ใครที่ชอบเที่ยวชมสวนดอกไม้และชมวิวมุมสูงสวยๆ วันนี้เราก็มีที่เที่ยวแนะนำค่ะ นั่นก็คือ สวนสมุนไพรนุโนบิกิ (Nunobiki Herb Gardens) ที่อยู่ในเมืองโกเบ (Kobe) นั่นเอง ทำเลที่ตั้งนั้นก็อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟชินคันเซ็นนิดเดียว สามารถเดินทางมาได้สะดวกมากๆ ทั้งในตัวเมืองโกเบเอง หรือจะมาจากเมืองโอซาก้าก็ใช้เวลาแค่ 10 นาทีนิดๆ เองค่า

เกี่ยวกับสวน Nunobiki Herb Gardens

สวนสมุนไพรนุโนบิกิ (Nunobiki Herb Gardens / 神戸布引ハーブ園) ตั้งอยู่บนภูเขาร็อคโค (Mount Rokko) ในเมืองโกเบ (Kobe) ของจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) เป็นสวนสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในมีสมุนไพรถึง 75,000 ต้น และดอกไม้อีก 200 ชนิดที่ผลัดกันเบ่งบานตลอดทั้งปี นอกจากนี้ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ ร้านจำหน่ายสินค้าจากสมุนไพร คาเฟ่และร้านอาหารไว้รองรับผู้มาเยือนอีกด้วย

นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาชมสวนโดยการนั่งกระเช้าลอยฟ้านุโนบิกิ (Nunobiki Ropeway) หรือที่เรียกว่ากระเช้าลอยฟ้าชินโกเบ (Shin-Kobe Ropeway) ซึ่งมีความยาว 1,460 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยระหว่างทางจะได้ชมทั้งวิวของสวนและตัวเมืองโกเบแบบพาโนราม่าเลยทีเดียว

ข้อมูลการเยี่ยมชม

เวลาทำการ:

ฤดูกาลHerb GardensRopeway
ฤดูใบไม้ผลิ
(20 มี.ค.-19 ก.ค.)
10:00-17:00 น. (วันธรรมดา)
10:00-20:30 น. (วันหยุด)
9:30-17:15 น. (วันธรรมดา)
9:30-21:00 น. (วันหยุด)
ฤดูร้อน
(20 ก.ค.-31 ส.ค.)
10:00-20:30 น.*9:30-21:00 น.
ฤดูใบไม้ร่วง
(1 ก.ย.-30 พ.ย.)
10:00-17:00 น. (วันธรรมดา)
10:00-20:30 น.* (วันหยุด)
9:30-17:15 น. (วันธรรมดา)
9:30-21:00 น. (วันหยุด)
ฤดูหนาว
(1 ธ.ค.-19 มี.ค.)
10:00-17:00 น.9:30-17:15 น.
*หมายเหตุ: หลัง 17:00 น. เปิดเฉพาะจุดชมวิวด้านบน

ค่าเข้าชม: Gardens + Ropeway (ราคาปกติ)

ฤดูเวลาไป-กลับเที่ยวเดียว
ช่วงกลางวัน
(9:30-17:00 น.)
ผู้ใหญ่ 1,800 เยน
เด็กประถม-มัธยมต้น 900 เยน
เด็กอนุบาล เข้าฟรี
ผู้ใหญ่ 950 เยน
เด็กประถม- มัธยมต้น 480 เยน
เด็กอนุบาล เข้าฟรี
ช่วงเย็น
(17:00-21:00 น.)
ผู้ใหญ่ 1,100 เยน
เด็ก 700 เยน
※อาจมีการปรับราคาในช่วงเทศกาล

สถานที่จำหน่าย:

  • สามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีขึ้นกระเช้า หรือซื้อล่วงหน้าทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ klook.com
กรอกโค้ด JPKAKKOII5OFF
ลด 5% สูงสุด 380 บาท ไม่มีขั้นต่ำ
ใช้ได้ตั้งแต่ 15 ก.พ. – 30 มิ.ย. 2024
Klook.com

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี

ปีวันที่เริ่มพีควันที่ร่วง
202320 พฤศจิกายน ~13 ธันวาคม ~
※ข้อมูลจาก weathernews.jp (อัปเดต 15 ตุลาคม 2023)

