สวัสดีค่า วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมหิมะที่ญี่ปุ่นในเดือนเมษายนกันที่ เจแปนแอลป์ (Japan Alps) บนเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route แบบเต็มเส้นทางเลยค่ะ โดยเริ่มตั้งแต่สถานี Dentetsu Toyama ในจังหวัดโทยาม่า (Toyama) ไปจนถึงสถานี Shinano Omachi ในจังหวัดนากาโน่ (Nagano) นะคะ โดยไฮไลท์ของเส้นทางนี้ก็คือ กำแพงหิมะ (“Yuki-no-Otani” Snow Wall) ที่มีความสูงเกือบ 20 เมตรค่ะ

เกี่ยวกับเส้นทางเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine Route

เส้นทางเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine (คนญี่ปุ่นเรียกว่า Alpen) นั้นเป็นเส้นทางท่องเที่ยวผ่านภูเขาทาเทยาม่า (Mt. Tateyama) ที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,400 เมตร ซึ่งจะมีวิวหุบเขาอันสวยงามและเขื่อนขนาดใหญ่ รวมถึงกำแพงหิมะในช่วงฤดูใบไม้ใบผลิ โดยนักท่องเที่ยวต้องเดินทางผ่านยานพาหนะต่างๆ ทั้งรถไฟ รถราง รถบัส กระเช้าไปตามเส้นทาง รวมต้องเปลี่ยนพาหนะทั้งสิ้น 8 ครั้งด้วยกัน

ช่วงเวลาเปิดเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route

ช่วงเวลาที่เปิดเส้นทางท่องเที่ยวนั้นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปี ปกติแล้วสามารถเปิดเต็มเส้นทางได้ในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤศจิยายน และจะมีการปิดเส้นทางในช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนเมษายนเนื่องจากมีหิมะทับถมเป็นปริมาณมาก

Tateyama Kurobe Alpine Route 2023
2023 Tateyama Kurobe Alpine Route
www.alpen-route.com
ปีเปิดเต็มเส้นทาง
(Tateyama – Ogizawa)
202315 เมษายน – 30 พฤศจิกายน
202215 เมษายน – 30 พฤศจิกายน
※มีการปรับเส้นทางในปี 2022

ปี 2017 (ปีที่ไปรีวิว)

  • เปิดเต็มเส้นทาง (Dentetsu Toyama – Shinano Omachi) 15 เมษายน 2017 – 30 พฤศจิกายน 2017
  • เปิดบางส่วน (Dentetsu Toyama – Midagahara) 10 เมษายน 2017 – 14 เมษายน 2017
  • ปิดเส้นทางตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2017 – ต้นเดือนเมษายน 2018

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.alpen-route.com/th/ (ภาษาไทย)

ในช่วงที่เปิดเต็มเส้นทาง สามารถเที่ยวตามเส้นทางเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine Route โดยเริ่มได้ทั้ง 2 ฝั่ง ระหว่างจังหวัดโทยาม่า (Toyama) หรือ จังหวัดนากาโน่ (Nagano) จะเที่ยวเต็มรูทขึ้นอีกฝั่งแล้วไปลงอีกฝั่ง หรือจะไปและกลับฝั่งเดิมก็ได้ โดยขึ้นอยู่กับแผนการเที่ยวและการเดินทางของเพื่อนๆ ค่ะ

หมายเหตุ:

  • ควรพักค้างคืนในเมืองใกล้ๆ เส้นทางเจแปนแอลป์ก่อน เพราะต้องออกเดินทางแต่เช้า และต้องใช้เวลาอีกประมาณ 8 ชั่วโมงเพื่อเดินทางให้ครบเส้นทางและลงมาให้ทันรถรอบสุดท้าย
  • ถ้ามาจากฝั่งจังหวัดโทยาม่า แนะนำให้ค้างคืนก่อนที่เมืองโทยาม่า (สถานี Toyama / Dentetsu Toyama)
  • ถ้ามาจากฝั่งจังหวัดนากาโน่ แนะนำให้ค้างคืนก่อนที่เมืองนากาโน่ (สถานี Nagano) หรือ เมืองมัตสึโมโต้ (สถานี Matsumoto)

การซื้อตั๋วเส้นทางเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine Route

Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass

สำหรับการเที่ยวครั้งนี้เราใช้พาส Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass (ราคาปี 2023 ผู้ใหญ่ราคา 21,200 เยน, เด็กราคา 10,600 เยน) [สั่งซื้อตั๋วทางออนไลน์ที่นี่] ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การเดินทางมาจากสถานี Nagoya ในจังหวัดไอจิ (Aichi) มาที่สถานี Toyama ผ่านเส้นทางเจแปนแอลป์ไปสถานี Matsumoto ในจังหวัดนากาโน่ (Nagano) และวนกลับมาที่สถานี Nagoya โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ใช้งานได้ 5 วันติดกันค่ะ (※ข้อมูลเพิ่มเติม Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass)

Klook.com

Tateyama Kurobe Option Ticket [เลิกจำหน่ายแล้ว]

นอกจากนี้ยังมีอีกพาสที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวคือ Tateyama Kurobe Option Ticket (ผู้ใหญ่ราคา 9,800 เยน, เด็กราคา 4,900 เยน) ซึ่งซึ่งต้องล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันก่อนใช้งาน พาสนี้สามารถใช้เดินทางได้ระหว่างสถานี Dentetsu Toyama และ สถานี Nagano ในจังหวัดนากาโน่ ใช้เดินทางได้ขาเดียวใน 5 วันติดกัน

ค่าโดยสารปกติ

  • สำหรับค่าเดินทางราคาปกติทั้งเส้นทาง (Dentetsu Toyama – Shinano Omachi) อยู่ที่ 13,820 เยน  (※ข้อมูลเพิ่มเติม ราคาค่าโดยสาร)
  • สามารถซื้อตั๋วแยกในแต่ละสถานีระหว่างเส้นทางแอลป์ได้ (※ข้อมูลเพิ่มเติม วิธีซื้อบัตรโดยสาร)

หมายเหตุ:

  • สามารถจองตั๋วออนไลน์ได้ระหว่างเส้นทาง Tateyama – Ogizawa (※ข้อมูลเพิ่มเติม WEB Ticket)
  • ผู้ที่ใช้พาสไม่สามารถจองตั๋วออนไลน์ได้ ต้องไปแลกตั๋วที่สถานีตามที่พาสนั้นกำหนด

รีวิวเที่ยวเส้นทางเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine Route (ตอนแรก)

ในส่วนของรีวิวเส้นทางเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine Route ในบทความนี้ เราจะเริ่มที่สถานี Dentetsu Toyama ไปถึงสถานี Shinano Omachi และนั่งรถไฟต่อไปสถานี Matsumoto ค่ะ ใช้เวลาในเฉพาะส่วนของเส้นทางแอลป์ (Toyama – Shinano Omachi) ประมาณ 10 ชั่วโมงค่ะ

เรามาพักค้างคืนกันที่เมืองโทยาม่าก่อนเพื่อจะได้ออกเดินทางขึ้นเจแปนแอลป์ได้แต่เช้า โดยโรงแรมที่เราพักมีชื่อว่า Toyama Chitetsu Hotel ตั้งอยู่บนสถานี Dentetsu Toyama เลยค่ะ ทีวีก็ใหญ่ ห้องน้ำก็ใหญ่ ช่วงที่พักราคาคืนละ 10,200 เยน นอนได้ 2 คน (※เช็คราคาที่แน่นอนได้ที่ Toyama Chitetsu Hotel)

ที่โรงแรมนี้ยังมีบริการรับฝากส่งสัมภาระไปยังที่ต่างๆ ในเส้นทางแอลป์ได้ด้วยค่ะ โดยจะได้รับสัมภาระภายในวันนั้นเลย สามารถบอกเจ้าหน้าที่ตอนเช็คอินได้เลย เค้าจะให้ป้ายเรามาเขียนไว้ และคำนวนราคาให้เราดูก่อน เช้าวันที่จะมาส่งค่อยมายื่นป้ายพร้อมกระเป๋าเดินทางและชำระอีกที เราให้ไปส่งที่สถานีปลายทาง Shinano Omachi ค่าส่งอยู่ที่ 1,300 เยนต่อใบ ※ปัจจุบันปี 2023 ปรับราคาเป็น 2,500 เยนต่อใบ (※ข้อมูลเพิ่มเติม บริการขนส่งสัมภาระ)

หมายเหตุ:

  • หากโรงแรมไหนไม่มีบริการรับฝากส่งกระเป๋า สามารถไปฝากส่งได้ที่ทางเข้าสถานี Dentetsu Toyama

