การเยี่ยมชมปราสาทในญี่ปุ่นนั้นถือเป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดเลยค่ะ สำหรับในภูมิภาคคันไซ (Kansai) นี้ก็มีปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และสามารถเดินทางมาไม่ยากจากเมืองโอซาก้าซึ่งเป็นเมืองหลักของภูมิภาคด้วยค่ะ สำหรับในรีวิวนี้เราจะพามาชมปราสาทฮิเมจิแห่งนี้ในตอนปลายเดือนพฤศจิกายนนะคะ บรรยากาศจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ไปชมกันเลยจ้า!

เกี่ยวกับปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle / 姫路城) ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ (Himej) ของจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) เป็นปราสาทสีขาวขนาดใหญ่ซึ่งชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า “ปราสาทนกกระสาขาว” ตัวปราสาทยังเป็นแบบดั้งเดิมตั้งแต่เมื่อสมัย 400 ปีก่อน ถือได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความเก่าแก่ สวยงามและมีความสำคัญเป็นอย่างมากของญี่ปุ่น

นอกจากนี้ปราสาทฮิเมจิยังได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติแห่งชาติเมื่อปี ค.ศ. 1951 และยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกกับ UNESCO ในปี ค.ศ. 1993 เป็นสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องหาโอกาสมาเยือนให้ได้สักครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงซากุระบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ รวมทั้งการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่สวนโคโคะเอ็น (Kokoen / 好古園) ซึ่งอยู่ติดกับบริเวณปราสาท

ประวัติความเป็นมา

  • ปี ค.ศ. 1333 อาคามัตสึ โนริมูระ (Akamatsu Norimura) ได้สร้างป้อมปราการบนเนินเขาฮิเมยามะ
  • ปี ค.ศ. 1346 อาคามัตสึ ซาดาโนริ (Akamatsu Sadanori) ผู้เป็นบุตรชายได้รื้อป้อมปราการและสร้างใหม่ให้เป็นรูปแบบของปราสาท
  • ปี ค.ศ. 1581 โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ได้สร้างหอคอยหลักของปราสาทสูง 3 ชั้นขึ้นมา
  • ปี ค.ศ. 1601-1609 อิเคดะ เทรุมาซะ (Ikeda Terumasa) ได้สร้างหอคอยหลักใหม่ และปรับปรุงปราสาทครั้งใหญ่จนเป็นรูปแบบปราสาทที่เห็นในปัจจุบัน

ข้อมูลการเยี่ยมชม

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

  • เวลาทำการ:
    • 9:00 – 16:00 น. (ประตูปิด 17:00 น.)
  • วันหยุด:
    • 29 – 30 ธันวาคม
  • ค่าเข้าชม:
    • ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 1,000 เยน
    • เด็ก (ประถมและมัธยม) 300 เยน

วิธีการเดินทางมาเมืองฮิเมจิ (Himeji)

การเดินทางจากเมืองต่างๆ

Shin-Osaka → Himeji
ตัวอย่างเส้นทาง Shin-Osaka → Himeji (Hyperdia.com)

จากเมืองโกเบ (Kobe)

Kobe → Himeji
  • จากสถานี Kobe ให้นั่งรถไฟ JR Special Rapid Service มาลงที่สถานี Himeji ใช้เวลาประมาณ 37 นาที
Shin-Kobe → Himeji
  • จากสถานี Shin-Kobe ให้นั่งรถไฟชินคันเซ็น มาลงที่สถานี Himeji ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที (ขึ้นอยู่กับขบวนรถ)

จากเมืองโอซาก้า (Osaka)

Osaka → Himeji
  • จากสถานี Osaka ให้นั่งรถไฟ JR Special Rapid Service มาลงที่สถานี Himeji ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
Shin-Osaka → Himeji
  • จากสถานี Shin-Osaka ให้นั่งรถไฟชินคันเซ็น มาลงที่สถานี Himeji ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที (ขึ้นอยู่กับขบวนรถ)

จากเมืองเกียวโต (Kyoto)