วิธีการเดินทาง

รถไฟ

  • Shin-Kobe เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีมายังจุดขึ้นกระเช้า สายที่ผ่าน ได้แก่
    • รถไฟชินคันเซ็น Tokaido-Sanyo Shinkansen
    • รถไฟใต้ดินสาย Hokushin Line และ Seishin-Yamate Line

รถบัส

  • Nunobiki Herb Garden & Ropeway (ป้ายหมายเลข 11) เดินประมาณ 3 นาทีจากป้ายมายังจุดขึ้นกระเช้า สายที่ผ่านคือ
    • Kobe City Loop Bus

หมายเหตุ: จากเมืองโอซาก้าให้นั่งรถไฟชินคันเซ็นจากสถานี Osaka มาลงที่สถานี Shin-Kobe ใช้เวลาประมาณ 12 นาที (※ใช้ JR PASS ได้)

แนะนำพาสเที่ยวคันไซ
Klook.com

รีวิวเที่ยวสวน Nunobiki Herb Gardens

ก่อนหน้านี้เราอยู่กันที่ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) สามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากสถานี Himeji มาลงสถานี Shin-Kobe ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงค่ะ คนที่มี JR PASS อย่าง KANSAI WIDE PASS แบบเราก็สามารถขึ้นชินคันเซ็นมาได้สบายๆ

พอออกจากสถานีรถไฟก็ให้เดินทะลุมาทางโรงแรม ANA Crowne Plaza แล้วจะโผล่ทะลุมาตรงลานด้านนอกแบบในรูปนี้ จากป้ายบอกทางมองเลยไปอีกนิดเดียวก็เป็นทางเดินเชื่อมไปยังจุดขึ้นกระเช้าลอยฟ้าแล้วค่ะ

ด้านบนทางเชื่อมมีป้ายบอกอยู่ค่ะ ไม่หลงแน่นอน

Herb Gardens Bottom Station
(ハーブ園山麓駅)

เดินเข้าไปจะเจอกับอาคารใหญ่ๆ ซึ่งเป็นสถานีต้นทางของกระเช้าลอยฟ้าค่ะ ให้เข้าไปซื้อตั๋วด้านในได้เลย

แผนที่ของสวน

สำหรับแพลนการท่องเที่ยวในวันนี้ก็เริ่มจากการนั่งกระเช้าขึ้นไปยังสถานีด้านบนสุดก่อน แล้วค่อยเดินย้อนลงมาชมโซนต่างๆ ส่วนตอนขากลับก็จะขึ้นกระเช้าจากสถานีตรงกลางลงมายังด้านล่างนี้ค่ะ

ที่นี่สามารถใช้บัตรเติมเงิน ICOCA KANSAI ONE PASS โชว์เพื่อเป็นส่วนลดได้เช่นกันค่ะ ในเว็บไซต์ของบัตรเขียนไว้ว่าจะได้ส่วนลด 20% ซึ่งจะลดเหลือ 1,200 เยน จาก 1,500 เยน สำหรับผู้ใหญ่ค่ะ แต่พอเราใช้จริงลดแค่ 10% เหลือ 1,350 เยน ตอนนั้นแลดูเจ้าหน้าที่จะงงๆ (สงสัยไม่ค่อยมีใครใช้) เราก็งงตามเขาไปด้วย (เอิ๊ก~)

※ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 2023) ปรับราคาขึ้นเป็น 1,800 เยน

กระเช้านึงนั่งได้ 6 ที่ค่ะ ช่วงที่คนเยอะก็ต้องรอคิวกันหน่อย

จากบนกระเช้าสามารถชมวิวด้านนอกได้รอบทิศเลยค่ะ เรามาช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ก็มีใบไม้แดงๆ มาแต้มสีสันให้ภูเขาดูสดใสยิ่งขึ้น

วิวเมืองโกเบ

วิวสวนด้านล่าง

Herb Gardens Mid Station
(風の丘中間駅)

เป็นสถานีกลาง เรายังไม่ได้ลงที่สถานีนี้นะคะ

Herb Gardens Top Station
(ハーブ園山頂駅)

เรานั่งต่อไปจนสถานีด้านบนสุดเลย ซึ่งตรงนี้มีความสูงถึง 400 เมตร ส่วนระยะทางจากด้านล่างขึ้นมาก็อยู่ที่ 1,460 เมตร ใช้เวลานั่งกระเช้าประมาณ 10 นาทีค่ะ

