พิพิธภัณฑ์ศิลปะส่วนใหญ่นั้นจะให้เดินชมด้วยตา แต่ที่ teamLab Planets TOKYO แห่งนี้นั้น เราสามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้งการมองเห็น การฟัง และการสัมผัสได้อย่างไร้สิ่งกีดขวาง ยิ่งไปกว่านั้นคือเราจะได้เดินชมนิทรรศกาลศิลปะดิจิทัลสุดตระการตาด้วยเท้าเปล่าและยังได้เดินลุยน้ำอีกด้วยนะคะ ขอบอกเลยว่าเป็นการเปิดประสบการณ์การชมงานศิลปะที่เพลินมาก
เกี่ยวกับ teamLab Planets TOKYO
สาระและเกร็ดน่ารู้
❝Immerse your Body, and with Others, Become One with the World❞
teamLab Planets TOKYO (チームラボプラネッツ TOKYO DMM) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลที่ตั้งอยู่ในเขตโทโยสุ (Toyosu) ของกรุงโตเกียว (Tokyo) โดยมีคอนเซ็ปต์ที่ให้ผู้เยี่ยมชมได้ดื่มด่ำกับงานศิลปะได้อย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเราสามารถชมด้วยตา ฟังด้วยหู และสัมผัสด้วยร่างกายแบบไร้สิ่งกั้นขวาง ให้เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับงานศิลปะเลยทีเดียว
ด้านในพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็นโซนต่างๆ ซึ่งงานศิลปะที่จัดแสดงนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแสง สีและเสียงที่เกิดจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ แต่ยังประกอบไปด้วยงานศิลปะที่สร้างสรรค์จากธรรมชาติจริงๆ ที่สำคัญยังมีไฮไลท์อยู่ที่การเดินชมงานศิลปะด้วยเท้าเปล่าที่ไม่เหมือนพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ในโลกอีกด้วย
ล่าสุด teamLab Planets TOKYO ก็ยังได้รับเลือกให้เป็น “สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชียประจำปี 2023” (Asia’s Leading Tourist Attraction 2023) ในงาน “World Travel Awards” ซึ่งถือเป็นรางวัลออสการ์สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเลยทีเดียว นับเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นที่สามารถคว้ารางวัลนี้มาได้ด้วยค่ะ
ข้อมูลการเยี่ยมชม
เว็บไซต์
- https://planets.teamlab.art/tokyo/ (ภาษาอังกฤษ)
เวลาทำการ
โซน | เวลาเปิด-ปิด |
---|---|
teamLab Planets TOKYO | 9:00 – 22:00 น. |
Vegan Ramen UZU Tokyo teamLab Flower Shop & Art | 11:00 – 23:00 น. |
- วันหยุด:
- 5 มิถุนายน, 10 กรกฎาคม, 7 สิงหาคม 2024
※เข้าก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง
※เวลาทำการด้านบนสำหรับเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2024 (ช่วงเวลาหลังจากนี้ต้องรอประกาศอีกครั้ง)
ค่าเข้าชม (ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2024)
ประเภท | ค่าเข้าชม วันธรรมดา | ค่าเข้าชม วันหยุด & ช่วงพิเศษ |
---|---|---|
ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) | 3,800 เยน | 4,200 เยน |
เด็กนักเรียนมัธยมต้น-ปลาย | 2,800 เยน | 2,800 เยน |
เด็ก (4-12 ปี) | 1,500 เยน | 1,500 เยน |
เด็ก (ต่ำกว่า 3 ขวบ) | ฟรี | ฟรี |
ส่วนลดคนพิการ (ที่มีเอกสารรับรอง) | 1,900 เยน | 2,100 เยน |
ค่าเข้าชม (ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2024)
ประเภท | ค่าเข้าชม |
---|---|
ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) | 4,200 เยน |
เด็กนักเรียนมัธยมต้น-ปลาย | 2,800 เยน |
เด็ก (4-12 ปี) | 1,500 เยน |
เด็ก (ต่ำกว่า 3 ขวบ) | ฟรี |
ส่วนลดคนพิการ (ที่มีเอกสารรับรอง) | 2,100 เยน |
- สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์ได้ที่ teamlabplanets.dmm.com หรือ klook.com
- มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละรอบ (เปิดขายตั๋วล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือน)
วิธีการเดินทาง
- Shin-Toyosu (รถไฟลอยฟ้า Yurikamome Line) จากสถานีเดินประมาณ 1 นาที
- Shijo-mae (รถไฟลอยฟ้า Yurikamome Line) จากสถานีเดินประมาณ 5 นาที
- Toyosu (รถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Yurakucho Line) จากสถานีเดินประมาณ 10 นาที
กรอกโค้ด JAPKAK5OFF
ลด 5% สูงสุด 380 บาท ไม่มีขั้นต่ำ
ใช้ได้จนถึง 31 ธ.ค. 2024
รีวิวเที่ยว teamLab Planets TOKYO
teamLab Planets TOKYO นั้นตั้งอยู่ใกล้กับตลาดปลาโทโยสุ (Toyosu Fish Market) ซึ่งเป็นตลาดปลาแห่งใหม่ของโตเกียว เพื่อนๆ สามารถแวะทานอาหารเช้าที่นี่แล้วค่อยมาชมพิพิธภัณฑ์ต่อได้เลยค่ะ ห่างกัน 1 สถานี ถ้าเดินมาก็ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีค่ะ เราเองก็ไปแวะหาไรทานที่ตลาดปลาก่อนมาที่นี่เหมือนกันค่ะ
สำหรับคนที่เดินทางมาด้วยรถไฟสาย Yurikamome Line ก็ให้ลงที่สถานี Shin-Toyosu ได้เลย อยู่ตรงหน้าทางเข้าพิพิภัณฑ์พอดี
เราสามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าออนไลน์ทางเว็บไซต์ teamlabplanets.dmm.com หรือ klook.com จะได้มาเป็น QR Code โดยสามารถเลือกรอบที่จะเข้าได้ หรือจะมาซื้อที่หน้างานก็ได้ แต่ถ้ารอบไหนเต็มก็ต้องรอรอบถัดไปนะคะ
สำหรับคนที่มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ตรงบริเวณด้านหน้าก็มีที่ให้ล็อคกระเป๋าด้วยค่ะ ส่วนพวกเป้และสัมภาระเล็กๆ แนะนำให้ไปฝากไว้ที่ตู้ล็อคเกอร์ด้านใน
แอดมินมาถึงตั้งแต่ 10 โมง พิพิธภัณฑ์เพิ่งเปิดเลย ช่วงเช้าๆ คนรอคิวเข้าค่อนข้างเยอะ แต่ตอนที่เราออกมาตอนบ่าย คือแถวโล่งโจ้งแล้วค่ะ
พอสแกนตั๋วมาแล้วก็มาเข้าแถวตามล็อคๆ ที่กำหนดไว้ จากนั้นจะมีการฉายเกี่ยวกับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ค่ะ โดยข้อหลักๆ ที่ควรทราบไว้ก่อนมีดังนี้
