วันนี้แอดมินจะมาแนะนำสถานที่ที่ควรทำความรู้จักเมื่อเดินทางมาถึงเมืองเซนได นั่นก็คือ “JR Sendai Station” ค่ะ ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานีรถไฟหลักของเมืองท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาคโทโฮคุที่เชื่อมต่อทั้งชินคันเซ็น รถไฟท้องถิ่น รถบัส และสนามบินเซนไดด้วยนะคะ
สำหรับการเดินทางมายังเซนไดจากโตเกียว เพื่อน ๆ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบทความ วิธีเดินทางจากโตเกียวมายังเซนได (Tokyo → Sendai) ที่เราเขียนไว้แล้วนะคะ ส่วนบทความนี้ เราจะพาไปสำรวจบรรยากาศในสถานีรถไฟเซนไดกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไปจนถึงสิ่งโซนช้อปปิ้งของฝากและร้านอาหารอร่อย ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่านะคะว่ามีอะไรบ้าง~
ข้อมูลสถานี JR Sendai
JR Sendai เป็นสถานีรถไฟหลักของจังหวัดมิยางิ (Miyagi) อยู่ในความดูแลของ JR EAST, Sendai Airport Transit, Sendai Subway เรียกว่าเป็นสถานีใหญ่ที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยค่ะ เพราะเป็นจุดเชื่อมของรถไฟจากหลายๆ ภูมิภาคและจุดเชื่อมรถไฟชินคันเซ็นหลายขบวน โดยมีสายรถไฟที่ให้บริการดังต่อไปนี้
สายรถไฟ | ประเภท |
---|---|
Tohoku Shinkansen | ชินคันเซ็น |
Akita Shinkansen | ชินคันเซ็น |
Tohoku Main Line | รถไฟ JR |
Senzan Line | รถไฟ JR |
Senseki Line | รถไฟ JR |
Joban Line | รถไฟ JR |
Sendai Airport Line | รถไฟสนามบิน |
Sendai Subway Namboku Line | รถไฟใต้ดิน |
Sendai Subway Tozai Line | รถไฟใต้ดิน |
สรุปรวมๆ สถานี JR Sendai เป็นที่รวมทั้งรถไฟใต้ดินภายในเมือง รถไฟจากสนามบินเซนได รถไฟเชื่อมจังหวัดใกล้เคียงและรถไฟคชินคันเซ็นจากต่างภูมิภาค รวมทั้งจุดเชื่อมของรถบัสก็อยู่ที่นี่ด้วยค่ะ
🔥WEEKLY SALE🔥
29 ก.ย. – 5 ต.ค. 2025
จองทุกกิจกรรมบน Klook กรอกโค้ด JPKAKOCT1
ลดทันที 300.- ขั้นต่ำ 3,500.- จำกัด 50 สิทธิ์
✨ ใช้ได้ทั้งตั๋วเข้าสถานที่ ตั๋วรถไฟ และพาสต่างๆ ✨
※ไม่รวม Tokyo Disneyland
[ดูส่วนลดเพิ่มเติม คลิกที่นี่]
รีวิวสถานี JR Sendai
สถานี JR Sendai เป็นตึกยาวที่เชื่อมต่อกับห้างสรรพสินค้าโดยรอบหลายตึก ดังนั้นจึงมีทางเดิน Sky Walk หรือทางเดินลอยฟ้าเชื่อมบริเวณโดยรอบถึงกันหมดค่ะ ทางเชื่อมจะ อยู่บริเวณชั้นสองของสถานี เมื่อเดินมาด้านนอกจะเป็นลานกว้างๆที่สามารถเดินไปยังทิศทางต่างๆ ได้โดยไม่ต้องข้ามถนนเยอะๆ ส่วนชั้นหนึ่งด้านล่างเป็นลานจอดรถบัส จุดจอดรถแท็กซี่