View Plaza (Welcome Garden) & View Rest House

เมื่อออกมาจากสถานีรถกระเช้า เราก็จะเจอกับสวนที่รายล้อมอาคารสไตล์เยอรมัน ด้านในนั้นมีร้านขายของและร้านอาหารจากสมุนไพรค่ะ นอกจากนี้ในช่วงตอนกลางคืนโซนนี้ก็จะมีการประดับไฟด้วยค่ะ

ช่วงที่ไปนั้นมีการจัดงานเทศกาลเยอรมันพอดี ก็จะมีการตั้งซุ้มจำหน่ายอาหาร รวมทั้งเบียร์และไวน์เยอรมัน แถมด้วยการะประดับประดาสถานที่ช่วงคริสต์มาสด้วยค่ะ

แวะเติมพลังกันหน่อยกับไส้กรอกสมุนไพร 6 ชนิด (1,000 เยน) และเพรทเซล (400 เยน)

ท้องอื่มแล้วก็มาลุยกันต่อค่ะ ตรงนี้เป็นภาพจากจุดชมวิวด้านบนตรง View Plaza ที่เห็นเป็นเกาะลิบๆ ตรงกลางก็คือ Kobe Airport ส่วนหลังคากระจกที่เห็นทางซ้ายมือก็คือ Glasshouse ซึ่งเดี๋ยวเราจะลงไปชมกันค่ะ ส่วนตรงแหลมๆ ที่ยื่นมาด้านขวามือบนสุดนั้นก็คือ Kobe Harborland ซึ่งเราจะไปปิดท้ายทริปโกเบกันที่นั่นในค่ำนี้ค่ะ

เดินลงมาตามทางก็จะเห็นหลังคาของ Grasshouse อยู่ท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีเลย

ตรงบันไดมีต้นเมเปิ้ลด้วยค่ะ แต่ยังแดงไม่ทั้งต้น

ระหว่างทางก็จะมีสวนสมุนไพร สวนผักสวนครัว สวนดอกไม้ตะมุตะมิ ถ้าหากมาตรงกับช่วงหน้าร้อนก็จะมีทุ่งลาเว็นเดอร์ให้ชมด้วยนะคะ

ดอกไม้สีสันสดใสจริงๆ

Grasshouse

เป็นโซนที่ปลูกพืชเมืองร้อนและเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของที่นี่ และบนชั้น 2 ก็ยังมีคาเฟ่เลานจ์สุดหรูให้นั่งชิลชมวิวเมืองโกเบได้อีกด้วยค่ะ

ซุ้มต้อนรับด้านใน

Statue of Mother and Child

ประติมากรรม “รูปปั้นความรัก” จากเมือง Terni ประเทศอิตาลี

Herbal House

บ้านสมุนไพรที่มีการจำลองห้องครัวและห้องนั่งเล่น

ขากลับนี้เราจะไปขึ้นกระเช้าที่สถานีกลางนะคะ ถ้าหากจะเดินย้อนกลับไปสถานีด้านบนสุดก็จะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ แนะนำให้ขึ้นจากสถานีกลางก็ได้ค่ะ

แวะเติมพลังด้วยซอฟครีมซะหน่อย อากาศหนาวแค่ไหนก็ไม่หวั่น กินไปชมสวนไป ชื่นใจ อิอิ

ขอปิดท้ายด้วยวิวจากกระเช้าขาลงค่ะ มุมนี้อลังการเลยทีเดียว

ส่งท้าย

เราใช้เวลาอยู่ที่สวนสมุนไพรนุโนบิกิ (Nunobiki Herb Gardens) แห่งนี้กันประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งได้ค่ะ ถ้ามีเวลามากกว่านี้ก็คงชิลได้อีก ยิ่งมาช่วงอากาศดีๆ อย่างนี้ยิ่งฟิน เป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม เหมาะสำหรับมาพักผ่อนและถ่ายรูปจริงๆ ค่ะ

สำหรับในตอนหน้าเราจะพาไปเที่ยวย่านเมืองเก่าสไตล์ยุโรปที่อยู่ใกล้ๆ กันกับสวนสมุนไพรแห่งนี้ต่อ รอติดตามชมกันได้นะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีค่า

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวย่านคิตาโนะ อิจินคัง (Kitano Ijinkan) ชมบ้านสไตล์ยุโรปในเมืองโกเบ

เทียบราคาโรงแรมที่พักในโกเบ


รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com