รถไฟรอบแรกจะออกสถานี Dentetsu Toyama ตอน 5:28 น. เรามารอกันตั้งแต่ตี 5 เลยค่ะ ซึ่งก็มีคนมาต่อแถวจำนวนหนึ่งแล้ว (รถไฟมีที่นั่งไม่มาก หากมาช้าอาจต้องยืนตลอดทาง) ที่สถานีมีโบร์ชัวร์ตารางเวลาพาหนะต่างๆ บนเส้นทางแอลป์ให้ด้วยค่ะ สามารถหยิบไว้ดูได้ หรือจะเข้าไปเช็คตารางเวลาที่เว็บไซต์ alpen-route.com/en/timetable/ ก็ได้เหมือนกัน แนะนำว่าระหว่างที่เที่ยว ให้คอยดูรอบรถไว้ด้วยนะคะ จะได้ไปรอเข้าแถวขึ้นได้ตอนใกล้ถึงเวลา

พาหนะที่ 1: Toyama Chiho Railroad

(Toyama – Tateyama : 52 นาที)

เราใช้เวลานั่งรถไฟประมาณ 50 กว่านาทีก็มาถึงสถานี Tateyama ตอนประมาณ 6:20 น. ระหว่างนั่งรถไฟมาก็เติมพลังด้วยขนมปังที่ซื้อตุนไว้จากเมื่อวาน ตอนเช้าๆ อย่างนี้ร้านอาหารตรงสถานียังไม่เปิดเลยค่ะ

วิวระหว่างนั่งรถไฟมาสถานี Tateyama

ตรงสถานี Tateyama นี้อยู่ที่ความสูง 475 เมตร เริ่มสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกแล้วค่ะ พอมาถึงเราต้องไปแลกพาสเป็นตั๋วสำหรับเส้นทางเจแปนแอลป์ที่บริเวณด้านหน้าสถานี (ถ้าไม่อยากต่อแถวยาวๆ แนะนำว่าให้นั่งรถไฟขบวนหน้าสุด พอถึงสถานี Tateyama ให้รีบลงมาจากรถไฟแล้วออกมาหน้าสถานีเลยค่ะ)

เราจะได้บาร์โค้ดพร้อมจองเวลาขึ้น Tateyama Cable Car ค่ะ (ตั๋วที่มีบาร์โด้ดนี้จะใช้สำหรับขึ้นพาหนะต่างๆ ในเส้นทาง และต้องติดไว้กับพาสตลอด ห้ามแยกจากกัน ตอนที่แลกตั๋ว เจ้าหน้าที่จะถามเราด้วย ไม่ก็ดูที่พาสว่าจากประเทศอะไร เค้าจะได้ให้คู่มือเป็นภาษาของเราด้วยค่ะ

ใครเตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาไม่พร้อม ที่ร้านขายของฝากบนนี้ก็มีให้เลือกเยอะเลยค่ะ ส่วนของกิน ตู้กดน้ำก็มีขายทุกสถานี แต่ราคาแพงกว่าปกตินิดหน่อยค่ะ

พาหนะที่ 2: Tateyama Cable Car

(Tateyama – Bijodaira : 7 นาที)

เราต้องมาเข้าแถวขึ้น Tateyama Cable Car ก่อนถึงเวลาที่ระบุในตั๋ว 10 นาที เพื่อขึ้นไปยังที่ราบ Bijodaira บนความสูง 977 เมตร เราได้รอบ 7:10 ใช้เวลานั่งรถประมาณ 7 นาที

ถ้าอยากเห็นวิวด้านนอกควรหาที่นั่งริมกระจกนะคะ แต่วิวแถวนี้ยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

พาหนะที่ 3: Tateyama Highland Bus

(Bijodaira – Murodo : 50 นาที)

จากนั้นก็มาต่อที่รถบัส Tateyama Highland Bus ขึ้นไปจนถึงสถานี Murodo เราได้ขึ้นตอนประมาณ 7:30 น. ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ตรงนี้ไม่ต้องจองที่นั่งแล้วค่ะ ถ้าเต็มก็ต้องต่อแถวรอรอบต่อไป

ระหว่างทางที่นั่งรถบัสก็จะมีวิวกำแพงหิมะเตี้ยๆ และวิวภูเขาให้ชม มีวิดีโอบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางนี้และจุดท่องเที่ยวต่างๆ ถนนค่อนข้างคดเคี้ยว อาจทำให้เวียนหัวได้นะคะ ใครที่เมารถควรทานยาไปเผื่อด้วยก็ดีค่ะ

สถานี Murodo อยู่ที่ความสูง 2,450 เมตร ซึ่งสูงที่สุดของแจแปนแอลป์แล้วค่ะ ตรงนี้ก็คือที่ตั้งของกำแพงหิมะ Tateyama “Yuki-no-Otani” Snow Wall ภายในสถานีมีทางขึ้นจุดชมวิวด้านบน และทางเดินกำแพงหิมะ ตอนที่เรามาถึงเป็นตอน 9:15 น. กำแพงหิมะยังไม่เปิดค่ะ (เปิด 9:30 – 15:15 น.) เลยขึ้นไปชมวิวด้านบนก่อน

