกี่ยวกับฮอกไกโด (Hokkaido)
ฮอกไกโด (Hokkaido / 北海道) เป็นทั้งภูมิภาค ชื่อของเกาะ และยังเป็นหนึ่งใน 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น โดยชื่อมีความหมายของชื่อตามตัวว่า “ทางสู่ทะเลเหนือ”
เกาะฮอกไกโด ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 รองจาก เกาะฮอนชู (Honshu) ซึ่งเป็นเกาะหลักของญี่ปุ่น โดยมีอุโมงรถไฟชินคันเซ็นใต้ทะเลชื่อว่า อุโมงค์เซกัง (Seikan Tunnel) เชื่อมระหว่างทั้งสองเกาะบริเวณช่องแคบช่องแคบสึงารุ (Tsugaru Strait)
เมืองซัปโปโรซึ่งเป็นเมืองหลักของฮอกไกโด
นอกจากนั้นแล้ว ฮอกไกโดยังประกอบไปด้วยเกาะเล็กๆ อีกหลายเกาะ มีศูนย์กลางและเมืองหลักอยู่ที่เมืองซัปโปโร (Sapporo / 札幌) ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของเกาะและยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้
นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางมาฮอกไกโดได้ด้วยเที่ยวบินตรงและทรานสิทจากกรุงเทพ มาลงที่สนามบินนิวชิโตเซะ (New Chitose Airport) หรือชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า สนามบินชินชิโตเซะ (Shin-Chitose Airport / 新千歳空港) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองซัปโปโรไปประมาณ 45 กิโลเมตร สามารถเดินทางเข้าเมืองซัปโปโรด้วยรถไฟ JR จากสนามบินโดยใช้เวลาเพียง 37 นาที หรือโดยสารรถบัส Chuo Bus ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 70 นาที นอกจากนั้นแล้ว ยังสามารถนั่งสายการบินในประเทศหรือรถไฟชินคันเซ็น (Hokkaido Shinkansen) จากจังหวัดอื่นๆ ของญี่ปุ่นมาที่ฮอกไกโดก็ได้เช่นกัน
สภาพภูมิอากาศและฤดูกาลของฮอกไกโด
เกาะฮอกไกโดตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น ประกอบกับพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นภูเขา จึงมีอากาศหนาวเย็นและมีหิมะปกคลุมเป็นเวลาหลายเดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคม จากนั้นหิมะจะเริ่มละลายและเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีดอกซากุระบานในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤศภาคม
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอ้างอิงจากเมืองซัปโปโรโดยเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 8.9 องศา อุณหภูมิในช่วงหน้าร้อนอาจขึ้นไปสูงกว่า 30 องศา แต่ก็ไม่ได้ร้อนอบอ้าวมากเหมือนกับในเมืองหลวงอย่างโตเกียว โดอยอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 13 องศา ส่วนอุณต่ำสุดเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 5 องศา
ในช่วงหนาวที่สุดของฮอกไกจะอยู่ที่ประมาณเดือนมกราคม อุณหภูมิอาจจะลงไปอยู่ต่ำกว่า -10 องศาเลยทีเดียว ดังนั้น หากมาท่องเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว จึงควรเตรียมพร้อมรับกับสภาพอากาศอันหนาวจัด และควรระมัดระวังเรื่องพายุหิมะ รวมทั้งการเดินและสัญจรบนสภาพถนนที่ลื่น จึงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ข้อมูลเพิ่มเติม:
● คำแนะนำในการเตรียมตัวไปเที่ยวฮอกไกโดในฤดูหนาวแบบติดลบ
ฤดูกาลของฮอกไกโด
ฤดูกาลในของฮอกไกโดสามารถแบ่งได้เป็น 4 ฤดู คือ
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 3 – 10 องศา
- ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16 – 24 องศา
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 – 15 องศา
- ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 1 – ลบ 5 องศา
บทความแนะนำ:
● ตารางพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี 2020 ที่ญี่ปุ่น แบบละเอียดยิบ
● ตารางพยากรณ์ซากุระบาน 2021 ที่ญี่ปุ่น แบบละเอียดยิบ
การท่องเที่ยวในฮอกไกโด
นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางมาเที่ยวฮอกไกโดได้อย่างสะดวกสบายด้วยเที่ยวบินตรงจากประเทศไทยไปลงที่ สนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) หรือ สนามบินชินชิโตเสะ (Shin-Chitose Airport) ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองซัปโปโร โดยมีให้สายการบินแบบ Full Service คือ สายการบินไทย (Thai Airways) หรือ สายการบินแบบ Low Cost ได้แก่ ไทยแอร์เอเชียเอกซ์ (Thai AirAsia X) และ นกสกู๊ต (NokScoot) นอกจากนี้ยังสามารถต่อสายการบินในประเทศหรือรถไฟความเร็วสูงอย่างชินคันเซ็น รวมทั้งการต่อเครื่องในประเทศอื่นก่อนบินตรงสู่ฮอกไกโดก็ได้