- ต้องเดินเท้าเปล่า โดยมีตู้ล็อคเกอร์ให้เก็บรองเท้าพร้อมสัมภาระต่างๆ และจะได้กุญแจเป็นสายคล้องไว้กับข้อมือ
- ต้องลุยน้ำสูงประมาณหัวเขาผู้ใหญ่ สามารถพับขากางเกงขึ้นได้ หรือจะขอยืมกางเกงขาสั้นมาเปลี่ยนก็ได้ค่ะ (บริการฟรี)
- ต้องเดินผ่านพื้นที่เป็นกระจกสะท้อน คนที่ใส่กระโปรงหรือกางเกงขาบานๆ ต้องระวังเห็นกกน.นะจ๊ะ
- สามารถพกสมาร์ทโฟนหรือกล้องถ่ายรูปเข้าไปได้ แต่ห้ามใช้แฟลชและขาตั้งกล้อง
- ด้านในพิพิธภัณฑ์ค่อนข้างมืด ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคกลัวที่มืดค่ะ
หลังจากชมการนำแนะนำแล้ว เราก็ถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปด้านใน ล็อคเกอร์สำหรับฝากของมีให้เลือกเยอะมาก ตู้ที่ว่างจะมีกุญแจเสียบอยู่ค่ะ สามารถเอารองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า และเสื้อกันหนาวเก็บไว้ในตู้แล้วล็อคให้เรียบร้อยได้เลยค่ะ
เก็บของแล้วก็ลุยกันได้เลย! ด้านในพิพิธภัณฑ์นั้นแบ่งทางเดินไว้สำหรับ 2 โซน คือ Water Area และ Garden Area เราก็ไปเริ่มกันที่โซนแรกกันก่อนนะคะ
Water Area
เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอทางเดินมืดตื๋อเลย
❝Waterfall of Light Particles at the Top of an Incline❞
ผลงานชิ้นแรกที่จะได้ชมนั้นก็คือ “น้ำตกแห่งแสง” เราจะได้เริ่มลุยน้ำกันเป็นโซนแรกตรงนี้ค่ะ น้ำสูงประมาณข้อเข่า จะมีกลิ่นคลอรีน เป็นการล้างเท้าและฆ่าเชื้อไปในตัว
พอเดินขึ้นเนินมาเราก็จะได้ชมน้ำตกแบบชัดๆ
น้ำตกไหลซู่ๆ เลยค่ะ
ลุยน้ำแล้วก็ต้องเช็ดให้แห้งก่อนไปยังโซนถัดไปนะคะ
❝Soft Black Hole – Your Body Becomes a Space that Influences Another Body❞
ขอเรียกว่า “ห้องหลุมดำ” นะคะ พื้นด้านล่างจะนิ่มๆ และยวบไปตามน้ำหนักการเดินของเรา เป็นผลงานที่ให้เราตระหนักถึงร่างกายของเรา เนื่องจากในปัจจุบันนั้นเราเดินกันแต่พื้นเรียบๆ ค่ะ
❝The Infinite Crystal Universe❞
“ห้องจักรวาลคริสตัล” สวยงามอลังการดาวล้านดวงด้วยไฟคริสตัลห้อยลงมาทั้งห้องพร้อมด้วยเพลงประกอบ ไฟยังเปลี่ยนสีได้โดยใช้แอปฯ ของผู้เยี่ยมชม พื้น ผนังและเพดานเป็นกระจกสะท้อนเหมือนจักรวาลที่ไม่มีที่สิ้นสุดเลยค่ะ
ไฟคริสตัลระยิบระยับแบบใกล้ๆ
ข้างในค่อนข้างใหญ่ เดินวนราวกับอยู่ในเขาวงกตเลยทีเดียว
❝Drawing on the Water Surface Created by the Dance of Koi and People – Infinity❞
“ห้องปลาคาร์ป” ที่สร้างจากคอมพิวเตอร์กราฟิก เหมือนกับมีปลาแหวกว่ายอยู่ในน้ำจริงๆ บวกกับความเป็นแฟนตาซีด้วยเส้นสายหลากสีสัน เป็นห้องที่เราชอบมากเลยค่ะ เดินในน้ำอุ่นๆ ชมแสงสีสวยๆ ฟังเพลงไปเพลินๆ รู้สึกผ่อนคลายดีค่ะ
ก่อนเข้ามาในห้องปลาคาร์ป จะเจอกับทางเดินนี้ เตรียมพร้อมลุยน้ำกันได้เลย!
