วันนี้เราจะพามาลุยหิมะปุยๆ ที่เมืองฟุราโนะ (Furano) บนเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) กันต่อนะคะ โดยเป็นการท่องเที่ยวแถบ New Furano Prince Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมและสกีรีสอร์ทชื่อดังของเมือง พร้อมด้วย Ningle Terrace หมู่บ้านในเทพนิยายที่อยู่ใกล้ๆ กับโรงแรมค่ะ

เกี่ยวกับโรงแรม New Furano Prince Hotel

New Furano Prince Hotel (โรงแรม นิว ฟุราโนะ พริ๊นซ์ โฮเทล) หรือ Shin Furano Prince Hotel (โรงแรม ชิน ฟุราโนะ พริ๊นซ์ โฮเทล) เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ที่เมืองฟุราโนะ (Furano) ในใจกลางเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถมาเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ทั้งการเล่นสกีและหิมะ การแช่ออนเซ็น รวมถึงการแวะช้อปปิ้งและเดินเที่ยวที่ Ningle Terrace (นิงเกิ้ล เทอเรส)

วิธีการเดินทางมายังโรงแรม

เราสามารถเดินทางมาทั้งจากเมืองอาซาฮีคาว่า เมืองบิเอะ และตัวเมืองฟุราโนะ โดยนั่งรถ Lavender Bus (Asahikawa Station – Asahikawa Airport – Furano) มาสุดสายที่ป้าย New Furano Prince Hotel ได้เลยค่ะ [ดูตารางรถบัสและจุดขึ้นรถ » ที่นี่]

  • จากสถานี Asahikawa ใช้เวลาประมาณ 120 นาที
  • จากสนามบิน Asahikawa Airtport ใช้เวลาประมาณ 80 นาที
  • จากสถานี Biei ใช้เวลาประมาณ 104 นาที
  • จาากสถานี Furano ใช้เวลาประมาณ 18 นาที

ที่อยู่โรงแรม: Nakagoryo, Furano-shi Hokkaido, 076-8511 Japan [ดูแผนที่]

รีวิวเที่ยว New Furano Prince Hotel

ในบทความตอนที่แล้ว เราได้เดินทางจากสถานี Furano มายังฟาร์มม้า Furano Trekking Support YUMA ซึ่งอยู่ในโซนเดียวกับโรงแรม New Furano Prince Hotel นี้เลยค่ะ (สำหรับคนที่อยากจะพักที่นี่ก็สามารถเช็คราคาและห้องพักได้ที่นี่) ส่วนคนที่เดินทางมาจากสถานี Furano ก็สามารถนั่งรถ Lavender Bus มาจนสุดสาย ลงรถที่โรงแรมได้เลย

ด้วยความที่ลานสกีของโรงแรมอยู่ใกล้กับฟาร์มม้า YUMA จนสามารถเดินขึ้นไปได้ เราก็ตัดสินใจเดินขึ้นไปตามเส้นทางตรงนี้ค่ะ แต่ว่าเห็นป้ายเล็กๆ ด้านขวามือในรูปมั้ยคะ ดูเหมือนจะมีอะไรให้ดู แถมยังมีทางเดินให้เข้าไปด้วย งานนี้เราอาจจะเจออะไรน่าสนใจในป่าสนหิมะแห่งนี้ก็ได้นะคะ ขอชะแว่บเข้าไปดูกันหน่อยดีกว่า

เดินๆ มาก็มีแต่ป่าและหิมะสีขาว แต่อย่างน้อยเราก็เจอนี่ค่ะ มีโคมไฟด้วย!!! (ดีใจอะไรปานนั้น) เป็นสัญญลักษณ์ว่าเราไม่ได้เข้าไปในส่วนที่ไม่มีคนเลย ก็เลยเดินต่อไป ลึกเข้าไปอีกกก