นอกจากการท่องเที่ยวในหน้าหนาวซึ่งมีเทศกาลหิมะและการเล่นสกีเป็นไฮไลท์แล้ว เกาะฮอกไกโดยังมีที่ให้เที่ยวตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการชมความงามของธรรมชาติ เช่น การชมดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ ชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์และดอกไม้นานาพันธุ์ในช่วงฤดูร้อน ชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เป็นต้น รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การแช่ออนเซ็นหรือบ่อน้ำพุร้อน ลิ้มลองราเมงต้นตำหรับ ชิมอาหารทะเล ผลไม้สดๆ และเบียร์ชื่อดัง เยี่ยมชมสิ่งก่อสร้างสวยๆ ทางประวัติศาสตร์ เป็นต้น
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในในฮอกไกโด
ฮอกไกโดเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่มากและมีเมืองท่องเที่ยวอยู่หลายแห่ง ในบทความนี้ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากเมืองซัปโปโรและเมืองรอบๆ อย่างเมืองโอตารุ เมืองฟุราโนะ รวมถึงเมืองฮาโกดาเตะ
เมืองซัปโปโร (Sapporo)
เมืองซัปโปโร (Sapporo / 札幌) เป็นเมืองหลักของฮอกไกโด มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ มีประชากรอาศัยอยู่ราว 2 ล้านคน พื้นที่ประกอบด้วยที่ราบซึ่งเป็นเขตตัวเมือง และพื้นที่ภูเขาซึ่งเหมาะแก่การเล่นสกีในหน้าหนาว รวมถึงการขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของเมือง
- เว็บไซต์: sapporo.travel (ภาษาไทย)
โดราเอม่อน วาคุวาคุ สกาย พาร์ค
DORAEMON WAKU WAKU SKY PARK
ドラえもん わくわくスカイパーク
พิพิธภัณฑ์โดราเอม่อน วาคุวาคุ สกาย พาร์ค (DORAEMON WAKU WAKU SKY PARK) ตั้งอยู่ที่สนามบินนิวชิโตเสะ สามารถแวะเที่ยวได้เลยหลังจากที่มาถึงสนามบินหรือจะแวะก่อนขึ้นเครื่องบินกลับก็ได้ ภายในพิพิธภัณฑ์มีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย รวมถึงสนามเด็กเล่น ห้องสมุด ที่ทำเวิร์คช็อป ร้านขายของที่ระลึกและคาเฟ่โดราเอม่อน เป็นที่เที่ยวที่เหมาะทั้งเด็กและผู้ใหญ่
- เว็บไซต์: new-chitose-airport.jp (ภาษาอังกฤษ)
- เวลาทำการ: 10:00-18:00 (เข้าก่อน 17:30)
- ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก (13-18 ปี) 500 เยน, เด็ก (3-12 ปี) 400 เยน
- ทำเลที่ตั้ง: อยู่ภายในสนามบินนิวชิโตเสะ อาคาร Domestic Terminal Building ชั้น 3 โซน Smile Road
สวนสาธารณะโอโดริ
Odori Park
大通公園
สวนโอโดริ (Odori Park) เป็นสาธารณะแนวยาวไปกับถนนกว่า 1.5 กิโลเมตร ตั้งอยู่กลางเมืองซัปโปโรจากทิศเหนือไปยังทิศใต้ ในฤดูร้อนจะเห็นสวนเขียวขจีมีสีสันสวยงาม ส่วนในฤดูหนาวจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะจนเป็นสีขาวโพลน นอกจากนั้น สวนแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่ในการจัด เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี [ดูรีวิว Sapporo Snow Festival] หากต้องการชมภาพมุมสูงของสวนโอโดริ สามารถขึ้นไปชมได้ที่หอคอยซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower)
- เว็บไซต์: odori-park.jp (ภาษาอังกฤษ)
- เวลาทำการ: เปิดตลอดเวลา
- ทำเลที่ตั้ง: ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Odori
- การเดินทาง:
- จากสถานีรถไฟใต้ดิน Odori (Namboku Line, Toho Line, Tozai Line) เดินประมาณ 1 นาที
- จากสถานีรถไฟ JR Sapporo เดินประมาณ 10 นาที
ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์
Sapporo TV Tower
さっぽろテレビ塔
ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) เป็นหอคอยความสูง 147 เมตรซึ่งใช้เป็นที่ส่งสัญญาณโทรทัศน์ของเมืองและเป็นจุดชมวิวที่ความสูง 90 เมตร สามารถมองเห็นวิวของสวนโอโดริ (Odori Park) ได้ตรงหน้าพอดีและยังมองเห็นวิวของเมืองได้ 360 องศา เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองซัปโปโร
- เว็บไซต์: tv-tower.co.jp (ภาษาไทย)
- เวลาทำการ: ฤดูร้อน 9:00 – 22:00 น., ฤดูหนาว 9:30-21:30 น.
- ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 720 เยน, เด็ก (13 – 19 ปี) เริ่ม 100 – 600 เยน
- ทำเลที่ตั้ง: อยู่ในสวน Odori Park ตรงปลายสุดทางทิศตะวันออก
- การเดินทาง:
- จากสถานีรถไฟใต้ดิน Odori (Exit 27) (Namboku Line, Toho Line, Tozai Line) เดินประมาณ 1 นาที
- จากสถานีรถไฟ JR Sapporo (South Exit) เดินประมาณ 15 นาที
หอนาฬิกาซัปโปโร
Sapporo Clock Tower
札幌市時計台
หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) เป็นหอนาฬิกาสไตล์อเมริกันซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองซัปโปโรที่ทำด้วยไม้ทั้งหลัง ตัวอาคารสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1878 โดยเป็นอาคารเรียนของ Sapporo Agricultural College (ปัจจุบันคือ Hokkaido University) และได้นำเข้านาฬิกามาจากเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา มาติดตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1881 ปัจจุบันได้กลายพิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติของเมืองที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้
- เว็บไซต์: sapporoshi-tokeidai.jp (ภาษาอังกฤษ)
- เวลาทำการ: 8:45 – 17:10 น. (เข้าก่อน 17:00 น.)
- ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 200 เยน, เด็ก (ต่ำกว่ามัธยมปลาย) เข้าฟรี
- ทำเลที่ตั้ง: อยู่ห่างไป 1 บล็อกทางทิศเหนือของสวน Odori Park (ใกล้ๆ กับ Sapporo TV Tower)
- การเดินทาง:
- จากสถานีรถไฟใต้ดิน Odori (Exit 7) (Namboku Line, Toho Line, Tozai Line) เดินประมาณ 5 นาที
- จากสถานี JR Sapporo (South Exit) เดินประมาณ 10 นาที
ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (ทำเนียบอิฐแดง)
Former Hokkaido Government Office Building (Red Brick Office)
北海道庁旧本庁舎(赤れんが庁舎)
ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (Former Hokkaido Government Office Building) หรือที่เรียกว่าทำเนียบอิฐแดง (Red Brick Office) นั้นเป็นอาคารขนาดใหญ่ซึ่งทำจากอิฐสีแดงและเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของฮอกไกโด ตัวอาคารสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 และได้ใช้งานมากว่า 80 ปีก่อนที่จะย้ายไปยังอาคารศาลาว่าการหลังใหม่ที่อยู่ด้านหลัง ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมภายในโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- เว็บไซต์: welcome.city.sapporo.jp (ภาษาไทย)
- เวลาทำการ: 8:45 – 18:00 น. (หยุดทำการในช่วงปีใหม่)
- ค่าเข้าชม: ฟรี
- การเดินทาง:
- จากสถานีรถไฟ JR Sapporo เดินประมาณ 8 นาที
- จากสถานีรถไฟใต้ดิน Odori (Namboku Line, Toho Line, Tozai Line) เดินประมาณ 9 นาที
ย่านซูซูกิโนะ
Susukino
すすきの
ย่านซูซุกิโนะ (Susukino) เป็นย่านเอนเตอร์เนทเมนต์ยามค่ำคืนที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร เทียบๆ ได้กับย่านคาบูกิโจ (Kabukico) ของโตเกียว ที่นี่มีทั้งแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญ คือ ตรอกทานุกิโคจิ (Tanukikoji Shopping Street) และตรอกราเมง (Ganso Ramen Yokocho) ที่มีชื่อเสียงของซัปโปโร ภายในย่านนี้ยังมีร้านอาหาร สถานบันเทิง ร้านคาราโอเกะให้เลือกอีกมากมาย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็ยังใช้เป็นหนึ่งในสถานที่จัดเทศกาลหิมะอีกด้วย
- เว็บไซต์: susukino-ta.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
- เวลาทำการ: ขึ้นอยู่กับร้านค้า
- การเดินทาง:
- จากสถานีรถไฟใต้ดิน Susukino (Namboku Line) เดินประมาณ 1 นาที
- จากสถานีรถไฟใต้ดิน Hosuisusukino (Toho Line) เดินประมาณ 5 นาที
ร้านคิตะโนะกูรุเมะ
Kitanogurume
北のグルメ
ร้านคิตะโนะกูรุเมะ (Kitanogurume) เป็นร้านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในตลาดกลางขายส่งเมืองซัปโปโร (Sapporo Central Wholesale Market ) แบ่งเป็นโซนที่ขายอาหารสดๆ ของขึ้นชื่อ อาหารประจำฤดูกาลของฮอกไกโด และยังมีโซนร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารทะเล เช่น ข้าวหน้าปลาดิบ ไข่ปลา ปูยักษ์ หอยเม่น เป็นต้น [ดูเมนู] ที่บอกได้เลยว่าของที่นี่สด อร่อย และมีคุณภาพดีมากๆ
- เว็บไซต์: kitanogurume.co.jp (ภาษาอังกฤษ)
- เวลาทำการ: โซนร้านอาหาร 7:00 – 15:00 น. (สั่งก่อน 14:30 น.)