ในแต่ละทิศทางจะมีป้ายบอกทิศทางไปยังสถานที่ต่างๆ บนทางเดินลอยฟ้าโดยไม่ต้องกลัวหลงค่ะ ใครอยากไปเที่ยวสถานที่ที่ไม่ไกลมากก็สามารถเดินตามป้ายได้แบบสบายๆ ค่ะ
จุดจอดรถบัสและแท็กซี่
สำหรับจุดจอดรถบัสที่ สถานี JR Sendai นั้นอยู่บริเวณหน้าสถานีชั้น 1 มีชานชาลาแยกไปตามประเภทรถค่ะ มีทั้งรถบัสสาธารณะ และรถบัสของแต่ละโรงแรมหรือเรียวกังที่มีบริการรับส่งแขกผู้ใช้บริการ ซึ่งบางแห่งก็ค่อนข้างลึกเข้าไปในป่าเขา ส่วนโซนตรงกลางปากทางเข้าชั้น 1 คือ จุดจอดรถแท็กซี่ที่จะออกตามคิวค่ะ และเราต้องเรียกในจุดที่เขาจัดให้นะคะ เดินดุ่มๆ ไปเรียกไม่ได้ และต้องเข้าแถวตามคิวเรียกอีกด้วย
ตู้ล็อคเกอร์ฝากของ
เมื่อเข้ามาด้านในสถานีแล้ว เราก็เจอแต่ทางเดินยาวๆ ค่ะ แต่ว่าที่บังเอิ๊ญบังเอิญไปเจออยู่หน้าห้องน้ำนั้นคือตู้ล็อคเกอร์ฝากของนั่นเอง ตู้ในรูปนี้เป็นแบบไม่ต้องใช้กุญแจนะคะ มีให้เลือกหลากหลายไซส์ ส่วนไซส์ที่จะได้ถูกจับจองเป็นอันดับแรกคือไซส์ใหญ่สุดที่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางไซส์ 28 นิ้ว แต่ไม่เหมาะกับกระเป๋าไซส์ใหม่ เช่นกระเป๋ารูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนวิธีใช้งานก็ง่ายแสนง่ายค่ะ
วิธีที่ 1: ใช้เงินสดเหรียญหรือธนบัตร
นำกระเป๋าสัมภาระใส่ในล็อคเกอร์ที่ว่างแล้วปิดฝาล็อคเกอร์ จากนั้นทำการกดเลือกนำกระเป๋าเข้า (เป็นระบบสัมผัส) จากนั้นเครื่องจะขึ้นจำนวนเงินที่ต้องชำระ หรือบางครั้งจะมีสลิปออกมาให้ 1 ใบ จะเป็นรหัสการปลดล็อคเวลานำของออกจากล็อคเกอร์ แล้วชำระเงินตอนนำของออกค่ะ (แล้วแต่การเซ็ตระบบ)
วิธีที่ 2: การใช้บัตร IC Card
วิธีการนี้จะง่ายและสะดวกมาก เพียงแค่นำสัมภาระใส่ล็อคเกอร์ ปิดให้เรียบร้อย เลือกปุ่มนำของเข้าล็อคเกอร์และทำการสแกนบัตร IC Card ของเรา จากนั้นเครื่องจะหักเงินในบัตรพร้อมกับล็อคให้เราค่ะ เวลาจะนำของออกก็เพียงแค่ จิ้มเลือก “นำของออก” บนจอทัชสกรีน แล้วแตะ IC Card อีกครั้งหนึ่งก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นโดยไม่ต้องพกรหัสอะไรเลย สะดวกมากๆ เลยใช่มั้ยคะ
สำหรับเพื่อนๆ ที่เดินทางด้วยรถบัสเหมือนแอดมิน เจอล็อคเกอร์ที่ไหน ขอให้คว้าไว้ก่อนนะคะ เพราะว่าถ้าเป็นช่วงที่คนเยอะจะหาล็อกเกอร์ว่างยากมากๆ ถ้าเดินทางมาถึงในช่วงเช้ามืดจะฝากได้เลย แต่ถ้าเริ่มเข้าชั่วโมงเร่งด่วนตู้ก็แทบจะเต็มหมดทุกตู้เลย โดยเฉพาะสถานีที่เป็นจุดจอดของรถไฟชินคันเซ็น
ด้านในสถานี