  • จากสถานี Kyoto จากสถานี Shin-Osaka ให้นั่งรถไฟชินคันเซ็น มาลงที่สถานี Himeji ใช้เวลาประมาณ 45-55 นาที (ขึ้นอยู่กับขบวนรถ)
  • จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟ JR Special Rapid Service มาลงที่สถานี Himeji ใช้เวลาประมาณ 90 นาที

หมายเหตุ: สามารถใช้ JR PASS ได้ในทุกเส้นทาง

  • JR PASS (Whole Area) ไม่สามารถใช้กับขบวน NOZOMI และ MIZUHO
  • JR WEST PASS (เช่น KANSAI WIDE PASS) ใช้กับชินคันเซ็นได้ทุกขบวน
    *ยกเว้นเส้นทางจาก Kyoto → Shin-Osaka (ต้องนั่งรถไฟธรรมดาจาก Kyoto มาต่อรถชินคันเซ็นที่ Shin-Osaka)

การเดินทางจากสถานีรถไฟไปปราสาทฮิเมจิ

เมื่อลงรถไฟที่สถานีแล้ว ให้ออกทางออก Himeji Exit (North Exit) แล้วเดินตรงขึ้นไปตามถนนได้เลย ตัวปราสาทอยู่ห่างออกไปประมาณ 1.2 กิโลเมตร

  • เดินเท้าจากหน้าสถานี ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
  • นั่งรถบัส Shinki Bus มาลงที่ป้าย Himejijo Otemon mae (大手門前) แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที

รีวิวเที่ยวปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

ในรีวิวเราออกเดินทางจากเมืองโอซาก้านะคะ โดยเริ่มต้นที่สถานี Shin-Osaka ก็ให้มาขึ้นชินคันเซ็น เพียงต่อเดียวก็ถึงเมืองฮิเมจิแล้วค่ะ โดยขบวนที่เราขึ้นนั้นคือ HIKARI ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที ถ้าหากเป็นรถด่วนอย่าง NOZOMI ก็จะใช้เวลาเพียง 30 นาที ซึ่งเรามี KANSAI WIDE PASS ก็สามารถใช้ขึ้นชินคันเซ็นได้เลยในตู้แบบที่ไม่ต้องจองที่นั่ง

โมเดลจำลองปราสาทภายในบริเวณสถานีรถไฟ Himeji

หลังจากแวะทานอาหารเช้าที่ร้านในสถานีแล้ว ก็ลุยต่อค่ะ! พอออกมาจากสถานีตรงทางออก Himeji Exit (North Exit) ก็เจอกับปราสาทตั้งเด่นอยู่ฝั่งตรงข้ามเลย เหมือนจะใกล้ แต่ไม่ใกล้เท่าไหร่นะ หุหุ

ระหว่างทางเดินไปก็มีต้นแปะก๊วยสีเหลืองให้ชมระหว่างทาง

เหลืออีกแยกเดียว ใกล้ถึงละ ฮึบๆ

บริเวณด้านหน้าปราสาทมีบริการรถลากด้วยนะคะ

Otemon Gate (大手門)

ประตูทางเข้าบริเวณปราสาทฮิเมจิ ส่วนนี้ยังไม่มีการเก็บค่าเข้าชมค่ะ

บริเวณลานด้านในปราสาท

เดินตามเขาไปเรื่อยๆ ก็จะเจอส่วนทางเข้าด้านในปราสาทซึ่งจะมีการเก็บค่าเข้าชมแล้วค่ะ

แหงนมองด้านบนก็เจอกับตัวปราสาทสีขาวอันเป็นเป็นจุดเด่น โดยมีใบไม้แดงแซมให้เห็นเล็กน้อยในบริเวณสวนด้านล่าง

สามารถซื้อตัวเข้าชมได้ที่ตู้จำหน่ายอัตโนมัติหรือที่เคาท์เตอร์ก็ได้

ส่วนเรามีบัตรเติมเงิน ICOCA KANSAI ONE PASS สามารถใชว์บัตรตอนนี้ตอนซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ เราจะได้ส่วนลดค่าเข้าชม 20% ซึ่งจะลดเหลือ 800 เยน จาก 1,000 เยน สำหรับผู้ใหญ่ค่ะ