ในที่สุดก็เจอสิ่งปลูกสร้างแล้วจ้า บ้านหลังนี้คือร้านกาแฟค่ะ การตกแต่งภายในร้านให้บรรยากาศเก่าแก่ มีเค้ก ของหวานคล้ายๆ คอฟฟี่ช็อป เปิดตั้งแต่ 11:00 น. และคนก็เต็มเร็วมาก เข้าไปต้องนั่งรถคิว ตอนนั่งรอก็ได้กลิ่นหอมของกาแฟโชยมา แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่ถึงคิวเสียที จนเรายอมแพ้ไปก่อน 555

รูปนี้ได้มาจากการที่โดนก้อนหิมะตกใส่หัวค่าาา (ฮา~) หิมะที่สะสมอยู่ยอดไม้ เมื่อมีลมพัดมา ก็ทำให้หิมะบนต้นไม้ร่วงลงมากระแทกกระหม่อมเราพอดี ความรู้สึกมันก็จะมึนๆ และเย็นๆ หน่อย อิ อิ แต่เมื่อมองขึ้นไปก็ทำให้ได้ภาพสวยๆ ของป่าสนในหน้าหนาวมาด้วยประการละฉะนี้ หุ หุ

เดินขึ้นเขามาอีก สูงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็พบกับทางเดินที่มีคนทำเอาไว้แล้วค่าา ไม่หลงเนอะไม่หลง (เสียวจริงๆ) เมื่อเดินพ้นทางเดินนี้ไปเราก็ได้พบกับสถานที่ที่เป็นเป้าหมายของเราอย่างไม่คาดคิด (555)

Furano Ski Area

นั่นก็คือ ลานสกีของ New Furano Prince Hotel นั่นเอง แต่บริเวณที่เราไปโผล่นี้เป็นลานสำหรับขี่ Snowmobile (มอเตอร์ไซค์หิมะ) มากกว่าค่ะ ซึ่งถามว่าเป็นยังไง? วิ่งเล่นได้มั้ย? คือลองเข้าไปเดินในช่วงที่ยังไม่เปิดให้บริการมอเตอร์ไซค์หิมะได้นะคะ แต่ว่าหิมะในลานนี้ค่อนข้างยวบ ใครที่ไม่ได้ใส่รองเท้ากันหิมะแบบบูทยาวก็เปียกอย่างไม่ต้องสงสัยจ้ะ

นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Snowmobile (มอเตอร์ไซค์หิมะ) แต่ว่าต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการเล่นด้วย ซึ่งต้องติดต่อตกลงให้เรียบร้อยก่อนใช้บริการนะคะ

นอกจากนั้นในบริเวณใกล้ๆ กันก็มี Banana Boat (บาบาน่าโบ๊ทหิมะ) ด้วยค่ะ ประเทศไทยมีในทะเล ประเทศญี่ปุ่นก็มีในลานหิมะ เหมาะสำหรับคนอยากเล่นหิมะแต่ไม่อยากเหนื่อย ก็นั่งบาบาน่าโบ๊ทไปจ้ะ อิ อิ

ไม่ใกล้ไม่ไกลกันก็มีลานหิมะสำหรับให้เล่นโดยเฉพาะ ใครที่อยากเล่นเลื่อนเล็กๆ (มีให้เช่า) เล่นปั้นหิมะ ปาหิมะ กลิ้งๆ บนหิมะก็เชิญด้านนี้เลยค่ะ แต่ใครที่ไม่ได้ใส่รองเท้าบูทกันหิมะแบบยาวมา ก็จะเล่นลำบากหน่อย ดูเหมือนเหยียบไปแล้วจะไม่จมนะคะ แต่จริงๆ มันจมไปประมาณข้อเท้า บางจุดก็ครึ่งแข้ง แต่สำหรับคนที่อยากเล่นหิมะแบบไม่เล่นสกี ตรงนี้ก็น่าเล่นมาก มานอนกลิ้งเกลือกกันสนุกสนานเลยค่ะ

เห็นเป็นบ้านหน้าตาแบบนี้นะคะ ตอนแรกเราก็คิดว่าเฉพาะเจ้าหน้าที่รึเปล่า แต่จริงๆ แล้วด้านในคือ Information ค่ะ ใครจะเล่นอะไร ต้องทำอย่างไร สามารถติดต่อด้านในได้เลย อุ่นมากด้วย

