วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวภายในเมืองบิเอ (Biei) ในจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) แถวบริเวรสถานี JR Biei กันค่ะ เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ แต่บรรยากาศดีมากๆ ก่อนอื่นเราก็ขอแนะนำเกี่ยวกับเมืองนี้กันสักหน่อยนะคะ

เกี่ยวกับเมืองบิเอ (Biei)

เมืองบิเอ (Biei / 美瑛) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “เมืองบิเอะ” เป็นเมืองในกิ่งจังหวัดคามิคาว่า (Kamikawa) ของจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมทางด้านการท่องเที่ยวชมธรรมชาติแบบทุ่งกว้างและเนินเขา ซึ่งได้รับการโปรโมททางโทรทัศน์ของญี่ปุ่นมากมาย สถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก คือ บ่อน้ำสีฟ้าชิโรกาเนะ (Shirogane Blue Pond) และเมืองออนเซ็น Shirogane Hot Spring (Shirogane Onsen) รวมถึงต้นไม้ที่มีชื่อเสียง เช่น Christmas Tree, Ken and Mary Tree, Seven Star Tree และเนิน Mild Seven Hill

เมืองบิเอเป็นเมื่องที่สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งจะมีบรรยากาศและทิวน์ทัศน์ที่ต่างกันไป โดยช่วงไฮไลต์ก็อยู่ที่ฤดูร้อนที่ทุ่งดอกไม้กลากสีสันกำลังบานสะพรั่ง และในฤดูหนาวที่ทุ่งกว้างจะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ให้ความโรแมนติกไปอีกแบบ

แนะนำทัวร์ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน
Klook.com

วิธีการเดินทางมายังเมืองบิเอ (Biei)

เส้นทาง Sapporo – Asahikawa – Biei

  1. จากสถานี Sapporo ให้นั่งรถไฟ LTD. EXP มาลงที่สถานี Asahikawa ใช้เวลาประมาณ 90 นาที หรือนั่งรถบัสประมาณ 120 นาที
  2. จากสถานี Asahikawa ให้นั่งรถไฟสาย JR Furano Line จาก มาลงที่สถานี Biei ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

เส้นทาง Sapporo – Furano – Biei

  1. จากสถานี Sapporo ให้นั่งรถไฟ LTD. EXP มาลงที่สถานี Takikawa ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
  2. จากสถานี Takikawa ให้นั่งรถไฟสาย JR Nemuro Line มาลงที่สถานี Furano ใช้เวลาประมาณ 65 นาที
    หรือนั่งรถบัสจาก Sapporo มาลงที่ Furano ใช้เวลาประมาณ 90 นาที
  3. จากสถานี Furano ให้นั่งรถไฟสาย JR Furano Line จาก มาลงที่สถานี Biei ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: วิธีการเดินทาง Sapporo – Furano – Biei ด้วยรถบัสและรถไฟ

เส้นทางจากสนามบิน Asahikawa – Biei

  • จากสนามบิน Asahikawa Airport ให้นั่งรถบัส Furano Bus ใช้เวลาเพียง 16 นาที
แนะนำพาสเที่ยวฮอกไกโด
Klook.com

รีวิวเดินเที่ยวรอบๆ สถานีรถไฟบิเอ (Biei)

สถานีรถไฟ JR Biei

ส่วนตัวแอดมินเองเดินทางมาจากเมืองฟุราโนะ (Furano) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 36 นาที เมื่อถึงแล้วก็จะมึนๆ หน่อยค่ะ เพราะคิดว่าสถานีรถไฟของเมืองฟุราโนะเล็กแล้ว แต่มาเจอสถานีของเมืองบิเอนั้นเล็กกว่าอีก และไม่ใครอยู่เลยนอกจากนายสถานี

เราก็ออกมาจากสถานีแบบงงๆ ค่ะ มองซ้ายมองขวาหาว่ามีอะไรบ้าง สิ่งแรกที่เราพบก็คือห้องน้ำนั่นเอง คือเป็นห้องน้ำที่อลังการงานสร้างมาก ล้อมรอบด้วยหิมะกองโต แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอะไรนอกจากตัวเราเอง (ฮา) จากนั้นก็เดินไปดูป้ายต่างๆ ว่าเราสามารถไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง

แต่อย่างแรกเลยนั้น เราต้องพยายามหาที่หลบหนาวก่อนนะคะ จึงไปที่ Tourist Information Center ของเมืองบิเอที่จะต้อนรับเราท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่มีอะไรเลย นอกจากหิมะเช่นนี้ค่ะ