อย่างที่แนะนำกันไปข้างต้น ควรจะฝากกระเป๋าให้เป็นอันดับแรก จากนั้นก็เข้าไปเดินเล่นยังโถงใหญ่ของสถานีได้แบบตัวเบาๆ แต่ว่าก็เป็นเรื่องจริงของแอดมินจอมหลงทางอย่างเรา ต้องอาศัยป้ายในการนำทางตลอด ซึ่งจะมีบอกเอาไว้หมด ทั้งเคาน์เตอร์ของ JR ทางแยกไปยังชานชาลารถไฟเข้าสนามบิน จุดรับของหาย ลองจำเอาไว้นะคะ รับรองเป็นประโยชน์แน่ๆ แน่นอนว่าแอดมินได้ใช้ประโยชน์ทุกอย่างในสถานีมาแล้วค่ะ
โซนตรงกลางเราจะเจอห้องโถงเปิดหลังคายกสูง ดูโออ่าอลังการมากทีเดียวค่ะ ดีไซน์คล้ายกับสนามบินขนาดย่อมที่มีเพดานสูงและทำชั้นลอยในอีกฝั่งหนึ่ง จากจุดนั้นเราสามารถมองเห็นหมดเลยค่ะ ว่าบริเวณนั้นมีอะไรอย่าง
อันนี้มุมกว้างๆ จากชั้นลอย เป็นสถานีรถไฟที่กว้างมากจริงๆ ในส่วนตรงกลางนั้น ช่วงเวลาทำการปกติของร้านค้าจะมีการจัดบูธขายของฝากของดีของจังหวัด และพื้นที่ใกล้เคียงให้เราได้ชวนน้ำลายสอกันเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นการออกบูทของร้านอาหาร ของดีต่างๆของแต่ละพื้นที่ คิดว่าคนไทยน่าจะชอบค่ะ เพราะว่าเราจะสามารถซื้อสินค้าที่เป็นเฉพาะถิ่น หรือสินค้าหรือสินค้าราคาย่อมเยา
อีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจของสถานีรถไฟแห่งนี้คือโซนกระจกสีแบบในโบสถ์คริสเตียนแบบนี้ค่ะ ของจริงใหญ่มาก ถือว่าเป็นจุกแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่ง ใช้เป็นจุดนัดพบในสถานีค่ะ จะเห็นได้ว่าคนมักจะไปยืนพิงกันตรงที่กั้นหน้ากระจก ก็มันหาง่ายและโดดเด่นเสียขนาดนี้ จอด้านซ้ายมือเป็นแผนที่แบบสัมผัสได้ให้เราได้หาข้อมูลกันอย่างจุใจ
ฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับกระจกสีก็คือทางเข้าชานชาลารถไฟนั่นเองค่า ฉะนั้นเวลานัดเจอกันตรงสถานีเซนได พอเราออกมาจากประตูตอกตั๋ว ก็จะจ๊ะเอ๋กับกระจกสีอันเบ้อเริ่มเลยค่ะ หาไวสุด เจอไวสุด
แนะนำพาสเที่ยวโทโฮคุ
ร้านค้าในสถานี
ในส่วนของร้านขายของฝากก็ใหญ่ไม่แพ้กับที่โตเกียวเลยค่ะ ซึ่งจะโดดเด่นมากในเรื่องลิ้นวัว (Gyutan) เพราะเป็นของขึ้นชื่อของเมืองเซนไดแห่งนี้ เราจึงเห็นทั้งขนมขบเขี้ยวรสลิ้นวัวย่าง หรือลิ้นวัวย่างแช่แข็งก็มีให้เลือกไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งราคาก็ไม่น้อยเช่นกันค่า เป็นจังหวัดหนึ่งที่สินค้าของฝากราคาแรงๆ เยอะ แต่คนยอมจ่ายเพราะความโด่งดังของลิ้นวัวที่นี่
เมื่อขึ้นไปด้านบนชั้น 3 ของสถานี เราจะเจอ “ถนนลิ้นวัว (Gyutan Dori / 牛たん通り)” โอ้ยยยยย คือดีงามพระรามแปดมาก มีแต่ร้านอาหารน่าอร่อยทั้งนั้นเลยค่าาา ถนนลิ้นวัว แน่นอนว่าส่วนใหญ่ต้องเป็นร้านลิ้นวัวย่างซะส่วนใหญ่ สำหรับคนไม่กินเนื้อก็มีร้านซูชิ และร้านอาหารอื่นให้เลือกอีกด้วย เรียกว่าอยากกินอะไรก็มีขายค่ะ