ปลาคาร์ปหลากสีที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำ
ตอนที่ปลาคาร์ปว่ายมาโดนตัวเราก็จะเปลี่ยนเป็นดอกไม้ด้วยนะคะ
รูปนี้เปลี่ยนเป็นเหมือนลำแสงสายรุ้ง สวยไปอีกแบบ
❝Matter is Void – Fire❞
เป็นงาน NFT Art (งานศิลปะบนโลกดิจิทัล) สามารถดาวน์โหลดได้นะคะ ผลงานนี้อยู่ในห้องเล็กๆ เชื่อมกับห้องปลาคาร์ป เวอร์ชั่นที่จัดแสดงนี้จะเขียนว่า “PAPER BURNS AS I WRITE”
ตัวหนังสือในจอจะเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ มีเก้าอี้ให้นั่งชมศิลปะท่ามกลางน้ำด้วยค่ะ (ตูดก็จะเปียกหน่อย อิอิ)
❝Expanding Three-Dimensional Existence in Transforming Space – Flattening 3 Colors and 9 Blurred Colors, Free Floating❞
ชื่อผลงานยาวมาก ขอเรียกสั้นๆ ว่า “ห้องบอลลูน” นะคะ บอลลูนล่องลอยได้อย่างอิสระ เป็นห้องที่น่ารักมุ้งมิ้งดีค่ะ
ตัวบอลลูนเป็นสีขาว เปลี่ยนสีได้หลากหลายสีตามแสงไฟ
เราสามารถจับลูบบอลลูนได้ แต่สต๊าฟขอความร่วมมือไม่ให้ผลักบอลลูน ต้องระวังกระแทกไปโดนคนอื่นนะคะ
มีสารพัดสี ถ่ายรูปเพลินมาก
❝Floating in the Falling Universe of Flowers❞
มาปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับ “ห้องจักรวาลแห่งดอกไม้” กันค่ะ สามารถนอนชมกันได้ตามสบายเลย ธีมของงานศิลปะนี้เป็นดอกไม้ผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ผลิดอกและร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
จอภาพขนาดใหญ่แบบ 360 องศา สามารถมองเห็นได้รอบทิศทาง
ห้องนี้เป็นห้องสุดท้ายก่อนที่จะออกไปชมโซนสวนด้านนอกค่ะ จะนอนเล่นชิลๆ ก็ได้ แต่ว่าถ้านอนดูนานๆ ก็แอบมึนนะคะ เพราะภาพที่ฉายให้ความรู้สึกเหมือนห้องมันหมุนได้เลยค่ะ
Garden Area
หลังจากชมส่วนของ Water Area เราก็จะวนกลับมาที่ห้องล็อคเกอร์อีกครั้ง จากนั้นเราก็กลับเข้าไปทางเดิมกับในตอนแรก แต่เลี้ยวไปอีกทางเพื่อไปชมโซน Garden Area กันต่อ ซึ่งก่อนเข้าไปชมสวนจะมีรองเท้าแตะให้สวมนะคะ
❝Moss Garden of Resonating Microcosms – Solidified Light Color, Sunrise and Sunset❞
ขอตั้งชื่อให้ว่า “สวนมอสน้องไข่” เป็นสวนมอสแบบกลางแจ้ง กลางวันน้องไข่เป็นสีเงินๆ สะท้อนกับแสงแดด ส่วนตอนกลางคืนน้องไข่จะเปล่งแสงเองได้ ใครอยากชมสวนนี้แบบอลังการ แนะนำว่าให้มาตอนที่พระอาทิตย์ตกดินแล้วนะคะ
มองด้วยตาเหมือนตัวน้องไข่จะเป็นเหล็กๆ หนักๆ แต่จริงๆ แล้วน้ำหนักเบา สามารถจับและดันได้ค่ะ
❝Floating Flower Garden: Flowers and I are of the Same Root, the Garden and I are One❞