- การเดินทาง:
- จากสถานีรถไฟ JR Soen เดินประมาณ 15 นาที
- จากสถานีรถไฟใต้ดิน Nijuyonken (Tozai Line) เดินประมาณ 5 นาที
ชิโรอิโคอิบิโตะ พาร์ค (โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ)
Shiroi Koibito Park (Ishiya Chocolate Factory)
白い恋人パーク (イシヤチョコレートファクトリー)
สวนสนุกชิโรอิโคอิบิโตะซึ่งเป็นโรงงานผลิตขนมของฝากขึ้นชื่อของฮอกไกโดโดยบริษัท Ishiya ภายในประกอบไปด้วย โรงงานผลิตขนมที่เปิดให้ชมกระบวนการผลิตได้ พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของเล่นและของสะสมหายาก สวนกุหลาบหลากหลายพันธุ์ แกลอรี่เครื่องเล่นแผ่นเสียง ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายสินค้าต่างๆ
- เว็บไซต์: shiroikoibitopark.jp (ภาษาไทย)
- เวลาทำการ: 10:00 – 18:00 น. (เข้าก่อน 17:00 น.)
- การเดินทาง: จากสถานีรถไฟใต้ดิน Miyanosawa (Tozai Line) เดินประมาณ 7 นาที
ลานสกีโอะคุระยะมะ จัมป์ สเตเดียม
Okurayama Ski Jump Stadium
大倉山ジャンプ競技場
ลานกระโดดสกีความสูง 90 เมตรซึ่งเคยใช้จัดแข่งโอลิมปิคฤดูหนาวเมื่อปี ค.ศ. 1972 ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมและจัดแข่งขันกระโดดสกี อีกทั้งยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวรอบๆ ซัปโปโรจากยอดเขาและจุดสตาร์ทกระโดดสกีได้ โดยการนั่งกระเช้าระยะทางกว่า 300 เมตร
- เว็บไซต์: okura.sapporo-dc.co.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
- เวลาทำการ:
- ฤดูร้อน (ปลายเดือนเมษายน – ตุลาคม 8:30 – 21:00 น.
- ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – ปลายเดือนเมษายน) 9:00 – 17:00 น.
- ค่าโดยสารลิฟต์: ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยน (ไป-กลับ)
- การเดินทาง:
- รถบัส:
· Burari Sapporo Kanko Bus (JR Sapporo Station ↔ Okurayama) *เดินทางได้เฉพาะช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
· JR Bus หมายเลข 14 จาก Maruyama Bus Terminal (Araiyama Line) ตรงทางออก Exit 2 ของสถานีรถไฟ Maruyama Koen Station (Tozai Subway Line) มาลงที่ Okurayama Kyogijo Iriguchi Bus Stop แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
- รถแท็กซี่: จากสถานีรถไฟใต้ดิน Maruyama Koen (Tozai Line) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
- รถบัส:
ลานสกีซัปโปโรบังเค
Sapporo Bankei Ski Area
さっぽろばんけいスキー場
ลานสกีบังเค (Bankei Ski) เป็นลานสกีที่ตั้งอยู่ใกล้กับตัวเมืองซัปโปโรมากๆ และเปิดบริการจนถึง 4 ทุ่ม จึงได้รับความนิยมทั้งจากชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่นี่มีทั้งลานสกีสำหรับขั้น Beginner ไปจนถึงขั้น Advance และมีอุปกรณ์ให้เช่าอย่างครบครัน ไม่ว่าใครก็สามารถมาเล่นสกีได้แม้ไม่มีประสบการณ์ก็ตาม อีกทั้งยังมีสวนสนุกหิมะสำหรับเด็กๆ ให้ได้เพลิดเพลินกันด้วย
- เว็บไซต์: bankei.co.jp (ภาษาอังกฤษ)
- เวลาทำการ: จันทร์ – เสาร์ 9:00 – 22:00 น., อาทิตย์ วันหยุด 8:30 – 22:00 น.
