สวัสดีค่ะ พบกันอีกครั้งกับการรีวิวสถานที่ชมซากุระ คราวนี้เราะจะพาไปที่ศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว (Tokyo) นะคะ โดยเป็นจุดชมซากุระที่มีความงามในแบบที่แตกต่างออกไปและให้ความเป็นญี่ปุ่นมากๆ อีกแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นค่ะ
เกี่ยวกับศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine)
ศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine /靖国神社) เป็นศาลเจ้าชินโตในกรุงโตเกียว (Tokyo) ที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1869 (ช่วงยุคเมจิ) เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้กับผู้เสียชีวิตในสงครามกลางเมือง “โบะชิง (Boshin War)” ของญี่ปุ่น ศาลเจ้านี้เดิมมีชื่อว่า “Tokyo Shokonsha” ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อ “Yasukuni Shrine” ในปี ค.ศ. 1879 ซึ่งมีความหมายว่า “ประเทศที่สงบสุข” นั่นเองค่ะ
ข้อมูลการเยี่ยมชม
Yasukuni Shrine
- เวลาทำการ:
- มีนาคม – ตุลาคม 6:00 – 18:00 น.
- พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ 6:00 – 17:00 น.
- ค่าเข้าชม:
- ไม่มีค่าเข้าชม
Yushukan Museum
- เวลาทำการ:
- 9:00 – 16:30 น. (เข้าก่อน 16:00 น.)
- ค่าเข้าชม:
- ผู้ใหญ่ 1,000 เยน
- นักศึกษา 500 เยน
- เด็กมัธยม 300 เยน
- เด็กประถมเป็นต้นไป ไม่มีค่าเข้าชม
พยากรณ์ซากุระบาน
ปี | วันที่เริ่มบาน | วันที่บานเต็มที่ |
---|---|---|
2024 | 19 มีนาคม 2024 ~ | 27 มีนาคม 2024 ~ |
2023 | 15 มีนาคม 2023 ~ | 23 มีนาคม 2023 ~ |
2022 | 18 มีนาคม 2022 ~ | 27 มีนาคม 2022 ~ |
2021 | 15 มีนาคม 2021 ~ | 24 มีนาคม 2021 ~ |
2020 | 16 มีนาคม 2020 ~ | 23 มีนาคม 2020 ~ |
2019 | 21 มีนาคม 2019 ~ | 30 มีนาคม 2019 ~ |
วิธีการเดินทางมาศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine)
การเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Tozai Line, Hanzomon Line, หรือ Toei Shinjuku Line มาลงที่สถานี Kudanshita แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Namboku Line มาลงที่สถานี Ichigaya แล้วเดินต่ออีก 10 นาที
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Yurakucho Line มาลงที่สถานี Ichigaya หรือสถานี Iidabashi แล้วเดินต่ออีก 10 นาที
การเดินทางโดยรถไฟสาย JR
- นั่งรถไฟสาย JR Chuo-Sobu Line มาลงที่สถานี Ichigaya หรือสถานี Iidabashi แล้วเดินต่ออีก 10 นาที
การเดินทางโดยรถบัสประจำทาง
- นั่งรถบัสสาย Kudanshita-Takadanobaba หรือ รถบัสสาย Shibuya-Ochanomizu มาลงที่ป้ายรถบัส Kudanue แล้วเดินต่ออีก 1 นาที
รีวิวชมซากุระที่ศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine)
ส่วนตัวแอดมินนั้นใช้บริการรถไฟใต้ดินนะคะ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้เส้นทางการเดินมาจากสถานีรถไฟ ก็อาจจะงงๆ นิดหน่อย วันนี้จึงขอรีวิวการเดินทางอย่างละเอียดเลยค่ะ โดยเราจะเริ่มต้นที่สถานี Kudanshita ซึ่งเป็นสถานีที่เดินไม่ไกลนักและมีรถไฟผ่านหลายสายเลยจ้ะ
ลงรถไฟมาแล้วก็มองหาทางออกค่ะ เราจะเห็นป้ายที่เขียนว่า “Nippon Budokan (Exit 2)” และ “Yasukuni-jinja Shrine (Exit 1)” ค่ะ เนื่องจากว่าศาลเจ้ายาสุกุนินั้นอยู่ติดกับ Nippon Budokan ซึงเป็นโดมขนาดใหญ่ของแถบนั้น เราจึงสามารถเดินไปทางเดียวกันได้เลย จากชานชานลาเดินมาเรื่อยๆ ประมาณ 500 เมตรถึงจะออกจากสถานีรถไฟได้ (ใต้ดินทางเดินซับซ้อนหน่อยๆ)