Tourist Information Center [ดูแผนที่] หรือศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวนั้นตั้งอยู่ด้านซ้าย (หันหน้าออกจากสถานี) ห่างจากสถานีไปประมาณ 50 เมตร เราสามารถไปหาข้อมูลต่างๆ ได้ที่นั่นค่ะ ซึ่งในทริปนี้เราก็จะไปแช่ออนเซ็นที่ Shirogane Hot Spring (Shirogane Onsen) และชมบ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond (Aoi-ike) นะคะ

ภายในของ Tourist Information Center ประกอบด้วยเคาท์เตอร์ขายสินค้าของที่ระลึก เคาท์เตอร์ที่ปรึกษาทางด้านการท่องเที่ยว อาทิ ข้อมูลเที่ยวรถ และสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จำลองเมืองบิเอขนาดย่อส่วนเอาไว้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าในสถานที่ใกล้ๆ นี้มีอะไรที่ให้เราท่องเที่ยวได้บ้าง

ที่นี่สนใจมากคือป้ายนี้ค่ะ เป็นป้ายที่บอกให้เรารู้ว่าสามารถจองรถบัสเพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองบิเอแห่งนี้ได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น แต่น่าเสียดายว่า Shirogane Winter Illumination Bus Tour ซึ่งเป็นรถแบบจองที่จะไปชมบ่อน้ำสีฟ้า (Pond Blue) ในตอนที่มีการเปิดไฟนั้นเต็มเสียก่อน เราจึงต้องรอรถบัสประจำทางเท่านั้นค่ะ

หมายเหตุ:

  • ดูข้อมูลและจองทัวร์ Biyu Bus ได้ที่ » biei-hokkaido.jp (ภาษาอังกฤษ)
  • ดูข้อมูลทัวร์ช่วงกลางวันในแต่ละฤดูกาลได้ที่ » biei-hokkaido.jp (ภาษาอังกฤษ)
Dohoku Bus Timetable (Biei - Shirogane Hot Spring)

Dohoku Bus ขาไป
(อัปเดต 1 ต.ค. 2024)

Dohoku Bus Timetable (Shirogane Hot Spring - Biei)

ตารางรถบัส Dohoku Bus ขากลับ
(อัปเดต 1 ต.ค. 2024)

เมื่อต้องเดินทางด้วยรถบัสประจำทาง เราก็ต้องมาดูกันค่ะว่ารถที่วิ่งระหว่างสถานี JR Biei และ Shirogane Hot Spring และ Pond Blue ซึ่งจะสามารถดูรอบรถบัสได้จากตารางข้างต้น

แผนที่ป้ายรถบัส
(อัปเดต 1 ต.ค. 2024)
[ดาวน์โหลดแผนที่ขนาดใหญ่ที่ biei-hokkaido.jp]

ดูเวลารถบัสแล้วก็ต้องมาดูแผนที่ค่ะ ว่าต้องขึ้นรถที่จุดไหน เพราะมีป้ายรถบัสฝั่งที่ต้องขึ้นไปสถานี Asahikawa กับฝั่งที่ไป Shirogane Hot Spring ดังนั้นจึงต้องดูให้ถูกต้อง และแผนที่ใน Tourist Information Center ก็มีแผนที่แบบภาษาอังกฤษแปะเอาไว้ให้ค่ะ

เมืองบิเอะ (Biei)

เมื่อดูเวลาและป้ายรถบัสเสร็จแล้ว เราก็ไปเดินเล่นแถวๆ สถานี Biei กันก่อน ดูว่ามีอะไรสวยๆ ให้เราได้ดูกันบ้างค่ะ ซึ่งภาพด้านบนนี้ก็เป็นรูปหนึ่งที่มองจากหน้าสถานีรถไฟ เป็นถนนที่วิ่งตรงเข้ามายังสถานีเลย เวลามองออกไปไกลๆ ก็จะสวยๆ หน่อย

เดินออกมาบริเวณหน้าสี่แยกใกล้ๆ กัน มีทั้งทางซ้ายและขวา ทำให้เราได้เห็นแผนผังบ้านเมือง และอาคารบ้านเรือน ร้านอาหาร หรือร้านรวงต่างๆ ซึ่งมีหน้าตาเหมือนบ้านปกติทั่วไป ต้องอ่านป้ายด้านหน้าค่ะว่าเป็นร้านอะไร

แอดมินเคยเจอร้านทำผมที่ด้านนอกเป็นบ้านไม้ซุงด้วย หรือแม้แต่ร้านอาหารที่หน้าตาเหมือนบ้านคนอยู่ และเมื่อเดินไกลออกไปเรียบถนนของเมืองก็จะเจอ 7-11 (ดูได้จากแผนที่ด้านบน) ที่ดูเหมือนจะเป็นร้านสะดวกซื้อเพียงไม่กี่แห่งในเมืองนี้อยู่ค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวหรือคนที่ไม่ค่อยพกเงินสดและใช้แต่บัตรเครดิต ที่แห่งนี้จะกลายเป็นที่ช่วยชีวิตเลยนะคะ

