สวัสดีค่า ตอนนี้เราก็ยังอยู่กับการท่องเที่ยวในภาคกลางของญี่ปุ่น โดยเราจะมาเดินเที่ยวเมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto) กันนะคะ ไฮไลท์ของเมืองนี้ก็อยู่ที่ปราสาทสีดำขนาดใหญ่ซึ่งมีชื่อว่า ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) พร้อมไปเดินเที่ยวถนนนาวะเตะ (Nawate Street) และถนนนากามาจิ (Nakamachi Street) ที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งในบรรยากาศย้อนยุค

เกี่ยวกับเมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto)

ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle / 松本城)

เมืองมัตสึโมโตะ (Matsumoto / 松本市) ตั้งอยู่ในตอนกลางของจังหวัดนากาโน่ (Nagano) ในภูมิภาคชูบุ (Chubu) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจังหวัดนี้ รองจากเมืองหลักซึ่งก็คือ เมืองนากาโน่ (Nagano)

เมืองมัตสึโมโตะแห่งนี้มีสถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่างมากนั่นก็คือ ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) ซึ่งเป็นหนึ่งในปราสาทเก่าแก่ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และยังมีถนนช้อปปิ้งซึ่งเรียงรายไปด้วยอาคารสไตล์โบราณที่สามารถเดินเที่ยวได้อย่างสบายๆ ได้แก่ ถนนนาวะเตะ (Nawate Street) และถนนนากามาจิ (Nakamachi Street)

นอกจากนั้น เมืองมัตสึโมโตะยังเป็นเมืองที่สามารถเดินทางไปเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามอื่นๆ ได้อีก เช่น เส้นทางเจแปนแอลป์ (Tateyama Kurobe Alpine Route), หุบเขาคามิโคจิ (Kamikochi), ภูเขาโนริคุระ (Norikura) เป็นต้น

วิธีการเดินทางมามัตสึโมโตะ (Matsumoto)

รถไฟ

สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟด่วนจากเมืองต่างๆ ในญี่ปุ่น โดยมีตัวอย่างของเส้นทางดังนี้

  • จากสถานี Nagano:
    นั่งรถไฟ JR Limited Express Shinano มาลงที่สถานี Matsumoto (ใช้เวลาประมาณ 50 นาที)
  • จากสถานี Nagoya:
    นั่งรถไฟ JR Limited Express Shinano มาลงที่สถานี Matsumoto (ใช้เวลาประมาณ 125 นาที)
  • จากสถานี Shinjuku:
    นั่งรถไฟ JR Limited Express Asusa มาลงที่สถานี Matsumoto (ใช้เวลาประมาณ 160 นาที)

พาสที่สามารถใช้นั่งรถไฟได้

รถบัส

สามารถนั่งรถบัสจากเมืองหลักๆ เช่น โตเกียว โอซาก้า นาโกย่า นากาโน่ มาลงที่เมืองมัตสึโมโตะได้

พาสที่สามารถใช้นั่งรถบัสได้

รีวิวเที่ยวมัตสึโมโตะ (Matsumoto)

※ภาพรีวิวเป็นการท่องเที่ยวในปี 2017

ก่อนจะมาเมืองมัตสึโมโตะ เราได้ไปเที่ยวที่เจแปลแอลป์ในเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route มาก่อนนะคะ โดยรถบัสในเส้นทางเจแปลแอลป์จะมาจอดที่สถานี Shinano Omachi ในจังหวัดนากาโน่ (Nagano) จากนั้นเราก็ต่อรถไฟสาย JR Oito Line มาลงที่สถานี Matsumoto ค่ะ

โรงแรม Super Hotel Matsumoto Ekimae

จากนั้นเราก็มาเช็คอินที่โรงแรม Super Hotel Matsumoto Ekimae [ดูแผนที่] เดินประมาณ 2 นาทีจากสถานีก็ถึงแล้วค่ะ ราคาตอนที่เข้าพักสำหรับ 2 คน รวมอาหารเช้านั้นอยู่ที่ 10,600 เยน ต่อคืน (สามารถเช็คราคาที่แน่นอนได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลยค่ะ) ในห้องนั้นมีเตียงเล็กด้านบนด้วยนะคะ ห้องนี้จึงสามารถนอนได้สูงสุด 3 คน โรงแรมค่อนข้างใหม่ พนักงานบริการดีมาก อาหารเช้าก็อร่อยด้วยค่ะ (มีแซลม่อนให้ตักไม่อั้น อิอิ)

