สวัสดีค่าาา ครั้งก่อนเราได้รีวิวการชมซากุระที่ศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) ไปแล้ววันนี้ขอขยับมายังสถานที่ชมซากุระอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กันมากๆ ณ สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) สถานที่แห่งนี้มีทั้งคนรู้จักและไม่รู้จัก แต่ใครที่เป็นแฟนคลับอะไรสักอย่างหนึ่งของญี่ปุ่นจะรู้จักฮอลล์ Nippon Budokan ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสวนที่เราจะพาไปก็อยู่จุดเดียวกันนี่เองค่ะ

เกี่ยวกับสวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park)

สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park / (千鳥ヶ淵公園)  ตั้งอยู่ในเขตชิโยดะ (Chiyoda) ในใจกลางกรุงโตเกียว (Tokyo) เป็นหนึ่งในสวนที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) และอยู่ติดกับสวนคิตะโนมารุ (Kitanomaru Park) โดยมีคูน้ำกั้น

สวนจิโดริกะฟุจิถือได้ว่าเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียวช่วงประมาณปลายเดือนมีนามคมถึงต้นเดือนเมษายน โดยมีจุดเด่นที่ต้นซากุระขนาดใหญ่รายล้อมรอบสวนสวนคิตะโนมารุด้านใน และโน้มกิ่งลงคูน้ำเป็นทางเดินกว่า 700 เมตร นอกจากนี้คนญี่ปุ่นยังนิยมเช่าเรือเพื่อชมบรรยากาศจากเรือพายในคูน้ำ และยังมีการประดับไฟตอนค่ำในช่วงที่ซากุระบานอีกด้วย

ข้อมูลการเยี่ยมชม

  • เวลาทำการ:
    • เปิดตลอดเวลา
  • ค่าเข้าชม:
    • ไม่มีค่าเข้าชม

พยากรณ์ซากุระบาน

ปีวันที่เริ่มบานวันที่บานเต็มที่
202422 มีนาคม 2024 ~29 มีนาคม 2024 ~
202319 มีนาคม 2023 ~25 มีนาคม 2023 ~
202221 มีนาคม 2022 ~28 มีนาคม 2022 ~
2021ไม่มีข้อมูลไม่มีข้อมูล
202018 มีนาคม 2020 ~25 มีนาคม 2020 ~
ข้อมูลจาก weathernews.jp (อัปเดท 6 มีนาคม 2024)

วิธีการเดินทางมาสวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park)

hyperdia.com
  • นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Tozai Line, Hanzomon Line, หรือ Toei Shinjuku Line มาลงที่สถานี Kudanshita ออกทางออก 2 แล้วเดินต่ออีก 5 นาที

รีวิวชมซากุระที่สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park)

จากการเดินทางขางต้น เราเดินจากสถานีรถไฟ Kudanshita ประมาณ 5 นาที (คนไทยเดินก็ 5 นาทีค่ะ ไม่ไกลๆ) เราจะเจอมวลมหาชนที่เดินชมซากุระอยู่เช่นกัน โดยตรงกลางป้ายนั้นเขียนว่า Kitanomaru National Garden (北の丸公園) เป็นสวนขนาดใหญ่ที่อยู่ทางด้านทิศเหนือของพระราชวังอิมพีเรียล เปิดในปี ค.ศ. 1969 โดยเรียกว่า Daikancho (代官町)

สวนคิตะโนมารุ (Kitanomaru Park) เป็นสวนแห่งหนึ่งในโตเกียวที่มีความกว้างเป็นอย่างมาก ด้านในมีสถานที่สำคัญถึง 3 แห่ง ได้แก่ National Museum of Modern Art, Science Museum และ Nippon Budokan ซึ่งเป็นสนามกิฬาในร่มที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการแข่งขันโอลิมปิคฤดูร้อนครั้งที่ 18

ส่วนคนที่เดินมาจากฝั่งศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) ตามในรีวิวก่อนหน้า ก็สามารถข้ามสะพานลอยมายังฝั่งสวนคิตะโนมารุ แล้วค่อยเดินลัดไปทางฝั่งสวนจิโดริกะฟุจิได้ค่ะ

จากแผนที่ด้านบน เราได้ทำสัญลักษณ์ให้เห็นทางเข้าของ Kitanomaru Entrance ด้านหน้า เราไม่ต้องเดินเข้าสวนนะคะ ให้เดินเลยไปเลยไปตามจุดสีดำ เดินไปจนถึงหัวมุมที่มีบริเวณแถบสัญลักษณ์สีชมพูเรียบคูน้ำไปค่ะ ตรงนั้นเป็นส่วนที่เราจะเข้าไปชมซากุระได้ และในส่วนสัญลักษณ์ดาวสีแดงจะเป็นจุดที่เป็นสวน Chidorigafuchi Park ซึ่งจะมีเรือพายให้เช่าอยู่ด้วยค่ะ สำหรับคนที่มาจาก Yasukuni Shrine ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันก็สามารถเดินข้ามมาฝั่งสวนได้เลยค่ะ ดูจากแผนที่จะเห็นว่าไม่ไกลกันค่ะ

จากประตูทางเข้าสวนคิตะโนมารุ เดินเลยมา เราจะเห็นภาพแบบนี้ค่ะ มีซากุระเรียงรายอยู่ริมบริเวณคูน้ำไกลๆ และมีคนเดินอยู่ใต้ต้นซากุระค่อนข้างมากค่ะ ตรงนั้นคือจุดเริ่มต้นไปยังสวนสวนจิโดริกะฟุจินั่นเอง