เดินไกลออกไปอีกจนถึงแม่น้ำบิเอ (Biei River) เราจะเจอสะพานข้ามแม่น้ำสีแดงสดแบบนี้ ยิ่งเวลาอยู่ในหิมะสีขาวก็จะสวยเป็นพิเศษ อิ อิ

Fukutomi Ikoi (福富憩)

เมื่อมองจะสะพานเราจะเห็นเนินสูงๆ อยู่โดยรอบ จริงๆ แล้วแอดมินก็อยากเดินไปให้ถึงด้านบนนะคะ แต่หิมะที่เริ่มตกหนักทำให้เราต้องเดินกลับมายัง Tourist Information Center ถึงแม้จะขึ้นไปข้างบนไม่ได้ แต่เราก็ได้รูปสวยๆ มาฝากกันค่า ซึ่งในรูปเป็นพื้นที่ของ Fukutomi Ikoi

สิ่งหนึ่งที่คิดว่าหลายคนคงสงสัย คือเมืองที่เขามีหิมะนี่มันไม่มีแดดใช่มั้ย? นี่เลยค่ะ! พระอาทิตย์ยังคงมีอยู่ แต่บรรยากาศจะเป็นพระอาทิตย์สีขาวขุ่นๆ แบบนี้ เมื่อแสงอาทิตย์ส่องมาเป็นสีขาว หิมะก็สีขาว เมืองหิมะในวันที่สดใสก็จะขาวไปหมดเช่นนี้

Shiki-no-tou (四季の塔)

เป็นหอคอยสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองบิเอแบบ 360 องศาได้ค่ะ [ดูแผนที่]

เทมปุระกุ้งทาวเวอร์

เดินเล่น ถ่ายรูปกันมาพอประมาณ แอดมินก็เดินกลับไปบริเวณที่ใกล้กับป้ายรถบัสที่จะพาเราไปยัง Shirogane Hot Spring แต่ก่อนหน้านั้นก็แวะเติมพลังกันเสียหน่อยนะคะ ร้านอาหารที่เราเลือก คือ Oka no Oshokujidokoro Koiya (丘のお食事処 戀や) แต่ในปัจจุบันร้านได้ปิดตัวไปแล้ว เป็นร้านอาหารที่ใกล้ที่สถานี Biei เมนูด้านบนนี้คือ เทมปุระกุ้งทาวเวอร์ บอกเลยว่าอร่อยมากจนต้องขอข้าวเพิ่ม เนื่องจากร้านอาหารในเมืองหิมะนั้นค่อนข้างหายากและมีทางเลือกน้อย ฉะนั้นเราต้องดูเวลาทำการของร้านอาหารให้ดีก่อนนะคะ (ร้านอาหารตามเมืองชนบทไม่เปิดตลอดเวลาเหมือนในเมืองใหญ่ค่ะ)

รีวิวโซน Shirogane Hot Spring (Shirogane Onsen)

หลังจากที่เราเติมพลังกันเรียบร้อยแล้ว และเมื่อได้เวลาเราก็นั่งรถบัสมาลงยังป้ายสุดท้ายที่ Shirogane Hot Spring (白金温泉) เป็นโซนของโรงแรมและออนเซ็นที่อยู่บนภูเขาค่ะ โดยเราจะมาแช่ออนเซ็นที่นี่ก่อนที่จะไปชมบ่อน้ำสีฟ้าในตอนที่มืดแล้วนะคะ

ซึ่งแถบ Shirogane Hot Spring นี้ไม่ได้มีที่พักเพียงแห่งเดียว แต่ประกอบด้วยที่พักหลายๆ ตึกซึ่งมีแขกแวะเวียนกันเข้าพักอย่างไม่ขาดสายเลยค่ะ

ที่เห็นว่าเปิดไฟกันเช่นนี้ไม่ใช่ว่ามืดค่ำดึกดื่นอะไรนะคะ เพียงแต่ว่าช่วงฤดูหนาวค่อนข้างมืดเร็ว ประมาณบ่าย 4 โมง พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว รวมทั้งสภาพอากาศก็หนาวเย็นขึ้นด้วย

นอกจากโรงแรมก็มีร้านค้า ของฝากให้นักท่องเที่ยวและนักเดินทางเอาไว้ซื้อหากันค่ะ เพื่อนๆ ที่อยากซื้อของฝากแต่ไม่รู้จะซื้อที่ไหน ก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้านี้ค่ะ

โรงแรมที่เรามาใช้บริการในครั้งนี้คือโรงแรม Taisetsuzan Shirogane Kanko Hotel‎ (大雪山白金観光ホテル) [ดูแผนที่] ซึงการใช้บริการที่ว่านี้ก็คือ เราจะเข้าไปแช่ออนเซ็นกลางแจ้งท่ามกลางหิมะค่ะ เป็นออนเซ็นในฝันของใครหลายๆ คนใช่มั้ยคะ เราสามารถสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ได้โดยไม่ต้องพักที่โรงแรมค่ะ (สำหรับคนที่อยากพักค้างคืนสามารถเช็คราคาห้องพักได้ที่นี่)