แล้วก็สมชื่อถนนลิ้นวัวจริงๆ ค่ะ คือ ทุกร้านมีแต่ลิ้นวัว ทั้งเป็นเซ็ต กับแกล้ม จานแยก แบบจานเดียว ย่างเอง ย่างให้ มีหมดทุกร้าน คืองานนี้เราก็ต้องชั่งน้ำหนักกระเป๋าเงินเราแล้วค่ะ ว่าสู้ได้แค่ไหน ข้อดีของที่นี่คือ เราสามารถลิ้มลองลิ้นวัวได้ในราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับร้านต่างจังหวัด หรือร้านในโตเกียว สนนราคาที่เซตหนึ่งราคาประมาณ 2,000 เยน
เราสนใจที่สุดคือเซ็ตนี้ค่ะ แค่ไซส์เล็ก เริ่มต้นประมาณ 1,700 เยน (*ราคาเมนูอาหารในปัจจุบันอาจมีการเปลี่ยนแปลง) ซึ่งรสชาติมันก็คุ้มค่ากับราคามากๆ เลยนะคะ นี่แอดมินแค่นั่งเขียนอยู่ยังอยากกลับไปกินอีกครั้งเลยอ่ะ เครื่องเคียง ข้าวร้อน เนื้อนุ่มๆ รับรองได้เลยว่าทุกคนจะต้องติดใจ
สำหรับผู้ที่กระเป๋าหนักก็เลือกได้ทุกเมนู อย่าได้แคร์ราคาค่ะ จัดไปๆ เพราะลิ้นวัวที่อร่อยสุดๆ ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ ถนนนี้เป็นสวรรค์ของคนชอบกินเนื้อเลยก็ว่าได้ค่ะ
สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่กินเนื้อวัว เราขอแนะนำให้ลองมาชิมความสดของอาหารทะเลเมืองเซนไดแทนค่ะ เป็นอีกอย่างที่มีชื่อเสียงรู้กันทั่วเกาะญี่ปุ่นทั้งซาชิมิ ข้าวหน้าปลาดิบสดๆ ซูชิ ความได้เปรียบของจังหวัดที่สามารถจับปลาได้เอง คือ จะมีเนื้อกุ้งหอยปูปลาที่หลากหลาย และขายในราคาที่ถูกกว่าเมืองใหญ่อย่างโตเกียวมากๆ เลยนะคะ
แต่ละร้านแม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีจุดเด่นและความฮอตฮิตเป็นของตัวเองที่ลูกค้าติดใจจนต้องเข้าแถวรอเนอะ และด้วยประการละฉะนี้ ที่สถานี JR Sendai นั้นมีอะไรน่าสนใจที่มากกว่าการเป็นเพียงสถานีรถไฟนะคะ สำหรับวันนี้ฝากไว้เพียงเท่านี้สวัสดีค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง » [รีวิว] Tashirojima เกาะแมว (Cat Island) แห่งจังหวัดมิยางิ (Miyagi)
บทความเที่ยวเซนได (Sendai) ดูทั้งหมด »
› เมืองเซนได
- การเดินทางจากโตเกียวไปเซนได (Tokyo → Sendai) ในจังหวัดมิยางิ
- JR Sendai Station สถานีหลักของเมืองเซนได พร้อมแนะนำร้านค้าต่างๆ
- ลิ้นวัวย่าง (Gyutan Yaki) อาหารขึ้นชื่อของเมืองเซนได
- เที่ยวเซนได 1 วัน ชมใบไม้เปลี่ยนสี ปราสาทเซนได (Aoba Castle)
- Kyou Bar Lounge & Inn โรงแรมริมแม่น้ำ ชมใบไม้เปลี่ยนสีใกล้เซนได
› แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com