วันนี้มาพบกันอีกครั้งกับวันแห่งการตระเวนเที่ยวในเมืองซัปโปโรด้วย Sapporo Subway 1 Day Pass และในเมื่อได้สิทธิการใช้แบบไม่จำกัดรอบอยู่แล้วเราก็ต้องใช้ให้คุ้มใช่มั้ยคะ สำหรับในรีวิวนี้เราก็จะพาไปอิ่มหนำสำราญกับบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลสดๆ ที่ร้าน NANDA ในย่านซูซูกิโนะ (Susukino) ของเมืองซัปโปโร่ (Sapporo) กันค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำเกี่ยวกับร้านกันสักหน่อยนะคะ

เกี่ยวกับร้าน NANDA

NANDA (難陀) เป็นร้านบุฟเฟต์อาหารทะเลในเมืองซัปโปโร่ (Sapporo) ของจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาปูที่มีให้ทานไม่อั้น อีกทั้งมีเมนูภาษาไทยให้บริการด้วยค่ะ สำหรับรายการอาหารก็มีให้เลือกทั้ง ปู กุ้ง หอย ปลา เนื้อต่างๆ สลัด ของหวาน และอื่นอีกมากมายกว่า 100 เมนู

  • เวลาทำการ:
    • 15:00 – 21:00 น. (Last entry 19:20 น.)
    • วิธีการเดินทาง:
      • นั่งรถไฟใต้ดินสาย Sapporo Subway Toho Line มาลงสถานี Hosuisusukino ออกประตูทางออกที่ 4 แล้วเดินประมาณ 1 นาที
      • นั่งรถไฟใต้ดินสาย Sapporo Subway Namboku Line Line ลงสถานี Susukino แล้วเดินประมาณ 4 นาที

ราคาคอร์สอาหาร

Dinner Seafood Buffet

คอร์สผู้ใหญ่เด็ก
5-11 ขวบ
เด็ก
3-4 ขวบ
All You Can Eat 70 Mins7,980 เยน4,580 เยน3,250 เยน
All You Can Eat 90 Mins8,880 เยน6,500 เยน3,800 เยน
All you can drink (Option)
เบียร์สด (Sapporo Classic, Asahi Super Dry) ชูไฮ, ไฮบอล เป็นต้น
1,500 เยน

หมายเหตุ:

  • ราคาข้างต้นรวมภาษีแล้ว ชำระเงินได้ตู้จำหน่ายตั๋ว (รับทั้งเงินสดและบัตรเครดิต)
  • ปัจจุบันร้านรับเฉพาะลูกค้าจำนวน 2 คนขึ้นไป
  • หากมา 2 คนจะมีค่า Table Charge 1,000 เยน/คน (ปัจจุบันให้บริการฟรีในระยะเวลาจำกัด)
  • หากเกินเวลาที่จำกัดจะคิดราคา 1,000 เยน/10 นาที/คน

อัปเดตข้อมูลล่าสุด Jul 11, 2024

รีวิวร้าน NANDA

พอรู้ข้อมูลเบื้องต้นของร้าน NANDA กันแล้ว เรามาเริ่มรีวิวกันดีกว่านะคะ เนื่องจากว่าร้านนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยว ดังนั้นจึงมีคนต่างชาติ รวมทั้งชาวญี่ปุ่นบางส่วนที่ไปรอตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด คนที่ตั้งใจจะไปฝากท้องมื้อเช้าและมื้อเที่ยงสำหรับ Lunch Seafood Buffet (11:00 – 16:00 น.) ขอให้ไปถึงประมาณ 10:30 น. เพื่อเข้าร้านคิวแรกๆ จะได้ไม่ต้องรอนานค่ะ (ปัจจุบันร้านเปิดแต่ Dinner buffet ตั้งแต่ 15:00 – 21:00 น.เท่านั้น)

เริ่มต้นจากที่เราเข้าไปถึงร้านแล้วก็เรียงแถว พนักงานจะเรียกตามคิวเพื่อจดหมายเลขรวมทั้งแจ้งเงื่อนไขต่างๆ อาทิ หากมา 2 ท่านจะมีค่า Table Charge 1,000 เยนต่อคน และพนักงานจะถามสัญชาติของเราด้วย เพื่อจัดพนักงานที่จะเข้ามารับออร์เดอร์ของเราด้วยค่ะ เมื่อพนักงานมาส่งเราถึงโต๊ะ เขาจะนำนาฬิกามาติดเอาไว้ที่โต๊ะค่ะ ถ้าส่งสัญญาณแสดงว่าหมดเวลาในการรับประทานแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะมีการทานเกินเวลาแน่นอน

ตอนที่พนักงานพาเดินไปที่โต๊ะ เราจะเดินผ่านโซนที่เป็นอาหารก่อนเลย เริ่มต้นที่ขวามือของเราจะเป็นโซนออเดิร์ฟ มีภาษาไทยเขียนเอาไว้ด้วยนะคะ ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อทุกเนื้อที่เราจะสามารถทานได้ อาทิ เนื้อวัว(ญี่ปุ่น) เนื้อไก่ เนื้อหมู พวกไส้กรอกชีส ซี่โครงเนื้อ เนื้อติดมัน สามชั้น คนที่ชอบทานเนื้อ หรือคนที่ทานได้แต่เนื้อหมูสามารถทานได้หมดเลยค่ะ โดยที่ตรงป้ายจะติดรูปภาพบอกว่าเป็นเนื้ออะไรเอาไว้ด้วย

ด้านซ้ายมือของเราเป็นโซนของทะเลสดซึ่งอุดมไปด้วยปูหลากหลายชนิดแล้วแต่จะชอบค่ะ มีทั้งแบบมาทั้งตัวและเฉพาะขาปูยักษ์ นอกจากปูแล้วก็มีหอยชนิดต่างๆ อาทิ หอยนางรม หอยเชลล์ หอยญี่ปุ่นชนิดอื่นๆ ที่เราไม่เคยเห็นแต่อร่อยค่ะ ไว้ใจได้

เดินต่อมาอีกหน่อยเป็นโซนของของนึ่ง พวกข้าว ของทานเล่นจำพวกมันฝรั่งทอด สปาเก็ตตี้ ขาปูนึ่ง บาบีคิว อาหารชุปแป้งทอด

มาอีกฟากหนึ่งที่ถัดจากโซนออร์เดิร์ฟ จะเป็นโซนของร้อนอย่างพวกน้ำซุปต่างๆ เช่น มิโสะปู ซุปสาหร่าย ฟักทอง รวมถึงโซนเค้กที่วางอยู่ข้างๆ กัน

โซนต่อมาคือโซนสุขภาพสำหรับคนที่ชอบทานผัก มีสลัดให้เลือกส่วนประกอบเอง รวมทั้งสลัดที่ทำมาให้แล้ว เช่น สลัดฟักทอง ทูน่า ในส่วนที่เป็นของสด สามารถเลือกน้ำสลัดได้เองตามใจชอบค่ะ

โซนนี้คาดว่าหลายท่านน่าจะชอบค่ะ เพราะทางร้านเขานำแซลมอน ทูน่า กุ้ง หอย ปูปลาสดๆ มาวางให้หยิบทานกันอย่างไม่ขี้เหนียว บางส่วนยังมีผักสดที่วางเอาไว้ด้วย ซึ่งเป็นผักที่เอาไว้สำหรับย่างทานนั้นเองค่ะ

โซนของหวานที่แท้ทรู มีทั้งผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ เกรฟฟรุ๊ต ลิ้นจี่สด สัปปะรด เบอรี่มิกส์ (บลูเบอร์รี่และสตรอว์เบอร์รี่) นอกจากนี้ก็ยังมีเต้าหู้ขาวสำหรับของหวาน และเยลลี่รสชาติต่างๆ คล้ายเฉาก๊วย โยเกิร์ต ซึ่งสามารถทำเป็นน้ำแข็งใส โยเกิร์ตเบอร์รี่ และอื่นๆ อีกหลายเมนูแล้วแต่ละสร้างสรรค์หรืออยากทานค่ะ

เอาล่ะค่ะ เมื่อเยี่ยมชมและเล็งเป้าหมายเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะลงมือทาน เราก็มาอ่านคำแนะนำเกี่ยวกับทานและการย่างกันสักหน่อย ซึ่งก็มีวิธีการแกะกุ้ง หอย ปู ปลาเป็นภาษาไทยให้เราอ่านกันด้วยค่ะ ส่วนอุปกรณ์จำพวก ถุงมือสำหรับจับก้ามปูใหญ่ๆ กรรไกรตัดและที่แคะเนื้อปูมีวางเอาไว้ใกล้ๆ ที่วางอาหาร สามารถหยิบได้ตามสะดวก