เดินมาถึงจุดเริ่มต้น เราก็จะอยู่ใต้ต้นซากุระไปโดยปริยาย ซากุระที่นีมีจุดเด่นตรงที่กิ่งจะโน้มเข้าหาคูน้ำ จึงทำให้กิ่งก้านสาขาอยู่ในระดับที่สามารถเอื้อมถึง แต่อย่างไรก็ตาม การชมซากุระคือไม่จับ ไม่เด็ดดอก เพื่อความสวยงามและเป็นการให้ผู้อื่นได้ชมด้วยค่ะ แต่ต้องระวังศีรษะนะคะ คนสูงอาจจะหัวโขกได้ อิ อิ

ความสวยงามในระยะใกล้ชิดเช่นนี้ละสายตาไปไม่ได้จริงๆ ค่ะ แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป (อยากมองนานๆ) ตอนที่แอดมินไปนั้นกำลังอยู่ในช่วงที่บานแล้วประมาณ 80% – 90% ดังนั้นจึงเห็นว่ายังมีบางดอกที่ยังตูมอยู่ค่ะ และกลีบดอกไม้ยังแข่งแรงไม่ร่วงปลิว เต็มช่อเลย >///<

จากบริเวณที่เรายืนอยู่คือทางเดินด้านบนที่มีต้นซากุระอยู่ริมทางเดิน แต่ตัวกิ่งของซากุระจะดำดิ่งลงไปด้านล่าง ดูๆ ไปแล้วต้นไม้จะอยู่ต่ำกว่าทางเดินที่เราเดินค่ะ แต่อย่าลงไปริมคูน้ำนะคะ เดี๋ยวพลัดตกลงไปจะแย่ ใครที่พาลูกหลานไปควรดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ แม้จะมีการกั้นบริเวณเอาไว้ก็ตาม

ภาพจากอีกฟากฝั่งของคูน้ำค่ะ ซากุระต้นใหญ่มากจนปกคลุมบริเวณพื้นดินที่เป็นสีเขียวเกือบทั้งหมด ฝั่งโน้นเป็นฝั่งของสวนคิตะโนมารุนั่นเอง แต่ไม่สามารถชมภาพสวยๆ นี้ได้จากด้านในเพราะมีกำแพงกั้นค่ะ

เดินมาเรื่อยๆ จนถึงทางโค้งจะมีจุดที่สามารถถ่ายภาพบรรยากาศสวยๆ เช่นนี้เอาไว้ได้ ด้านขวามือในรูปคือบริเวณที่มีบริการให้เช่าเรือพาย ซึ่งสามารถเช่าได้ตั้งแต่เวลา 11:00 น. – 17:30 น. ระยะเวลาเช่า 30 นาที ราคา 500 เยนในช่วงเวลาปกติ และ 800 เยนในช่วงชมซากุระ แต่จะหยุดทำการทุกวันจันทร์ค่ะ

อีกจุดโค้งหนึ่งที่สวยงามมาก เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเก็บความประทับใจเป็นที่สุด คนที่อยากชมแบบใกล้ชิดก็สามารถพายเรือชมจากมุมในคูน้ำได้นะคะ และสำหรับใครที่มาเป็นคู่ เราไม่ต้องปั่นเรือเป็ดแล้วนะคะ เรามาพายเรือชมซากุระหวานๆ ซึ้งๆ กันดีกว่า หรือใครที่อยากขอแฟนแต่งงานในบรรยากาศแบบนี้ก็เป็นอีกไอเดียหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ

อีกมุมหนึ่งที่มองย้อนกลับไปยังเส้นทางที่เราได้เดินผ่านมาตั้งแต่ต้นของสวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) ก็จะเห็นความสวยงามในอีกด้าน หลายๆ จุดที่เราเคยอยู่ใต้ต้นไม้ พอได้เห็นมุมที่ซากุระแข่งกันเบ่งบานเช่นนี้ก็เรียกความประทับใจกับเราได้ไม่น้อยค่ะ

ส่งท้าย

ว่ากันว่าซากุระเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้น ดังเช่นวันที่เราไปชมซากุระนั้นก็มีพิธีปฐมนิเทศของนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยเมจิพอดี ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศของความครื้นเครงเป็นพิเศษ แต่ในอีกนัยหนึ่ง ซากุระคือสัญลักษณ์ของการจากลา การจบการศึกษาและการแยกย้ายเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนเอง วันใดที่คิดถึงเพื่อนหรือคนที่จากกัน บางคนก็จะมองซากุระแล้วคิดถึง มันเป็นฟิลลิ่งของเด็กๆ มัธยมญี่ปุ่นค่ะ แต่สำหรับเราซากุระคือความสดใสของโลกนี้ อิ อิ

เรายังมีบทความรีวิวการชมซากุระในโตเกียวอีกนะคะ สำหรับวันนี้ก็ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า สวัสดีค่า

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวสวนอุเอโนะ (Ueno Park) ชมอุโมงค์ซากุระที่สวนสาธารณะเก่าแก่ใจกลางโตเกียว

เขียนเมื่อ Apr 3, 2018
อัพเดทล่าสุด Mar 5, 202
1

ค้นหาโรงแรมที่พักในโตเกียว


บทความเกี่ยวกับซากุระ

ภูมิภาคคันโต (Kanto)
› โตเกียว (Tokyo)
› ไซตามะ (Saitama)
ภูมิภาคคันไซ (Kansai)
› เกียวโต (Kyoto)
ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)
› อิวาเตะ (Iwate)
› อาโอโมริ (Aomori)
› อาคิตะ (Akita)

+ ดูบทความชมซากุระทั้งหมด

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com