เช็คราคา Super Hotel Matsumoto Ekimae

เริ่มต้นจากโรงแรมในตอนเช้า เราก็เดินไปยังปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) เป็นที่แรกค่ะ จากโรงแรมก็ใช้เวลาเดินไปประมาณ 15 นาที สำหรับใครที่เดินมาจากสถานี Matsumoto ก็ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีพอๆ กันค่ะ

ระหว่างทางเราจะเจอกับสะพานข้ามแม่น้ำ Sensai Bridge (千歳橋) [ดูแผนที่] ที่มีต้นซากุระริมสองฝั่ง ตอนที่ไปคือปลายเดือนเมษายน ซึ่งบางต้นก็ร่วงไปเยอะแล้ว แต่บางต้นก็ยังสวยอยู่เลยค่ะ (ถ้ามาช่วงกลางเดือนเมษายน คิดว่าซากุระน่าจะกำลังบานเต็มที่)

ตรงแม่น้ำยังมีธงปลาคาร์ปหลากสีสันซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวันเด็กผู้ชายของญี่ปุ่น (ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม) อีกด้วยค่ะ ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงปลายเมษายน-ต้นพฤษภาคมก็จะเจอธงแบบนี้ได้ตามสถานที่ต่างๆ นะคะ และจากสะพานข้ามแม่น้ำก็ต้องเดินอีกประมาณ 5 นาที ถึงจะเจอกับบริเวณทางเข้าปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) นะคะ

ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle)

ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle)

ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle / 松本城) [ดูแผนที่] เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1592 ถือเป็นปราสาทที่ความเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น ตัวปราสาทได้ชื่อว่า “ปราสาทอีกา” เพราะมีสีดำและมีลักษณะที่เหมือนกับปีกนกที่กางออกค่ะ โดยมีสีตรงข้ามกับปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ซึ่งเป็นสีขาวทั้งหลัง

ข้อมูลการเยี่ยมชม

  • ค่าเข้าชม: บริเวณด้านในปราสาท
    • ผู้ใหญ่ 700 เยน
    • เด็ก 300 เยน
      ※อัปเดต 15 พฤษภาคม 2024
  • เวลาทำการ:
    • ช่วงปกติ 8:30 – 17:00 น. (เข้าก่อน 16:30 น.)
    • ช่วงโกลเด้นวีคและฤดูร้อน 8:30 – 18:00 น. (เข้าก่อน 17:30 น.)
    • วันหยุด: 29 – 31 ธันวาคม
  • ช่วงซากุระบาน: ต้น – กลางเดือนเมษายน

พยากรณ์ซากุระบาน

ปีวันที่เริ่มบานวันที่บานเต็มที่
202431 มีนาคม 2024 ~8 เมษายน 2024 ~
ข้อมูลจาก weathernews.jp (อัปเดต 27 มีนาคม 2024)
ซากุระปราสาทมัตสึโมโต้ (Sakura at Matsumoto Castle)

เราสามารถเดินชมรอบๆ ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) ได้โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชมด้านในนะคะ ซึ่งจากบนหอคอยที่อยู่ด้านบนสุด เราจะเห็นวิวรอบๆ ได้อย่างสวยงามเลย ช่วงที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งก็จะเห็นวิวเทือกเขาเจแปนแอลป์ (Japan Alps) ได้เลยค่ะ

รอบปราสาทนั้นก็มีสวนต้นซากุระหลายต้น ที่นี่ก็ยังเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมของเมืองมัตสึโมโตะด้วยค่ะ สามารถมานั่งปูเสื่อปิกนิกกันได้ที่ใต้ต้นซากุระเลย วันนั้นตรงกับวันเสาร์ พอสายๆ คนญี่ปุ่นก็มาจองที่กันหลายกลุ่มเลยค่ะ

อีกมุมที่ห้ามพลาดคือตรงสะพานแดงนี้ค่ะ สามารถถ่ายรูปได้จากด้านล่าง แต่ไม่เปิดให้ขึ้นไปบนสะพาน หลังจากเดินชมรอบปราสาทและซากุระกันอิ่มแล้ว เราก็กลับมาตรงแยกสะพานข้ามแม่น้ำที่มาถ่ายรูปซากุระเล่นกันตอนขามา ตรงนั้นจะเป็นที่ตั้งของถนนช้อปปิ้งของเมืองนี้ค่ะ