วิวจากระเบียงด้านบน ช่องที่เห็นลิบๆ นั่นคือทางเดินกำแพงหิมะนั่นเอง

ด้านบนนี้จะเป็นลานหิมะ ซึ่งขอบอกว่าหนาวมาก ลมพัดกันหน้าชา เสื้อกันหนาว ลองจอน ฮีทเทค ถุงมือ ผ้าพันคอจัดมาเต็ม ได้ใช้แน่ๆ ค่ะ บางช่วงก็หิมะตกลงมา เวลาถ่ายรูปเรา ในเฟรมก็จะเห็นเป็นละอองหิมะฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งดีค่ะ อิอิ

ทางเดินเต็มไปด้วยหิมะและก็ลื่นมากด้วย (มีคนลื่นให้เห็นตลอด หนึ่งในนั้นคือเรา แหะๆ) ขนาดคนที่มีไม้ค้ำมากันด้วย ก็ยังลื่นเลยค่ะ

พยายามเดินตรงที่หิมะยังไม่แข็งมาก ควรใช้รองเท้าที่มีดอกยางเยอะๆ ส่วนรองเท้าผ้าใบก็ใส่มาเดินได้ค่ะ ลื่นอยู่แต่ก็พอไหว ถ้าเป็นผ้าควรพ่นกันน้ำไว้ด้วยไม่ให้รองเท้าเปียก และถ้ามากันเป็นคู่ก็เดินเกี่ยวแขนกันไว้ค่ะ อีกคนลื่นหรือเซก็ยังมีอีกคนพยุงไว้ได้ (เพิ่งค้นพบวิธีนี้ตอนหลังๆ และลองมาแล้วก็ได้ผล ไม่ล้มอีกเลย อิอิ)

ตรงนี้มีที่ให้เดินกว้างสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ แต่เราไม่กล้าเดินไปไกล กลัวลื่นตกเขา เอิ๊ก บางคนก็เดินกันเก่งมาก ก้าวฉับๆ เดินเร็วด้วย ไม่ล้มเลย

เห็นคนตัวเท่ามดเลย

โรงแรม Hotel TATEYAMA อยู่ตรงสถานี Murodo คนก็นิยมมาค้างที่นี่ค่ะ เพราะสามารถมาเดินตรงกำแพงหิมะหลังเวลาปิดได้ด้วย คนไม่เยอะเหมือนตอนกลางวัน ราคาค่อนข้างสูงเลยตกหมื่นกว่าเยนต่อคน สู้ไม่ไหว และช่วงนี้จองกันเต็มเกือบทุกวันเลย ไม่งั้นก็เหลือแต่ห้องแพงๆ (※เช็คราคาที่แน่นอนได้ที่ Hotel TATEYAMA)

จากนั้นเราก็กลับเข้ามาในสถานี Murodo เพื่อลงมาเดินที่กำแพงหิมะ พอเข้ามาในอาคารนี่หน้ามืดเลยค่ะ เพราะตอนออกไปไม่ได้ใส่แว่นกันแดด เห็นว่าไม่มีแดด เลยไม่อยากใส่ ถ้าวันที่แดดดี แนะนำว่าควรใส่แว่นกันแดดดีกว่าค่ะ เพราะแดดจะสะท้อนกับหิมะจนแสบตาแน่ๆ

วันนี้กำแพงหิมะสูงสุดอยู่ที่ 19 เมตร อุณหภูมิ -2 องศา

การมาท่องเที่ยวบนเขาสูงอย่างนี้ส่วนหนึ่งต้องพกดวงมาด้วยค่ะ บางวันถ้าอากาศไม่ดี เค้าก็จะปิดเส้นทางบางส่วน ก่อนหน้าที่เรามาวันสองวันก็มีปิดกำแพงหิมะไป วันที่เรามาท้องฟ้าไม่ใส แต่มาเที่ยวได้ก็ดีใจแล้วค่ะ (ถ้าอยากให้ดีกว่านี้ก็ขอท้องฟ้าใสๆ เห็นสีท้องฟ้าเข้มๆ แจ่มๆ เลย อิอิ) เพื่อนๆ สามารถเช็คพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้ แต่จะให้แม่นจริงๆ คือล่วงหน้าแค่วันเดียวค่ะ เพราะอากาศมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้