- การเดินทาง: จากสถานี Maruyama Koen (Tozai Line) ต่อรถบัสอีกประมาณ 15 นาที
สวนสาธารณะทาคิโนะ ซุซุรัน ฮิลล์ไซด์พาร์ค
Takino Suzuran Hillside Park
国営滝野すずらん丘陵公園
สวน Takino Suzuran เป็นสวนทีมีอาณาเขตกว้างขวาง ประกอบด้วย ภูเขา ลำธาร ป่า และทุ่งดอกไม้ ในช่วงที่อากาศอบอุ่น ต้นไม้ใบหญ้าจะมีสีเขียวขจี ดอกไม้มีสีสันสดใส ส่วนช่วงฤดูหนาวที่นี่จะกลายเป็นลานสกีสีขาวโพลนด้วยหิมะซึ่งมีชื่อว่า “Takino Snow World” สามารถมาเล่นสกีและ Snow Tubing ในช่วงนี้ได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าเข้าสวน
- เว็บไซต์: takinopark.com.e.bn.hp.transer.com (ภาษาอังกฤษ)
- ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 450 เยน (ฤดูหนาว เข้าฟรี)
- เวลาทำการ:
- ฤดูใบไม้ผลิ 9:00 – 17:00 น.
- ฤดูร้อน 9:00 – 18:00 น.
- ฤดูใบไม้ร่วง 9:00 – 17:00 น.
- ฤดูหนาว 9:00 – 16:00 น.
- การเดินทาง: นั่งรถบัส หมายเลข 106 (真106) จากสถานีรถไฟ Makomanai (真駒内駅) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
เมืองโอตารุ (Otaru)
โอตารุ (Otaru / 小樽市) เป็นเมืองท่าเล็กๆ ตั้งอยู่ติดกับเมืองซัปโปโรในทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟ ภายในเมืองมีอาคารและโกดังเก่าแก่ในสไตล์ตะวันตกที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อยู่หลายแห่ง ได้บรรยากาศเหมือนมาเที่ยวยุโรป
- เว็บไซต์: city.otaru.lg.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
- การเดินทาง: จากสถานี JR Sapporo นั่งรถไฟสาย JR Hakodate Line มาลงที่สถานี Otaru ใช้เวลาประมาณ 30 – 50 นาที (ขึ้นอยู่กับขบวนรถไฟ)
คลองโอตารุ
Otaru Canal
小樽運河
คลองที่มีความสวยงามซึ่งไหลผ่านกลางเมืองโอตารุ เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง ริมคลองตกแต่งด้วยโคมไฟสไตล์วิคตอเรียนและมีอาคารโกดังที่สร้างจากอิฐเป็นแนวยาวไปตามคลองได้บรรยากาศโรแมนติกมากๆ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปียังใช้เป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานเทศกาล “Otaru Snow Light Path Festival” ซึ่งจะมีการประดับตกแต่งด้วยโคมไฟทั่วทั้งเมือง
- เว็บไซต์: city.otaru.lg.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
- การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Otaru เดินประมาณ 10 นาที
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ
Otaru Music Box Museum
小樽オルゴール堂
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีเก่าแก่ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคลองโอตารุ ส่วนของอาคารหลัก (Main Building) เป็นอาคารสไตล์ตะวันตก 3 ชัันที่สร้างจากอิฐ มีอายุกว่า 100 ปี ด้านหน้าของอาคารมีนาฬิกาไอน้ำจากเมืองแวนคูเวอร์ตั้งอยู่ซึ่งจะพ่นไอน้ำทุก 1 ชั่วโมงประกอบกับเสียงดนตรีดังทุกๆ 15 นาที ส่วนภายในอาคารมีทั้งโซนจำหน่ายกล่องดนตรีและของที่ระลึกต่างๆ มากมายและโซนที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของกล่องดนตรี
- เว็บไซต์: otaru-orgel.co.jp (ภาษาไทย)
- เวลาทำการ: 9:00 – 18:00 น. (วันศุกร์และเสาร์ในช่วงหน้าร้อน เปิดถึง 19:00 น.)
- ค่าเข้าชม: ฟรี
- การเดินทาง:
- จากสถานีรถไฟ Otaru เดินประมาณ 15 นาที
- จากสถานีรถไฟ Minami-Otaru เดินประมาณ 10 นาที
โรงกลั่นวิสกี้นิกกะ โยอิจิ
Nikka Whisky Yoichi Distillery
ニッカウヰスキー余市蒸溜所
โรงกลั่นวิสกี้ชื่อดังของญี่ปุ่น “Nikka Whisky (ニッカウヰスキー)” ก่อตั้งโดย Masataka Taketsuru ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ไปเรียนรู้เทคนิคการกลั่น Scotch Whisky ต้นตำรับที่สก๊อตแลนด์ โรงกลั่นแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง โยอิจิ (Yoichi-cho / 余市町) เป็นเมืองซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง โอตารุ (Otaru / 小樽市) อาคารต่างๆ และบรรยากาศภายในพื้นที่ของโรงกลั่นดูคลาสสิคเหมือนอยู่ในประเทศสก๊อตแลนด์ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปเชี่ยมชมโรงกลั่นและพิพิธภัณฑ์วิสกี้ได้ อีกทั้งยังมีวิสกี้ให้ชิมฟรีอีกด้วย เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเนื่องจากใช้เป็นที่ถ่ายทำซีรี่ส์ญี่ปุ่นเรื่อง “Massan (マッサン)” ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตของผู้ก่อตั้งนั่นเอง
- เว็บไซต์: nikka.com (ภาษาอังกฤษ)
- เวลาทำการ: 9:00 – 17:00 น.