พอเข้าไปด้านในเราจะเจอ Front หน้าตาแบบนี้ สามารถเข้าไปแจ้งพนักงานได้เลยว่าจะมาแช่ออนเซ็นค่ะ แล้วเขาจะให้บัตรเข้าออนเซ็นและผ้าขนหนูผืนเล็กๆ สำหรับคนที่อยากได้ผืนใหญ่ต้องพกมาเองนะคะ

เมื่อเราชำระเงินก็จะได้บัตรหน้าตาแบบนี้กับผ้าขนหนูดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นค่ะ โดยค่าบริการตอนที่ไปนั้นอยู่ที่ 1,000 เยน หรือเพียง 300 บาท โดยประมาณ

บริเวณล็อบบี้มีที่นั่งพักผ่อน รวมทั้งของฝากขาย (เยอะมาก) เลือกหาซื้อกันได้นะคะ หรือจะแช่น้ำก่อนแล้วค่อยมาซื้อก็ได้ค่ะ

ทางไปบ่อกลางแจ้งซึ่งจะเชื่อมต่อกับล็อบบี้เลย ด้านในมีล็อคเกอร์ฝากของมีค่าต่างๆ ส่วนเสื้อผ้าก็ถอดเก็บเอาไว้ในตระกร้าเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุด แล้วสามารถเข้าไปในบริเวณบ่อได้เลยค่ะ

บ่อออนเซ็นในอาคาร

โรงแรม Daisetsuzan Shirogane Kanko Hotel‎ แห่งนี้ใช้น้ำร้อนประมาณ 50 องศา ซึ่งเป็นระดับความร้อนที่สามารถอาบได้สบายๆ อีกทั้งอ่อนโยนต่อผิวของเราอีกด้วย ออนเซ็นแบ่งเป็นบ่อภายในและบ่อภายนอก แยกเป็นบ่อแยกชายหญิง ภาพด้านบนเป็นบ่อภายใน และลานที่มีไฟเปิดอยู่นั้นเป็นที่อาบน้ำของแต่ละคน อย่าได้เขินอายไปนะคะ เพราะไม่มีใครดูของใคร ถ้าเราไม่แอบมองเขา เราก็จะไม่เขิน อิ อิ และซ้ายมือของรูปที่มีประตูนั่นคือห้องซาวน่า ที่สามารถอาบน้ำร้อนและอยากเข้าห้องซาวน่าด้วยก็สามารถทำได้ค่ะ

ส่วนบ่อกลางแจ้งจะอยู่ริมแม่น้ำเลยค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะเพราะอีกฝั่งเป็นป่าและมีหลายๆ อย่างบังเอาไว้ ปลอดภัยแน่นอนค่ะ บ่อกลางแจ้งนี้ ในหน้าหนาวช่วงที่หิมะตก บริเวณทางเดินและโขดหินจะถูกเคลือบด้วยหิมะนุ่มๆ และเมื่อแช่ออนเซ็นอุ่นๆ ท่ามกลางอากาศติดลบ จะรู้สึกสบายเป็นพิเศษ ฟินสุดๆ ไปเลยค่า!

เมื่อแช่ออนเซ็นเสร็จแล้ว ก็ออกมาเดินเล่นชมวิวด้านนอกกันค่ะ เราสามารถเดินจากโรงแรม ข้ามสะพานตรงหน้า แล้วไต่บันไดขึ้นไปบนยอดเขาก็จะสามารถชมวิวยามค่ำคืนของที่นี่ได้ ตามทางเดินมีแสงไฟให้แสงสว่างตลอดทางค่ะ

สำหรับวันนี้ก็ขอจบการรีวิวเที่ยวเมืองบิเอไว้ที่การแช่ออนเซ็นก่อน ในตอนหน้าเราจะพาไปชมบ่อน้ำสีฟ้าในตอนที่มีการเปิดไฟซึ่งเป็นไฮไลต์ของทริปนี้กันนะคะ สวัสดีค่า

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] บ่อน้ำสีฟ้า Shirogane Blue Pond ฮอกไกโด ชม Winter Illumination กลางหิมะ

ค้นหาและเทียบราคาที่พักในฮอกไกโด

บทความเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido)

รีวิวเที่ยวฮอกไกโดช่วงเทศกาลหิมะ
รีวิวเที่ยวฮอกไกโด *เพราะคิดถึงจึงมาหา♥ (ซัปโปโร – โอตารุ)

+ ดูบทความเที่ยวฮอกไกโดทั้งหมด

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com