มีสไลด์หิมะให้เล่น สนุกสนานกันมาก

ตรงทางเดินกำแพงหิมะมีคนมากันเยอะมากค่ะ ตรงนี้มีหิมะละลายอยู่บนพื้นด้วย ค่อนข้างลื่นเหมือนกัน ตอนเราเดินนี่อย่างกับเล่นสเก็ตไหลไปได้เลย จึงต้องเบี่ยงมาเดินริมเชือกแทน ยังไงก็เดินกันระวังๆ ด้วยนะคะ ล้มไปนี่ก้นดำก้นแฉะแบะแน่

กำแพงหิมะที่เจแปนเอลป์นี้จะเปิดเป็นทางเดินยาวไปตามถนนประมาณ 500 เมตร โดยมีแค่ช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลายๆ เดือนมิถุนายนนะคะ

กำหนดการเปิดทางเดินกำแพงหิมะ

  • ปี 2019 : 15 เมษายน – 22 มิถุนายน 2019
  • ปี 2018 : 15 เมษายน – 22 มิถุนายน 2018
  • ปี 2017 : 15 เมษายน – 22 มิถุนายน 2017

ตรงนี้เป็นจุดวัดความสูงของหิมะที่ตกลงมาทับถมในแต่ละวัน

ช่วงหน้าหนาวจะเป็นช่วงที่ปิดเส้นทางเพราะมีหิมะตกทับถมกันมาก ช่วงฤดูใบไม้ผลิจนถึงใบไม้ร่วงถึงจะเปิดให้คนขึ้นมาได้ค่ะ โดยจะใช้เวลาเคลียร์เส้นทางประมาณ 7-10 วัน ด้วยรถขุดรถตักซึ่งนำทางโดยจีพีเอส (คนญี่ปุ่นนี่ช่างคิดจริงๆ)

รถบัสที่พานักท่องเที่ยวมายังสถานี Murodo

ยิ่งเดินไป ก็จะเห็นกำแพงสูงขึ้นเรื่อยๆ

ถึงแล้วค่ะจุดสูงสุดของกำแพงหิมะ

ป้ายอีกด้านมีภาษาไทยด้วยค่ะ จุดสูงสุดวันนี้อยู่ที่ 19 เมตร
(ชี้ไปตรงไหนก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน ฮาาา)

เลยป้ายมานิดเดียวก็สุดทางแล้วค่ะ มีเชือกกั้นไว้ ไม่สามารถเดินต่อไปได้

จากนั้นเราต้องกลับหลังหันแล้วเดินกลับทางเดิม

เราต้องกลับมาที่สถานี Murodo เพื่อขึ้นรถไปสถานีต่อไป

หน้าตาของรถขุดจ้า มีชื่อว่า Tateyama Kumataro
(ดูจากป้ายตอนที่เห็นตรงกำแพงหิมะนะ)

ทุกสถานีจะมีร้านขายของฝาก ถ้ารีบซื้อก็ต้องแบกกันไปยาวๆ เลย

มาเข้าคิวขึ้นรถไปต่อค่ะ เส้นทางเจแปนแอลป์นี้ยังอีกยาวไกล~ ถ้าใครจะมาเที่ยวแค่กำแพงหิมะ ก็นั่งรถบัสกลับจากสถานี Murodo ไปตามเส้นทางเดิมได้เลยค่ะ

พาหนะที่ 4: Tateyama Tunnel Trolley Bus

(Murodo – Daikanbo : 10 นาที)

ต่อกันด้วย Tateyama Tunnell Trolley Bus เป็นรถบัสซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้า จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมค่ะ เราจะนั่งรถบัสลอดอุโมงค์ทะลุเขาทาเทยาม่าไปอีกฝั่งซึ่งเป็นสถานี Daikanbo ใช้เวลานั่งรถประมาณ 10 นาที

ตอนที่ขึ้นรถคันนี้ก็เกือบๆ เที่ยงแล้วค่ะ ผ่านไปครึ่งวันกันแล้วกับการท่องเที่ยวเส้นทางเจแปนแอลป์ วันนี้ขอพักครึ่งไว้เท่านี้ก่อน ตอนหน้าเราจะมารีวิวต่อกับเส้นทางที่เหลือนะคะ ซึ่งมีไฮไลท์เป็นการชมวิวของเทือกเขาแอลป์และเขื่อนที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นกันค่ะ แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้านะคะ สวัสดีค่า

อ่านตอนจบ » [รีวิว] Tateyama Kurobe Alpine Route#2: ชมเทือกเขาแอลป์ & เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam)

ค้นหาโรงแรมที่พักในญี่ปุ่น


รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com