- ค่าเข้าชม: ฟรี
- การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR Sapporo หรือ Otaru ให้นั่งรถไฟสาย JR Hakodate Line มาลงที่สถานี Yoichi แล้วเดินประมาณ 7 นาที
เมืองฟุราโนะ (Furano)
เมืองฟุราโนะ (Furano / 富良野) เป็นเมืองที่อยู่ใจกลางฮอกไกโดพอดี จึงได้ชื่อเล่นว่าเมืองสะดือของฮอกไกโด เมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องการชมธรรมชาติทั้งในฤดูร้อนที่จะมีทุ่งลาเวนเดอร์และทุ่งดอกไม้หลากสีกว้างสุดลูกหูลูกตา ส่วนในฤดูหนาวก็จะมีลานสกีและสถานที่สำหรับเล่นหิมะ
- เว็บไซต์: furanotourism.com (ภาษาอังกฤษ)
- การเดินทาง:
- จากสถานีรถไฟ JR Sapporo ให้นั่งรถไฟ Limited Express มาที่สถานี Asahikawa แล้วต่อรถไฟสาย JR Furano Line มาลงที่สถานี Furano ใช้เวลาประมาณ 150 นาที
- จากสถานีรถไฟ JR Sapporo ให้นั่งรถไฟ Limited Express มาที่สถานี Takikawa แล้วต่อรถไฟสาย JR Furano Line มาลงที่สถานี Furano ใช้เวลาประมาณ 150 นาที
Ningle Terrace
ニングルテラス
หมู่บ้านนิงเกิลเทอเรส (Ningle Terrace) ตั้งอยู่ในบริเวณโรงแรม New Furano Prince Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมและลานสกีชื่อดังของเมือง ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่มีทางเดินในป่าที่เหมือนกับในเทพนิยาย โดยประกอบประกอบด้วยบ้าน 15 หลัง ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าที่จำหน่ายสินค้างานฝีมือและสินค้าจากท้องถิ่น รวมถึงร้านกาแฟ
- เว็บไซต์: princehotels.com (ภาษาอังกฤษ)
- เวลาทำการ: 12.00 – 20.45 น. (กรกฎาคม – สิงหาคม 10:00 – 20:45 น.)
- การเดินทาง: จากสถานี Furano สามารถนั่งรถบัส Lavender Bus มาลงที่โรงแรม New Furano Prince Hotel ใช้เวลาประมาณ 18 นาที
เมืองบิเอะ (Biei)
เมืองบิเอะ (Biei / 美瑛) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองฟุราโนะ (Furano) ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟประมาณ 35 นาที ถือว่าเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมทางด้านธรรมชาติแบบทุ่งกว้างและเนินเขา ซึ่งได้รับการโปรโมททางโทรทัศน์ของญี่ปุ่นมากมาย
- เว็บไซต์: biei-hokkaido.jp (ภาษาอังกฤษ)
- การเดินทาง: จากสถานี JR Sapporo ให้นั่งรถไฟ LTD. EXP มาลงที่สถานี Asahikawa แล้วต่อรถไฟสาย JR Furano Line มาลงที่สถานี Biei ใช้เวลาประมาณ 180 นาที
บ่อน้ำสีฟ้า
Blue Pond (Aoi-ike)
青い池
บ่อน้ำสีฟ้าหรือที่เรียกกันว่า Blue Pond (Aoi-ike) เป็นบ่อน้ำที่ถูกกักไว้จากการสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันโคลนถล่มบริเวณภูเขาไฟในแถวนั้น การที่น้ำในบ่อมีสีฟ้าสดกว่าบ่อน้ำทั่วไปๆ ก็เป็นเพราะอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์จากการปะทุของภูเขาไฟที่อยู่ในน้ำได้สะท้อนกับแสงแดดที่ส่องลงมา นักท่องเที่ยวสามารถมาชมความงามของบ่อน้ำได้ตลอดทั้งปี และในช่วงหน้าหนาวก็ยังมีการจัดงาน Winter Illumination โดยฉายไฟสีฟ้าที่บ่อน้ำในช่วงที่ฟ้ามืดอีกด้วย
- เว็บไซต์: biei-hokkaido.jp (ภาษาอังกฤษ)
- เวลาทำการ: 8:00 – 21:30 น.