ภาพลานกว้างจากฝั่งประตูหน้าศาลเจ้าเมื่อมองออกไปด้านนอก
สัญลักษณ์ของศาลเจ้าที่นี่สามารถดูได้ง่ายๆ จากเสาโทริอิขนาดยักษ์ มองจากระยะทางเป็นกิโลยังเห็น (ในภาพจะเห็นเสาเหล็กสีแดงสนิมไกลลิบๆ) ด้านหน้าทางเดินเป็นต้นแปะก๊วยเรียงรายประมาณสัก 200-300 เมตรได้ แต่ช่วงที่ซากุระบาน บรรดาต้นไม้ต่างๆ จะยังไม่ผลิใบ แต่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงตรงนี้จะเป็นจุดที่ชมใบแปะก๊วยได้สวยมากๆ อีกแห่งหนึ่งของโตเกียวเลยค่ะ
ประตูไม้ของศาลเจ้า
บริเวณหน้าอาคารหลักของศาลเจ้า
เดินผ่านทางเข้าที่ยาวมากๆ แล้ว พอข้ามธรณีประตูไม้ของศาลเจ้าเข้าไป ด้านขวามือของเราจะเจอกับหลังคาซากุระ เป็นร่มเงาที่ปกคลุมด้วยสีชมพูอ่อนของต้นซากุระที่เกาะตัวกันแทนหลังคาใบไม้ซึ่งให้ความร่มเย็นกับผู้ที่อยู่ข้างใต้ รวมทั้งกลีบซากุระที่ปลิวร่วงตามพื้นที่ปูด้วยหินละเอียด ย้อมให้ทั้งบริเวณเป็นสีชมพูอ่อนๆ น่ามอง น่าเดินเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ต้นซากุระที่คนรุมถ่ายรูปเยอะๆ นั้นก็คือต้นที่ใช้เป็นมาตรฐานในการวัดการบานของซากุระในโตเกียวโดยกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นนะคะ ถ้าซากุระที่ต้นนี้บาน 5-6 ดอกขึ้นไป ก็จะประกาศว่าซากุระที่โตเกียวเริ่มบานแล้ว และถ้ามีดอกบานเกิน 80% ก็จะถือว่าบานเต็มที่ค่ะ (ในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดก็จะมีต้นมาตรฐานสำหรับการวัดการบานอยู่ค่ะ) ซึ่งโดยปกติแล้วซากุระในโตเกียวนั้นจะบานช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนนะคะ
ความสวยงามของซากุระในศาลเจ้ายาสุกุนิแห่งนี้ไม่ได้เน้นที่ความยิ่งใหญ่อลังการของสวนหรือจำนวนของต้นซากุระ แต่เป็นการชื่มชมความงามในบรรยากาศที่สบายๆ ผสมผสานกับความเก่าแก่ของอาคารสถานที่ตามแบบฉบับของญี่ปุ่น อีกทั้งผู้คนก็ไม่พลุกพล่าน ไม่มีผู้คนนั่งดื่มเหล้าระเกะระกะใต้ต้นซากุระเหมือนกับสวนสาธารณะทั่วไปค่ะ
ในช่วงเช้าๆ ลมเย็นๆ อย่างนี้ เราก็ยังได้ชมบรรยากาศ ชมดอกไม้เคล้าเสียงดนตรีดั้งเดิมที่จะมีโชว์การแสดงเครื่องดนตรีแบบญี่ปุ่นอย่างที่นักท่องเที่ยวอย่างเราคงหาชมได้ยาก อาทิ โกโตะ ขลุ่ยญี่ปุ่น นักแสดงจะอยู่บนเวทีที่ยื่นออกมาจากตรงอาคารอย่างเช่นที่คนสมัยก่อนเขาสร้างเอาไว้ให้ชมกัน
ตรงกลางสวนก็มีเก้าอี้เอาไว้บริการให้นั่งชมอยู่ใต้ต้นซากุระเลยค่ะ จะเห็นได้ว่าเราสามารถซึมซับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นเก่าแก่ได้ ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นการชมซากุระในอีกอารมณ์หนึ่งที่แตกต่างออกไป
เมื่อสักครู่เราพาเพื่อนๆ ไปชมบรรยากาศในสวนซากุระกันไปบ้างแล้ว คราวนี้ก็กลับมาดูที่โซนทางเข้าออกศาลเจ้ากันบ้าง ตรงทางเดินที่ปูด้วยหินเป็นระเบียบเรียบร้อยนั้นมีร้านขายเครื่องรางชนิดต่างๆ ตั้งอยู่ สามารถเลือกซื้อได้ตามความปรารถนาของแต่ละคนค่ะ ส่วนผู้จัดจำหน่ายก็เป็นคนของศาลเจ้าที่จะใส่ชุด ‘ฮากามะ’ หรือชุดกางเกงพิธีการที่มักจะใส่กันในการทำพิธีทางศาสนา (ชินโต) หรือในวาระโอกาสสำคัญ เป็นการแต่งกายแบบญี่ปุ่นที่เราจะไม่ได้เห็นกันทั่วไปค่ะ