“สวนกล้วยไม้ลอยฟ้า” เป็นอีกผลงานไฮไลท์ของที่นี่ ตอนขึ้นรถไฟในโตเกียวเราจะเห็นป้ายโฆษณาของ teamLab Planets TOKYO เป็นรูปสวนนี้เลยค่ะ แต่สวนนี้ไม่ใช่สวนกล้วยไม้ธรรมดานะคะ เพราะสามารถขยับขึ้นลงได้เหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศนั่นเอง
สต๊าฟจะปล่อยให้เข้าเป็นกลุ่มๆ ช่วงคนเยอะก็ต้องรอคิวกันหน่อย พอได้เข้ามาด้านในสวนก็จับจองมุมถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย
มีเวลาให้ถ่ายรูปอยู่พักนึงก่อนที่สต๊าฟจะเคลียร์คนออก แล้วให้กลุ่มใหม่เข้ามาค่ะ แบบว่าแชะๆ รูป ยังไม่ทันไร ต้องออกมาละ ใครยังไม่หนำใจก็วนมาต่อคิวใหม่ก็ได้นะคะ
น้องกล้วยไม้แบบซูมๆ
Public Area
โซนสุดท้ายจะรีวิวในวันนี้คือ Public Area ซึ่งไม่มีการเก็บค่าเข้าชมนะคะ เพราะเป็นโซนที่อยู่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์นั่นเอง หุหุ โซนนี้ประกอบไปด้วยที่ซื้อตั๋ว ร้านขายของ และยังมีงานศิลปะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วยค่ะ
❝The Universe of Fire Particles Falling From The Sky❞
เป็นเสาที่มีไฟลุกอยู่ด้านใน เราสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ชื่อว่า “Distributed Fire” พอเปิดเข้าไปไฟก็จะลุกอยู่ในสมาร์ทโฟนของเรา ซึ่งเราสามารถนำผลงานชิ้นนี้กลับบ้านได้ แถมยังไปจุดไฟให้กับคนอื่นๆ ต่อได้ด้วยผ่านแอปฯ นี้ค่ะ
teamLab Flower Shop
เป็นร้านขายดอกไม้และของที่ระลึก ผู้เยี่ยมชมสามารถซื้อกล้วยไม้ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์กลับบ้านได้ที่นี่นะคะ
Vegan Ramen UZU Tokyo
ร้านราเมงวีแกนจากเกียวโต มีขายทั้งอาหารคาวที่ปราศจากเนื้อสัตว์และของหวานอย่างไอศกรีมวีแกนและโดนัท รวมทั้งชาเขียวและเครื่องดื่มต่างๆ รูปนี้ถ่ายตอนร้านยังไม่เปิดนะคะ ร้านจะเปิดช้ากว่าเวลาทำการของพิพิธภัณฑ์ประมาณ 1 ชั่วโมงค่า พอเที่ยวตอนบ่ายกว่าๆ เสร็จแอดมินก็มากินมื้อเที่ยงที่นี่เลยจ้า แบบว่าหิวจัดลืมถ่ายรูปร้านตอนที่เปิดแล้วเลย เอิ๊ก~
Miso Vegan Ramen (Spicy) 1,320 เยน
Vegan Ice Cream 660 เยน
ซ้าย: Classic GREEN TEA teamLab Office Blend (HOT) 550 เยน
ขวา: Cold brew GREEN TEA with YUZU 550 เยน
One Stroke Bench
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์มีม้านั่งสุดเก๋ไก๋แบบแปรงสโตรกเดียวไร้รอยต่อ ดูคล้ายๆ รางรถไฟ จะใช้นั่งเล่น หรือซื้ออาหารมานั่งกินตรงนี้ก็ได้จ้า
วิดีโอรีวิวจ้า
ส่งท้าย
teamLab Planets TOKYO เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวที่แนะนำเลยค่ะสำหรับคนที่ชอบงานอาร์ทๆ และชอบถ่ายรูป แนะนำว่าควรพาเพื่อนมาช่วยถ่ายรูปด้วย จะได้มีรูปสวยๆ อลังๆ กลับมาอวดชาวโซเชียล!