- ค่าเข้าชม: ฟรี
- การเดินทาง: นั่งรถบัส Dohoku Bus (เส้นทาง Biei – Shirogane) จากสถานี Biei มาลงที่ป้าย Blue Pond Entrance ใช้เวลาประมาณ 20 นาที แล้วเดินต่อมายังบ่อน้ำอีกประมาณ 7 – 8 นาที
ชิโรกาเนะ ออนเซ็น
Shirogane Onsen
白金温泉
Shirogane Onsen หรือ Shirogane Hot Spring ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ่อน้ำสีฟ้า เป็นโซนของโรงแรมและออนเซ็นที่อยู่บนภูเขา สามารถมาแช่ออนเซ็นกลางแจ้งท่ามกลางหิมะได้ นอกจากนี้ใกล้ๆ กันก็ยังมีน้ำตกชิราฮิเกะ (Shirahige Waterfall) ซึ่งมีสีฟ้าอมเขียว เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของเกาะฮอกไกโด
- เว็บไซต์: biei-hokkaido.jp (ภาษาอังกฤษ)
- การเดินทาง: นั่งรถบัส Dohoku Bus (เส้นทาง Biei – Shirogane) จากสถานี Biei มาลงที่ป้าย Shirogane Hot Spring ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate)
ฮาโกดาเตะ (Hakodate / 函館) เป็นเมืองท่าทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด สามารถเดินทางมาจากเมืองซัปโปโรได้ด้วยรถไฟ เมืองฮาโกดาเตะขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพยามค่ำคืนอันสวยงามและอาหารทะเลที่สดอร่อย
- เว็บไซต์: hakodate.travel (ภาษาไทย)
- การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR Sapporo ให้นั่งรถไฟ Super Hokuto มาลงที่สถานี Hakodate ใช้เวลาประมาณ 210 นาที
กระเช้าลอยฟ้า ภูเขาฮาโกดาเตะ
Mt. Hakodate Ropeway
函館山ロープウェイ
กระเช้าลอยฟ้า ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate Ropeway) เป็นกระเช้าสำหรับขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมือง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากได้มาเมืองฮาโกดาเตะ ใช้เวลานั่งกระเช้าประมาณ 3 นาที ด้านบนยังมีร้านอาหารที่สามารถดินเนอร์ไปด้วยชมวิวยามค่ำไปด้วย และร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว
- เว็บไซต์: 334.co.jp (ภาษาไทย)
- เวลาทำการ:
- 25 เมษายน -15 ตุลาคม 10.00 – 22.00 น.
- 16 ตุลาคม – 24 เมษายน 10.00 – 21.00 น.
- ค่าขึ้นกระเช้า: ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, เด็ก 700 เยน (ไป-กลับ)
- การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Hakodate ให้นั่งรถรางมาลงที่ป้าย Jujigai แล้วเดินต่ออีก 10 นาทีจะถึงทางขึ้นกระเช้า
ป้อมโกเรียวคาคุ & โกเรียวคาคุทาวเวอร์
Fort Goryokaku & Goryokaku Tower
五稜郭 & 五稜郭タワー
ป้อมโกเรียวคาคุ (Fort Goryokaku) เป็นป้อมรูปดาวห้าแฉกแห่งเดียวในญี่ปุ่น สร้างขึ้นเมื่อ 100 กว่าปีก่อนเพื่อให้มีพื้นที่ว่างในการวางปืนใหญ่ ต่อมาได้ดัดแปลงเป็นสวนสาธารณะ ซึ่งเป็นจุดที่นิยมมาชมความงามซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาชมภาพมุมสูงของป้อมได้ที่หอคอยโกเรียวคาคุทาวเวอร์ (Goryokaku Tower)
- เว็บไซต์: goryokaku-tower.co.jp (ภาษาอังกฤษ)
- เวลาทำการ:
- 21 เมษายน – 20 ตุลาคม 8:00 – 19:00 น.
- 21 ตุลาคม – 20 เมษายน 9:00 – 18:00 น.
- ช่วง Hoshi no Yume Festival (ฤดูหนาว) 9:00 – 19:00 น.
- ค่าเข้าชมหอคอย: ผู้ใหญ่ 900 เยน, เด็กมัธยม 680 เยน, เด็กประถม 450 เยน
- การเดินทาง: จากสถานี JR Hakodate ให้นั่งรถรางมาลงที่ป้าย Goryokaku-Koen-mae แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
สวนพฤษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ
Hakodate Tropical Botanical Garden
函館市熱帯植物園
สวนพฤกศาสตร์เขตร้อนเมืองฮาโกดาเตะตั้งอยู่บริเวณน้ำพุร้อนยุโนคาว่า (Yunokawa Hot Spring) จึงสามารถปลูกพืชในแถบเขตร้อนได้ มีกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวนั้นก็คือการมาชมความน่ารักลิงแช่ออนเซ็นสุดฟินในช่วงฤดูหนาว
- เว็บไซต์: hako-eco.com (ภาษาญี่ปุ่น)
- เวลาทำการ:
- เมษายน – ตุลาคม เวลา 9.30 – 18.00 น.
- พฤศจิกายน – มีนาคม เวลา 9.30 – 16.30 น.