หลังจากติดต่อกับ Information เรียบร้อยแล้วก็จะมาเข้าแถวตามช่องของแต่ละกิจกรรมตรงนี้ค่ะ โดยแบ่งเป็น ช่องซ้ายสุดสีน้ำเงินก็เป็น Snowmobile (มอเตอร์ไซค์หิมะ) ถัดมาในช่องที่มีป้ายสีแดงก็เป็น Rafting (ล่องแก่งหิมะ) และช่องซ้ายสุดก็คือ Banana Boat (บาบาน่าโบ๊ทหิมะ)

แต่สิ่งที่แอดมินไม่คาดคิดคือการได้เจอคนไทยเยอะขนาดนี้ค่ะ 555 ดูเหมือนว่าจะมีการถ่ายทำรายการบางอย่างอยู่ด้วย และเราก็ได้เจอคนที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในรายการท่องเที่ยว ก็คือ “ยาย” หรือป๋อมแป๋มนั่นเอง ^^ จริงๆ แล้วมีศิลปินดาราคนอื่นมาด้วย แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยได้ติดตามบุคคลในวงการบินเทิงไทย ก็เลยไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ค่ะ ที่พอรู้จักก็มี ดีเจพุฒ ฮั่น นอกนั้นก็จำไม่ได้แล้ว 555

เมื่อมองจากลานที่เขาทำกิจกรรมนี้ เราก็จะได้เห็นวิวสวยๆ ของเมืองฟุราโนะอีกด้วยค่ะ ดูแล้วก็แสนจะประทับใจ สำหรับคนที่เล่นสกีก็คงชอบวิวสวยๆ แบบนี้ไม่น้อย

Ningle Terrace

ต่อจากลานสกีก็มาเที่ยวที่ Ningle Terrace (ニングルテラス) ค่ะ อยู่ตรงข้ามกับโรงแรม New Furano Prince Hotel [ดูแผนที่] หลายคนบอกว่าเป็นตลาดหิ่งห้อย บางคนบอกว่าคือหมู่บ้าน และยังมีบางคนบอกว่าที่นี่คือถนนสายช็อปปิ้ง ซึ่งจากข้อมูลของโรงแรมได้บรรยายว่า Ningle Terrace (นิงเกิ้ลเทอเรส) เป็นหมู่บ้านงานฝีมือและทางเดินไม้ในป่าที่เหมือนกับศิลปะในเทพนิยาย ซึ่งประกอบด้วยร้านค้า 15 ร้าน (บ้าน 15 หลัง) ที่จำหน่ายสินค้าแบบออรินัลของท้องถิ่น โดยมีร้านกาแฟ Chu Chu no Ie (チュチュの家) ตั้งอยู่ใจกลางของหมู่บ้านค่ะ

ด้านหน้าของร้านต่างๆ เป็นทางเดินไม้ที่ปกคลุมด้วยหิมะ ซึ่งจะเชื่อมเอาทั้ง 15 ร้านไว้ด้วยกัน

ในวันที่แอดมินไปยังเป็นช่วงเวลากลางวัน ถ้ามาในยามเวลากลางคืน ก็จะให้บรรยากาศที่แตกต่างออกไป ได้เห็นความสวยงามอีกแบบหนึ่ง ซึ่งมีการเปิดไฟตามทางเดินและในร้าน เป็นแบบของเทพนิยายในยามค่ำคืน

เมื่อมองจากด้านนอกแล้ว ร้านค้าต่างๆ จะอยู่ไม่ไกลกันมาก ทำให้ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านซึ่งอยู่ท่ามกลางป่าตามความตั้งใจที่อยากให้ดูเหมือนเทพนิยายนั้นเอง ในช่วงหน้าหนาวเช่นนี้ก็จะได้บรรยากาศหิมะแบบขาวโพลน แต่ในฤดูร้อนก็จะได้บรรยากาศของป่าสนเขียวขจีกับบ้านไม้ในป่านะคะ