ถึงเวลาการย่างแล้วจ้าาา ส่วนตัวแอดมินนั้น เนื่องจากเรามีวัตถุประสงค์ (อย่างแรงกล้า 555) ในการทานอาหารทะเลอยู่แล้ว จึงทิ้งเนื้อของโปรดเอาไว้ตรงนั้นก่อน และเน้นไปทางด้านก้ามปูยักษ์ หอยนางรมตัวใหญ่เบ้อเร่อ หอยเชลล์ กุ้งนิดหน่อยค่ะ แล้วค่อยย่างเนื้อวัวมาเป็นกับแกล้ม

นอกจากอาหารทะเลแล้ว ก็เลือกผักที่ชื่นชอบเอาไว้ด้วย อย่างพริกหวานกับฟักทอง พอสุกแล้วจะหวานอร่อยมาก

เวลาเราจะแกะปูก็ต้องมีอาวุธคู่กายค่ะ จะเอามือเปล่าไปจับขาปูร้อนๆ ไม่ได้นะคะ ต้องสวมถุงมือ ถือกรรไกรพร้อมแงะ ขาปูนั้นใหญ่แบบใหญ่มากจริงๆ

รอบต่อไปก็เน้นหอยนางรมค่ะ เนื่องจากติดใจมาจากงาน SUSUKINO ICE WORLD ที่เคยไปลองมา ครั้งนั้นซื้อไป 3 ตัว 1,000 เยน มาคราวนี้จะเอาให้คุ้ม ฮ่าๆ

ย่างพอประมาณ พอน้ำหอยเดือดดีแล้ว ให้เยาะโชยุลงไปสองสามหยด จากนั้นก็ซดหอยร้อนๆ จะนุ่มลิ้นและได้รสชาติที่หวานอร่อยมากเลยค่าาา

ที่จริงแล้วแอดมินทานไปหลายเตามาก อีกทั้งยังมีสลัดผลไม้ เนื้อ และซุป เรียกว่าทานทุกอย่างที่มี แต่ทานอย่างละเล็กละน้อย (ยกเว้นเมนูที่ชอบมากๆ ก็ทานมากหน่อย) ตบท้ายด้วยของหวาน ซึ่งอร่อยมาก ไอศกรีมรสบลูเบอรรี่ชีสเค้ก กับทาร์ตผลไม้ เป็นทาร์ตแอปเปิ้ลและทาร์ตช็อกโกแล็ต อิ่มกันไปค่ะ ใช้เวลาทานไม่หยุดเลย 70 นาทีนี้เรียกได้ว่ามีความสุขในการทาน ฟินกับรสชาติ มีเท่าไหร่ก็ทานได้ไม่เบื่อเลย!

ส่งท้าย

ปัจจุบันทางร้านมีการปรับเปลี่ยนเวลาและราคาหลังจากกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง แต่ก็ยังคนแน่นเหมือนเดิมค่ะ ที่สำคัญแนะนำให้จองก่อนไปเพราะว่าเต็มยาวล่วงหน้าเป็นเดือนก็มีมาแล้ว สำหรับ เพื่อนๆ ที่อยากทานอาหารทะเลในฮอกไกโดแบบรวบยอด ทานได้แบบไม่อั้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องตอนเก็บเงิน และไม่อยากเสียเงินให้ร้านอาหารแพง(กว่านี้)ก็แนะนำเป็นร้านบุฟเฟ่ต์อย่างร้าน NANDA แบบนี้ค่ะ ราคาคุ้มค่า ฟินยิ่งกว่าฟิน สำหรับขอลาไปก่อน วันนี้สวัสดีค่า

อัพเดตล่าสุด: Feb 3. 2024

อ่านตอนจบ » [รีวิว] สวนศิลปะซัปโปโร (Sapporo Art Park) พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ

เทียบราคาโรงแรมที่พักในซัปโปโร


รีวิวเที่ยวช่วงเทศกาลหิมะในฮอกไกโด (Hokkaido)

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com