- หยุด 29 ธันวาคม – 1 มกราคม
- ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก (ประถม-มัธยมปลาย) 100 เยน
- การเดินทาง: จากสถานี JR Hakodate ให้นั่งรถบัส Hakodate Bus ตรงชานชาลาที่ 3 มาลงป้าย Nettai Shokubutsu-en
รูปภาพโดย สตรอเบอร์รี่น้อยฯ, Poi
เขียนเมื่อ Oct,9 2015
อัพเดทล่าสุด Feb 22, 2021
บทความเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido)
- คู่มือท่องเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido) แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด!
- ไปฮอกไกโดพักที่ไหนดี? แนะนำที่เที่ยวและที่พักฮอกไกโดตามฤดูกาล
- เตรียมตัวไปเที่ยวฮอกไกโดในฤดูหนาวแบบติดลบ
- [รีวิว] ที่เที่ยวฮอกไกโด (เมืองซัปโปโร & โอตารุ) ช่วงหน้าหนาว หิมะฟูๆ
รีวิวเที่ยวฮอกไกโดช่วงเทศกาลหิมะ
- แพลนเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว 5 วัน ช่วงเทศกาลหิมะ
- [รีวิว] 1: บินภายในประเทศกับ Vanilla Air (โตเกียว – ซัปโปโร)
- [รีวิว] 2: งานเทศกาลน้ำแข็งซูซูกิโนะ (SUSUKINO ICE WORLD)
- [รีวิว] 3: งานเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)
- [รีวิว] 4: พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Museum Main Hall)
- [รีวิว] 5: พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Hall Number 2 Antique Museum)
- [รีวิว] 6: เดินเที่ยว Otaru Sakaimachi Street & แวะร้าน Kita no Ryoba
- [รีวิว] 7: งานเทศกาลหิมะโอตารุ Otaru Snow Light Path Festival
- [รีวิว] 8: วิธีการเดินทาง Sapporo – Furano – Biei ด้วยรถบัสและรถไฟ
- [รีวิว] 9: เที่ยวเมืองบิเอะ (Biei) แช่ออนเซ็นกลางหิมะที่ Shirogane Onsen
- [รีวิว] 10: บ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond (Aoi-ike) ที่เมืองบิเอะ (Biei)
- [รีวิว] 11: เที่ยวเมืองฟุราโนะ (Furano) เล่นสุนัขลากเลื่อนฟาร์ม YUMA
- [รีวิว] 12: ลานสกี New Furano Prince Hotel & หมู่บ้าน Ningle Terrace
- [รีวิว] 13: เที่ยวตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) ในเมืองซัปโปโร
- [รีวิว] 14: ลานเบียร์ Sapporo Beer Garden & พิพิธภัณฑ์ Beer Museum
- [รีวิว] 15: ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office)
- [รีวิว] 16: บุฟเฟ่ต์อาหารทะเล Seafood Buffet NANDA
- [รีวิว] 17: สวนศิลปะซัปโปโร (Sapporo Art Park)
รีวิวเที่ยวฮอกไกโด *เพราะคิดถึงจึงมาหา♥ (ซัปโปโร – โอตารุ)
- [รีวิว] 1: สายการบิน ALL NIPPON AIRWAYS (ANA) กรุงเทพ – ซัปโปโร
- [รีวิว] 2: พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน DORAEMON WAKU WAKU SKY PARK
- [รีวิว] 3: เดินทางจากสนามบิน New Chitose Airport เข้าเมืองซัปโปโรด้วยรถไฟ
- [รีวิว] 4: เล่น Snow Tubing ที่ Takino Suzuran Hillside Park
- [รีวิว] 5: เดินเที่ยวบนดินและใต้ดินใจกลางเมืองซัปโปโร (Susukino – Odori)
- [รีวิว] 6: เดินทางจากซัปโปโรไปเที่ยวเมืองโรแมนติก โอตารุ (Otaru)
- [รีวิว] 7: Otaru Kitaichi Hall ร้านอาหารและคาเฟ่สุดโรแมนติกในโอตารุ
- [รีวิว] 8: นั่งกระเช้า Otaru Tenguyama Ropeway ชมวิวเมืองโอตารุ
รีวิวเที่ยวฮาโกดาเตะ ~เมืองตอนใต้ของฮอกไกโด~
- [รีวิว] 1: เดินทางจากซัปโปโรไปฮาโกดาเตะ (Sapporo-Hakodate) ด้วยรถไฟ
- [รีวิว] 2: นั่งกระเช้า Mt. Hakodate Ropeway ชมวิวบนภูเขาฮาโกดาเตะ
- [รีวิว] 3: ดูลิงแช่ออนเซ็นที่ Tropical Botanical Garden
- [รีวิว] 4: ป้อมดาว Fort Goryokaku & หอคอย Fort Goryokaku Tower
- [รีวิว] 5: ตลาดเช้า Hakodate Morning Market & ร้านเบอร์เกอร์ Lucky Pierrot
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com