เมื่อเข้ามาด้านในก็จะเจอมุมถ่ายรูปจุดนี้ ตัวปราสาทยิ่งใหญ่อลังการจริงๆ ค่ะ วันนี้ท้องฟ้าก็สีสดมากด้วย

เดินเข้าไปด้านในกันต่อ ต้นไม้บางต้นที่เห็นร่วงๆ ก็เป็นต้นซากุระนะคะ ซึ่งในบริเวณปราสาทมีต้นซากุระถึง 1,000 ต้นเลยทีเดียว ที่จริงแล้วในบริเวณปราสาทนั้นไม่ค่อยมีใบไม้แดงซักเท่าไหร่ ใครที่อยากชมใบไม้เปลี่ยนสีจริงๆ แนะนำให้ไปที่สวนโคโคะเอ็น (Kokoen Garden) ที่อยู่ข้างๆ กันค่ะ (ในรีวิวนี้ไม่ได้แวะไปนะคะ)

เดินๆ ไต่ๆ กันต่อ ฝึกกำลังแข้งขา (หุหุ)

หลังจากที่เดินผ่านประตูกันเข้ามาหลายชั้น ก็จะเป็นตัวหอคอยหลักของปราสาทแล้วค่ะ เราต้องถอดรองเท้าเอาใส่ถุง แล้วหิ้วติดตัวไปด้วยนะคะ

ตัวหอคอยปราสาทมีทั้งหมด 6 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 1 ชั้น เราก็จะเดินวนขึ้นบันไดไปชมแต่ละชั้น โดยจะมีการจัดเส้นทางเดินไว้เป็นทางเดียวกันค่ะ

ขอบอกว่าบันไดทางขึ้นในแต่ละชั้นนั้นค่อนข้างชันเลยนะคะ

จากด้านบนหอคอยเราสามารถมองออกไปชมวิวด้านนอกได้

วิวจากอีกชั้น มองตรงไปก็เห็นสถานีรถไฟเลยค่ะ

ชั้นบนสุดมีศาลเจ้าให้ขอพร

โมเดลจำลองปราสาทและเมืองฮิเมจิ

เมื่อกลับออกมาด้านนอกเราก็จะมาโผล่ที่ลานนี้ ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 11 โมง ถ้าจะถ่ายรูปคู่กับปราสาทก็ต้องหยีตาสู้แดดกันหน่อย เอิ๊ก

Himeji City Zoo (姫路市立動物園)

ขากลับตอนที่เดินผ่านออกมาก็จะเจอกับสวนสัตว์ฮิเมจิ

Sakuramon-bashi Bridge (桜門橋)

ออกมาด้านนอกก็ขอถ่ายรูปสะพานกับปราสาทมุมนี้ไว้เป็นที่ระลึกอีกรอบ สำหรับขากลับนั้นเราเดินมาขึ้นรถบัสกลับไปที่สถานีรถไฟนะคะ ขี้เกียจเดินแล้ว 555

ส่งท้าย

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) เป็นปราสาทสีขาวที่ยิ่งใหญ่และอลังการมาก นอกจากนี้ในญี่ปุ่นก็ยังมีปราสาทสีดำที่ใหญ่มากอีกแห่งนั่นก็คือ ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle) ในจังหวัดนากาโน่ค่ะ ซึ่งเราได้เคยไปเยี่ยมชมเรียบร้อยแล้ว สามารถดูรีวิวได้ที่นี่เลย » [รีวิว] เที่ยวปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle) และถนน Nawate & Nakamachi

หลังจากการเที่ยวปราสาทที่เมืองฮิเมจิในช่วงเช้าแล้ว เราจะพานั่งชินคันเซ็นไปเที่ยวเมืองโกเบซึ่งเป็นเมืองหลักของจังหวัดเฮียวโงะแห่งนี้กันต่อในช่วงบ่าย-ค่ำ รอติดตามชมรีวิวกันได้ในตอนหน้านะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่า

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยว Nunobiki Herb Gardens & Ropeway ชมสวนสมุนไพรวิวสวยที่เมืองโกเบ

เทียบราคาโรงแรมที่พักในโกเบ


รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com