เราก็ได้เข้าไปใช้บริการร้านหนึ่งด้วยค่ะ ไม่รู้ทำไม หนาวก็หนาวนะ แต่เราอยากกินซอฟครีม จึงเป็นที่มาของซอฟครีมอันนี้ กินไปก็ไม่ค่อยหนาวค่ะ เพราะว่าอากาศเย็นกว่าซอฟครีมไปอีก (555)

ทานแต่ของว่างกันมาแล้ว ก็มาทานอาหารหนักกันบ้างค่ะ ซึ่งก็ไม่ใกล้ไม่ไกลเลย เพียงแค่ข้ามฝั่งไปที่โรงแรม New Furano Prince Hotel และไปที่โซนร้านอาหารซึ่งให้บริการนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้พักที่โรงแรม รวมทั้งนักสกีที่ไปเช้า-เย็นกลับ รวมถึงผู้ที่มาใช้บริการออนเซ็นของโรงแรมอีกด้วย เราสามารถเข้าไปรับประทานอาหารได้ในราคาที่ไม่แพงเลยนะคะ

หลังจากทานมื้อหนัก เดินย่อยอาหาร และเล่นหิมะสัก 2 – 3 ชั่วโมง ก็มาต่อกันที่ Afternoon Tea ค่ะ ในครั้งนี้เราเลือกใช้บริการร้านขนมปังที่อยู่ด้านหน้าทางเข้าโรงแรมโดยไม่ต้องเข้าไปในตัวตึกใหญ่ เราเลือกเป็นขนมปัง ชีส และขนมปังไส้แอปเปิ้ลกับชาผลไม้ อบอุ่น หอมกรุ่นสุดๆ เลยค่ะ

Furano Kan Kan Mura

Furano Kan Kan Mura (ふらの歓寒村) ตั้งอยู่ในภายในบริเวณโรงแรม New Furano Prince Hotel เช่นกัน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่สามารถมาเล่นหิมะกันได้ ในส่วนของจุดนี้ค่อนข้างพิเศษในยามค่ำคืน เพราะมีการจัดเป็นบาร์น้ำแข็งและมีอิลูมิเนชั่นหิมะ สวยงามตระการตา เอาไว้บริการนักท่องเที่ยวที่มาพัก ณ โรงแรมแห่งนี้ค่ะ

ส่งท้าย

สรุปแล้วใน 1 วัน เราสามารถมาทำกิจกรรมที่เมืองฟุราโนะได้หลายอย่างเลยค่ะ โดยเริ่มตั้งแต่ขี่สุนัขลากเลื่อน เล่นหิมะที่ลานสกี เดินเที่ยวหมู่บ้านน่ารักๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่มาเที่ยวเมืองฟุราโนะอาจจะมีตารางเที่ยวหลายๆ ที่ แนะนำให้ลองค้างที่นี่สักคืนค่ะ เพราะไฟประดับหิมะยามค่ำคืนสวยงามมากจริงๆ รวมทั้งเพื่อนๆ ที่อยากลองเล่นสกีในยามค่ำคืนก็สามารถมาเล่นได้เช่นกัน (ค่าเล่นสกีกลางคืนจะถูกกว่ากลางวัน) ซึ่งจะได้เล่นอย่างไม่ค่อยอายใคร (เพราะมองเห็นไม่ชัดเหมือนตอนกลางวัน อิ อิ) ที่โรมแรมเขามีจัดโปรแกรมให้ค่ะ

วันนี้เราก็ขอจบรีวิวการเที่ยวในเมืองฟุราโนะไว้เพียงเท่านี้ ในบทความต่อไป เราจะพากลับเมืองซัปโปโร แล้วไปเที่ยวกันต่อภายในเมืองแบบ 1 วันนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) ในเมืองซัปโปโร (Sapporo)

เทียบราคาโรงแรมที่พักในฮอกไกโด


รีวิวเที่ยวช่วงเทศกาลหิมะในฮอกไกโด (Hokkaido)

บทความเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido) ดูทั้งหมด »

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com