ทั้งนี้ teamLab Planets TOKYO ที่โทโยสุนี้มีกำหนดจะเปิดถึงปลายปี 2023 แต่ตอนนี้ได้ขยายระยะเวลาให้บริการไปจนสิ้นปี 2027 แล้วนะคะ และยังมีการเพิ่มการจัดแสดงผลงานชิ้นใหม่อย่าง “Ephemeral Solidified Light” (ชีวิตคือผลึกแสงอันไม่จีรัง) ที่ให้เราลุยน้ำเข้าไปสัมผัสแสงไฟแต่ละดวงที่ลอยอยู่กลางอากาศ และยังมีการปรับเปลี่ยนการจัดแสดงผลงานอีกหลายอย่างด้วยนะคะ
ส่วน teamLab Borderless ที่เคยเปิดที่โอไดบะ จะย้ายมาเปิดที่ Azabudai Hills ซึ่งเป็นโปรเจ็คตึกระฟ้าใหม่ในย่านโทระโนะมงที่อยู่ใกล้ๆ กับโตเกียวทาวน์เวอร์ โดยมีกำหนดการจะเปิดให้บริการในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2024 ที่จะถึงนี้ค่ะ เริ่มเปิดขายตั๋วเข้าชมตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2024 [จองตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์ได้ที่นี่]
ค้นหาโรงแรมที่พักในโตเกียว
บทความเที่ยวโตเกียว
- คู่มือเที่ยวโตเกียว (Tokyo) แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโตเกียวสุดฮิต
- วิธีการดูแผนที่รถไฟในโตเกียว & การเที่ยวโตเกียว ขึ้นรถไฟไม่ให้ผิดสาย
- JR TOKYO Wide Pass บัตรรถไฟเที่ยวรอบโตเกียวสุดคุ้มใน 3 วัน
› การเดินทาง
- สนามบินนาริตะ (Narita Airport) และวิธีเดินทางเข้าเมืองโตเกียว
- สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) และวิธีเดินทางเข้าเมืองโตเกียว
- [รีวิว] สายการบิน ANA กรุงเทพ (BKK) – โตเกียว (NRT)
- [รีวิว] สายการบิน Thai Airways กรุงเทพ (BKK) – โตเกียว (NRT)
- [รีวิว] สายการบิน Japan Airlines กรุงเทพ (BKK) – โตเกียว (HND)
- [รีวิว] Keisei Skyliner เดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียว
› เที่ยวจุดชมวิวและสวนสาธารณะ
- [รีวิว] โตเกียวสกายทรี (TOKYO SKYTREE) + TOKYO Solamachi
- [รีวิว] สวนอุเอโนะ (Ueno Park) เที่ยวสวนสาธารณะแห่งวัฒนธรรม
- [รีวิว] สวนอุเอโนะ (Ueno Park) ชมอุโมงค์ซากุระที่สวนใจกลางโตเกียว
- [รีวิว] สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) ช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง
- [รีวิว] สวนชินจูกุ เกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) ชมซากุระแรกแย้ม
- [รีวิว] สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) ชมซากุระริมโค้งน้ำ
- [รีวิว] สวนสุมิดะ (Sumida Park) ชมซากุระที่สวนเลียบแม่น้ำ
- [รีวิว] เที่ยวโตเกียวกลางคืน ชมสีสันของแสงไฟในยามค่ำ
› เที่ยววัดและศาลเจ้า
- [รีวิว] ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine / Meiji Jingu) ที่ย่านฮาราจูกุ
- [รีวิว] วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) วัดอาซากุสะชื่อดังของโตเกียว
- [รีวิว] ศาลเจ้าคาเมโดะ เท็นจิน (Kameido Tenjin Shrine) ชมดอกวิสทีเรีย
- [รีวิว] ศาลเจ้าเนซุ (Nezu Shrine) ชมดอกอาซาเลียหลากสี
- [รีวิว] ศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) ชมซากุระที่ศาลเจ้าเก่าแก่
› เที่ยวแหล่งช้อปปิ้ง
- [รีวิว] ตลาดอะเมโยโกะ (Ameyoko Market) เที่ยวแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมย่านอุเอโนะ
- [รีวิว] ยานากะกินซ่า (Yanaka Ginza) เที่ยวย่านช้อปปิ้งเก๋ๆ ในใจกลางโตเกียว
- [รีวิว] จิยูกาโอกะ (Jiyugaoka) เดินเที่ยวชิลๆ แวะชิมของหวานที่ Sweets Forest
› เที่ยวสวนสนุก
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com