หมายเหตุ: ทางศาลเจ้ามักจะมีการห้ามถ่ายรูปบุคลากรที่สวมชุดฮากามะจำหน่ายเครื่องราง กรุณาตรวจสอบป้ายห้ามต่างๆ ให้ดีค่ะ
มาศาลเจ้าทั้งทีก็ต้องมาขอพรหรือเสี่ยงเซียมซีกันค่ะ ในช่วงชมซากุระเช่นนี้ แม้แต่ใบเซียมซียังเป็นลายซากุระสีชมพูเข้ากับเทศกาล ใบไหนโชคดีเราก็สามารถนำกลับบ้านได้ ส่วนใบไหนโชคไม่ดีก็ให้มัดเอาไว้กับเชือกแบบนี้ค่ะ เป็นการทิ้งความโชคร้ายเอาไว้ที่นี่ ไม่ให้ติดตัวกลับไปกับเรานั่นเอง
ชั้นในสุดก่อนถึงตัวอาคารก็ยังมีเสาโทริอิไม้ขนาดใหญ่ (แต่เล็กกว่าตรงหน้าทางเข้ามากอยู่) เป็นอีกจุดที่แสดงความเชื่อของลัทธิชินโตได้เป็นอย่างดี เมื่อนำมาประกอบกับซากุระสวยๆ ก็จะได้ภาพซากุระที่มีความเป็นญี่ปุ่นมากๆ
ชมด้านในศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) แล้ว บริเวณด้านข้างถนนใหญ่ตรงเส้นทางที่ติดกับตัวศาลเจ้าก็มีซากุระให้ชมเช่นกันตลอดสองข้างทางถนน ผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็จะได้ชื่นชมกับความงาม รวมทั้งคนที่ขับรถอยู่ก็สามารถชมซากุระได้เช่นกัน เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาเดินชมในสถานที่ที่จัดงานเทศกาล หรือต้องขับรถตลอดเวลา ก็สามารถอินไปกับบรรยากาศช่วงใบไม้ผลิได้เช่นกันค่ะ
ปิดท้ายด้วยภาพบรรยาศแบบคลิปวิดีโอนะคะ ครั้งหน้าเราจะพาไปชมซากุระที่สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนะคะ เป็นบรรยากาศอีกแบบที่โรแมนติกสำหรับคู่รักในยามฤดูใบไม้ผลิเช่นนี้เหลือเกิน สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่า
อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวสวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) ชมซากุระริมโค้งน้ำที่สวนใจกลางโตเกียว
เขียนเมื่อ Mar 30, 2018
อัพเดทล่าสุด Mar 5, 2021
ค้นหาโรงแรมที่พักในโตเกียว
บทความเกี่ยวกับซากุระ
ภูมิภาคคันโต (Kanto)
› โตเกียว (Tokyo)
- 6 จุดชมซากุระบานยอดนิยมในใจกลางโตเกียว (Tokyo)
- [รีวิว] ศาลเจ้ายาสุกุนิ (Yasukuni Shrine) ชมซากุระที่ศาลเจ้าเก่าแก่
- [รีวิว] สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) ชมซากุระริมโค้งน้ำ
- [รีวิว] สวนอุเอโนะ (Ueno Park) ชมซากุระที่สวนใจกลางเมือง
- [รีวิว] สวนชินจูกุ เกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) ชมซากุระแรกแย้ม
- [รีวิว] สวนสุมิดะ (Sumida Park) ชมซากุระที่สวนเลียบแม่น้ำ
- [รีวิว] แม่น้ำเมกุโระ (Meguro River) ชมโอโมงค์ซากุระริมแม่น้ำ
› ไซตามะ (Saitama)
- 3 จุดชมซากุระยอดนิยมในจังหวัดไซตามะ (Saitama)
- [รีวิว] สวนโอมิยะ (Omiya Park) ชมซากุระที่สวนขนาดใหญ่ใจกลางเมือง
- [รีวิว] Gongendo Sakura Tsutsumi จุดชมอุโมงค์ซากุระตัดกับดอกนาโนะฮานะ
- [รีวิว] Kumagaya Sakura Tsutsumi จุดชมซากุระเลียบแม่น้ำ
ภูมิภาคคันไซ (Kansai)
› เกียวโต (Kyoto)
- [รีวิว] สวนสาธารณะมารุยามะ (Maruyama Park) ชมซากุระร้องไห้ชื่อดัง
- [รีวิว] วัดฮมมันจิ (Homman-ji Temple) ชมซากุระยักษ์ยืนหนึ่ง
ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)
› อิวาเตะ (Iwate)
- [รีวิว] เมืองโมริโอกะ (Morioka) ชมซากุระกลางหินและในสวนปราสาท
- [รีวิว] เมืองคิตะคามิ (Kitakami Tenshochi Park) ชมอุโมงค์ซากุระหมื่นต้น
› อาโอโมริ (Aomori)
› อาคิตะ (Akita)
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com