วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมความอลังการของซากุระที่สวยงามและต้นใหญ่ติดอันดับต้นๆ ในใจของเราก็ว่าได้ค่ะ โดยเราจะพาทุกคนไปเยี่ยมชมซากุระพันธุ์ย้อยที่วัดโคฟุซัง ฮมมันจิ (Koufuzan Honmanji) คนทั่วไปมักจะเรียกสั้นๆ ว่า วัดฮมมันจิ (Homman-ji Temple) อยู่ที่ในเมืองเกียวโตนี่เองค่ะ

จังหวัดเกียวโตเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ ดังนั้นซากุระที่นี่ก็มีอายุยื่นยาวไม้แพ้กันกับสถานที่นั้นๆ ส่วนใหญ่พันธุ์ที่ได้รับความนิยมจะเป็นพันธุ์ย้อย หรือเรียกว่าชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) มีลักษณะเด่นคือสูงใหญ่และกิ่งจะห้อยย้อยลงมาที่ต่ำ ดูอ่อนช้อยสวยงาม ส่วนใหญ่เจอตามวัดหรือสถานที่ท่องเที่ยวแบบญี่ปุ่นโบราณค่ะ

เกี่ยวกับวัดฮมมันจิ (Homman-ji Temple)

ประวัติความเป็นมา

วัดฮมมันจิ (Homman-ji Temple / 本満寺) หรือชื่อเต็มๆ คือ วัดโคฟุซัง ฮมมันจิ (Koufuzan Honmanji / 広布山 本満寺) ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต (Kyoto) เป็นวัดเล็กๆ ที่สร้างขึ้นในสมัยมุโรมาจิ (ปี ค.ศ. 1410) และได้ย้ายไปยังเมืองซาไก (Sakai) ของจังหวัดโอซาก้า (Osaka) เนื่องจากเกิดความขัดแย้งกันระหว่างนิกายในสมัยนั้น

ในปี ค.ศ. 1536 วัดฮมมันจิได้ย้ายมายังที่ตั้งปัจจุบัน และกลายมาเป็นวัดที่มีความเจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นวัดหลวงขององค์จักรพรรดิ์โกะ-นารา ต่อมาในปี ค.ศ. 1751 มีการสวดภาวนาให้กับโชกุนโทคุกาวะ โยชิมุเนะ รุ่นที่ 8 ให้หายจากอาการป่วย ซึ่งได้ผลเป็นอย่างมาก ทำให้วัดแห่งนี้ได้รับความนิยมและเป็นสถานที่สักการะของตระกูลโชกุน จนได้รับความนิยมและเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ข้อมูลการเยี่ยมชม

  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • เวลาทำการ: 10:00 – 16:00 น.
  • วันหยุด: ไม่มี
  • ช่วงซากุระบาน: ปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน

วิธีการเดินทาง

รถไฟ

  • Demachiyanagi (รถไฟสาย Eizan Main Line และ Keihan Main Line) จากสถานีเดินต่ออีกประมาณ 12 นาที
  • Imadegawa (รถไฟใต้ดินสาย Karasuma Line) จากสถานีเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที

รถบัส

  • Kawaramachi Imadegawa (สายที่ผ่าน 3, 4, 17, 59, 201, 203, 205) จากป้ายเดินต่ออีกประมาณ 6 นาที
  • Aoibashi Nishizume (สายที่ผ่าน ได้แก่ 205) จากป้ายเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

วิธีการเดินทางสถานี Kyoto:

  • ให้นั่งรถไฟใต้ดินสาย Karasuma Line มาลงที่สถานี Imadegawa
  • ให้นั่งรถบัสหมายเลข 17 มาลงที่ป้าย Kawaramachi Imadegawa หรือสาย 205 มาลงที่ป้าย Aoibashi Nishizume

รีวิวชมซากุระที่วัดฮมมันจิ (Honman-ji Temple)

ส่วนตัวเราเดินทางด้วยรถบัสมาที่วัดฮมมันจิ (Honman-ji Temple) แม้จะเดินทางด้วยรถไฟก็ได้ แต่ว่าระยะเวลาในการเดินเท้ามายังวัดแตกต่างกัน จึงขอเลือกการเดินทางที่เดินน้อยกว่าค่ะ จากป้ายรถบัสก็สามารถเดินตามคนแถวนั้นมาก็ได้ เพราะส่วนใหญ่ก็มาที่เดียวกัน หรือว่าจะเดินตามแผนที่ในโทรศัพท์ก็ได้เช่นกันค่ะ

ที่จริงแล้ววัดนี้ก็ยังอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติเกียวโตเกียวเอ็น (Kyoto Gyoen National Garden) ที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ด้วยนะคะ สามารถเดินมาได้เลย หรือจะนั่งรถบัสมาก็ได้เช่นกันค่ะ

สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวก็แนะนำว่าค่อยๆ ขับหาเส้นทางค่ะ เพราะว่าจอดรถตรงหน้าวัดได้ไม่กี่คัน แนะนำให้เข้าด้านหลังวัด แล้วขับเข้าไปจอดด้านในค่ะ ส่วนเราเดินเท้าก็จะเข้าด้านประตูหน้าค่ะ ซึ่งทางเข้าของวัดก็จะเห็นบรรยากาศประมาณนี้ คนไม่เยอะ แต่ก็ไม่เงียบเหงาจนเกินไปค่ะ