ถนนนาวะเตะ (Nawate Street)

ถนนนาวะเตะ (Nawate Street / なわて通り商店街) [ดูแผนที่] เป็นถนนสายเล็กๆ เลียบไปกับแม่น้ำ ตรงทางเข้าถนนก็จะมีรูปปั้นกบอยู่ค่ะ ในนี้ก็มีร้านขายของออกแนวเรโทรย้อนยุค และร้านอาหารคาเฟ่น่ารักๆ อยู่หลายร้านค่ะ

บางคนก็เรียกถนนนี้ว่า “ถนนกบ” เพราะมีสารพัดกบเลยค่ะ

ถนนนาวะเตะ (Nawate Street)

ของที่ขายก็มีกบหลากหลายรูปแบบ

ในถนนก็ยังมีศาลเจ้าเล็กๆ ที่ชื่อว่า ศาลเจ้าโยฮะชิระ (Yohashira Jina Shrine / 四柱神社) [ดูแผนที่] สามารถแวะมาขอพรกันได้นะคะ ไม่มีค่าเข้าชมค่ะ

ศาลเจ้าโยฮะชิระ (Yohashira Jina Shrine)

บนเสาไฟก็ยังมีกบเลย อิอิ

ถัดจากถนนนี้ก็เป็นย่านเมืองเก่า ถนนนากามาจิ (Nakamachi Street) ค่ะ สามารถเดินข้ามสะพานมาจากถนนนาวะเตะ (Nawate Street) แล้วเดินทะลุซอยมาได้เลย (ตรงถนนเส้นนั้นมีสะพานให้เดินข้ามหลายจุด)

ถนนนากามาจิ (Nakamachi Street)

อาคารในถนนนากามาจิ (Nakamachi Street / 中町通り) [ดูแผนที่] นี้มีจุดเด่นที่เป็นอาคารโบราณสีขาวซึ่งแต่เดิมเคยเป็นโกดังเก็บสินค้าของเมือง ในปัจจุบันก็ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี โดยเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ค่ะ

Matsumotoshi Hakari Museum [ดูแผนที่] เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการชั่งตวงวัดในช่วงสมัยเมจิถึงโชวะ

รถบัสเที่ยวเมืองมัตสึโมโตะลายจุด Polka Dot เด่นมากๆ โดยลายจุดนี้ก็ได้รับแรงบันดาลในจาก ยาโยอิ คุซามะ (Yayoi Kusama) ซึ่งเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงของเมืองนี้ค่ะ

Nakamachi Kurassic-kan [ดูแผนที่] เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของถนนนากามาจิ ประกอบด้วยพื้นที่ให้เช่าสำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น งานนิทรรศการ พิธีชงชา เป็นต้น และยังมีส่วนของคาเฟ่ที่สามารถเข้าไปนั่งทานชาและขนมอร่อยๆ ได้ค่ะ

ร้านอาหารในถนนนากามาจิ

ปิดท้ายการเที่ยวเมืองมัตสึโมโตะกับร้านไอติมนี้ค่ะ Cafe SENRI [ดูแผนที่] เห็นรูปดูน่าทานดี แวะพักนั่งทานของเย็นๆ ให้หายเหนื่อยก่อนที่จะเดินกลับไปโรงแรมเพื่อเอากระเป๋าที่ฝากไว้ค่ะ

เมนูที่สั่งก็คือ Triple Chocolate ราคา 650 เยน เป็นเครปม้วนๆ กับไอติมช็อกโกแลต และช็อกโกแลตบาร์ มีน้ำเปล่าให้ฟรี (※เมนูและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)

ทั้งหมดนี้เราใช้เวลาเที่ยวครึ่งวันนะคะ เป็นเมืองที่สามารถเดินเล่นชิลๆ ได้สบายๆ ใครที่ชอบปราสาทญี่ปุ่นก็ห้ามพลาดเลยค่ะ จากนั้นเราก็จะเดินทางต่อไปยังเมืองนาโกย่า (Nagoya) ค่ะ ซึ่งในตอนหน้าเราจะมารีวิวการนั่งรถไฟจากสถานี Matsumoto ไปยังสถานี Nagoya กันนะคะ

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] การเดินทางจากมัตสึโมโตะไปนาโกย่า (Matsumoto → Nagoya) ด้วยรถไฟ JR

เทียบราคาโรงแรมที่พักในมัตสึโมโตะ


รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com