เดินผ่านประตูวัดเข้ามาแล้วซ้ายมือของเราจะเป็นต้นซากุระต้นใหญ่มาก ซึ่งจะได้ชมในลำดับต่อไปนะคะ เดินตรงเข้ามาด้านในอีก ถัดจากโซนที่เป็นต้นซากุระก็เป็นอาคารที่ให้ผู้มีศรัทธาเข้าไปขอพร ซึ่งมีองค์พระพุทธรูปอยู่ด้านในและให้ผู้ขอพรยืนอยู่ด้านนอก โดยที่เราสามารถมองเห็นด้านในได้ค่ะ

สำหรับคนที่อยากขอพรกับพระก็หยอดเหรียญขอพรได้ค่ะ วิธีการก็เหมือนกับการขอพรที่วัดทั่วไปในญี่ปุ่น หากท่านใดมีเหรียญ 5 เยน ก็ใช้เหรียญ 5 เยนที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีนั้นในการขอพรตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นก็ได้เช่นกันค่ะ

หลังจากขอพรพระท่านเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับมาที่ซากุระต้นใหญ่มากที่หน้าอาคารญี่ปุ่นกันค่ะ อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าเป็นพันธุ์ย้อยที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น มีทั้งต้นขนาดเล็กและใหญ่ แต่ว่าต้นนี้นอกจากจะใหญ่โตอลังการแล้ว ยังเป็นซากุระที่มีความสมส่วนและสมบูรณ์มากๆ ต้นหนึ่งเลยค่ะ

แม้ว่าต้นซากุระจะสูงราวๆ ตึก 2-3 ชั้น แต่ว่าปลายกิ่งก็ยังห้อยย้อยโน้มต่ำจนคนสัมผัสได้ (แต่ไม่ควรสัมผัสนะคะ) ความสมดุลในแนวนอนและแนวตั้งทำให้รู้สึกว่าซากุระต้นนี้มีความสวยงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เชียวค่ะ

ต้นซากุระยักษ์ตั้งอยู่กลางสวนญี่ปุ่นตรงด้านหน้าอาคารของวัด และรอบๆ มีทางเดินหินให้คนใช้เป็นเส้นทางเดินชมได้ รวมถึงมีการกั้นบริเวณเอาไว้เพื่อรักษาความสวยงามของพื้นที่รอบๆ เอาไว้ด้วย จากที่แอดมินเดินทางไปแทบจะไม่มีคนไทยเลยค่ะ ส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นและช่างภาพ คนใส่กิโมโนมาเดินถ่ายรูปที่นี่ก็มีค่ะ สำหรับคนที่อยากชมซากุระบานสวยๆ แบบนี้แนะนำให้มาช่วงปลายๆ เดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนนะคะ

อีกมุมหนึ่งที่ถ่ายจากใต้ต้นซากุระค่ะ เพราะต้นซากุระสูงมาก และมีดอกเป็นจำนวนมาก พื้นที่ด้านใต้จึงได้รับการกรองแสงไปด้วยส่วนหนึ่ง ได้ชมซากุระสีชมพูที่ต้องแสงแดดแบบนี้ เป็นอีกมุมที่สวยเป็นอย่างมากค่ะ ใครอยากได้รูปใต้ต้นซากุระที่สวยงามอลังการก็แนะนำให้ถ่ายมุมแบบนี้ดูบ้าง

กิ่งซากุระ

เราสามารถมองเห็นความอลังการของต้นซากุระได้ตั้งแต่อยู่หน้าวัดเลยค่ะ เพราะว่าต้นซากุระสูงกว่าตัวอาคารและตัวรั้วของวัดเสียอีก เพียงแค่เดินผ่านก็ต้องหันมามองด้วยความสนใจแล้วค่ะ เป็นจุดเด่นจุดดังที่ทำให้คนได้รู้จักวัดฮมมันจิแห่งนี้ค่ะ

ส่งท้าย

วัดฮมมันจิ (Homman-ji Temple) เป็นวัดเล็กๆ แต่สวยงามอลังการงานสร้างนะคะ มีข้อดีที่คนไม่แออัดมาก ชมซากุระได้แบบชิลๆ บรรยากาศดี ไม่เสียงดัง ใครที่ชอบการถ่ายรูปก็แนะนำให้ลองมาที่นี่ดูค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก ทำให้เราได้วิวซากุระในแบบที่แตกต่างออกไปค่ะ

การเดินทางไม่ยากจนเกินไปสะดวกทั้งรถไฟและรถบัส และทางวัดยังไม่เก็บค่าเข้าชมอีกด้วย เหมาะสำหรับครอบครัวหรือคนที่ชอบความสงบร่มรื่น สบายๆ ค่ะ ฝากเอาไว้เป็นตัวเลือกในการท่องเที่ยวที่เมืองเกียวโตของทุกคนนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวศาลเจ้าชิโมกาโมะ (Shimogamo Shrine) ศาลเจ้าอายุ 2,000 ปี ของเกียวโต

เทียบราคาโรงแรมที่พักในเกียวโต


บทความเที่ยวเกียวโต (Kyoto)

การเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยว
› เกียวโตกลาง (Central Kyoto)
› เกียวโตตะวันออก (Eastern Kyoto)
› เกียวโตตะวันตก (Western Kyoto)
› เกียวโตเหนือ (Northern Kyoto)
› เกียวโตใต้ (Southern Kyoto)
ร้านอาหาร

+ ดูบทความเที่ยวเกียวโตทั้งหมด

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com