เที่ยวญี่ปุ่น 2023 ญี่ปุ่นเปิดประเทศให้เที่ยวเอง มีเงื่อนไขและขั้นตอนอย่างไร?

6064
เที่ยวญี่ปุ่น 2022

ญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศอีกครั้งเมื่อปี 2022 (พ.ศ. 2565) จนปัจจุบันก็เข้าสู้ปี 2023 (พ.ศ. 2566) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บางคนอาจจะยังมีความกังวลเรื่องโควิด-19 ระบาด เลยยังไม่ได้จองตั๋วกันไปทันทีหลังจากที่เปิดประเทศ คาดว่าปีนี้ก็เป็นปีที่หลายคนอาจตั้งตารอคอยที่จะได้กลับไปเที่ยวญี่ปุ่นกันหลังจากรอดูสถานการณ์กันมา

แม้ว่าญี่ปุ่นจะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวมาหลายเดือนแล้ว แต่ว่าก็มีเงื่อนไข (นิดหน่อย) นะคะ ซึ่งปัจจุบันก็ได้ผ่อนคลายมาตรการลงมาเยอะจากช่วงที่เปิดแรกๆ แล้ว ในบทความนี้เราจะมาบอกกล่าวรายละเอียดข้อกำหนดและขั้นตอนต่างๆ ในการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ เอาไว้แนวทางในการเตรียมตัวสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2023 นี้เลย แบบไม่อยากรออีกต่อไปแล้วจ้า~

สรุปสาระสำคัญในการเที่ยวญี่ปุ่น 2022 – 2023

มาตรการตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2565

  • หากมาเที่ยวญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน สามารถเดินทางมาได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (นักท่องเที่ยวไทยได้ฟรีวีซ่า 15 วัน)
  • หากฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม สามารถใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนจากแอปฯ หมอพร้อมในการลงทะเบียน Visit Japan Web ก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่น
    ※ใช้วัคซีนที่อยู่ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รับรอง (รวม Sinovac และ Sinopharm)
  • หากไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบ 3 เข็ม ต้องใช้ผลตรวจ RT-PCR เป็นลบในการลงทะเบียน Visit Japan Web ก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่น
    ※ต้องตรวจภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และใช้แบบฟอร์มที่ญี่ปุ่นทางญี่ปุ่นรับรอง

ญี่ปุ่นเปิดประเทศให้ท่องเที่ยวได้เมื่อไหร่?

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2022 รัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง หลังจากปิดประเทศไปนานกว่า 2 ปี ก่อนหน้านี้มีการอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ถือวีซ่าแบบต่างๆ เข้าประเทศญี่ปุ่นได้แล้ว คราวนี้ก็มาถึงคิวนักท่องเที่ยวแล้วค่ะ ทั้งนี้ยังคงมีเงื่อนไขบางประการที่นักท่องเที่ยวยังคงต้องปฎิบัติตาม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเราจะขอแจกแจงแบบละเอียดในหัวข้อถัดไปนะคะ

วันที่เริ่มใช้มาตรการรูปแบบการเดินทาง
11 ตุลาคม 2022~· เที่ยวเองได้อิสระ
· แบบกรุ๊ปทัวร์
หมายเหตุ: ไม่ต้องขอวีซ่า หากท่องเที่ยวไม่เกิน 15 วัน
7 กันยายน 2022~· แบบกรุ๊ปทัวร์ โดยมีไกด์เดินทางมาด้วย
· ใช้บริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักผ่านบริษัททัวร์ โดยไม่ต้องมีไกด์เดินทางมาด้วย
หมายเหตุ: ต้องขอวีซ่าระยะสั้นเพื่อการท่องเที่ยว
10 มิถุนายน 2022~· แบบกรุ๊ปทัวร์ โดยมีไกด์เดินทางด้วยตลอดทริปเท่านั้น
หมายเหตุ: ต้องขอวีซ่าระยะสั้นการท่องเที่ยว

หมายเหตุ: วิธีนับจำนวนวันที่สามารถอยู่ในญี่ปุ่นได้ คือ ให้นับวันที่เดินทางถึง + 15 วัน
เช่น ถ้าเดินทางถึงวันที่ 11 + 15 วัน = อยู่ในญี่ปุ่นได้ไม่เกินวันที่ 26 เวลา 23:59 น.

ไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องฉีดวัคซีนอะไร ต้องกักตัวหรือไม่?

นับเป็นข่าวดีที่นักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคนรอคอย หลังจากที่ญี่ปุ่นประกาศใช้มาตรการใหม่ที่เริ่มตั้งแต่ 11 ตุลาคม 2565 ทำให้เราสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเคยฉีดวัคซีนหรือไม่ ฉีดยี่ห้ออะไร หรือฉีดมาแล้วกี่เข็ม โดยผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามที่ญี่ปุ่นกำหนด จะสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR หาเชื้อโควิดก่อนเดินทางอีกด้วย และสำหรับผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบ ก็สามารถใช้ผลตรวจ RT-PCR เป็นลบแทนได้เช่นกันค่า

นอกจากนี้ทางญี่ปุ่นก็ได้ยกเลิกมาตรการแบ่งกลุ่มประเทศเป็นสีต่างๆ ตามระดับความเสี่ยง ซึ่งก็จะไม่มีการตรวจหาเชื้อโควิดในสนามบินที่ญี่ปุ่น (ยกเว้นผู้ที่มีอาการของโรค) รวมทั้งยกเลิกมาตรการกักตัวต่างๆ อีกด้วยนะคะ

การฉีดวัคซีนมาตรการสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ
ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มสามารถยื่นใบรับรองการฉีดวัคซีนที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รับรองในการใช้ในกรณีฉุกเฉิน (รวม Sinovac และ Sinopharm) [ดูรายชื่อวัคซีนที่นี่]
ผู้ที่ฉีดวัคซีนไม่ครบ 3 เข็มสามารถยื่นใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ (ทดสอบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง) โดยใช้แบบฟอร์มที่ทางญี่ปุ่นกำหนดให้ [ดูตัวอย่างแบบฟอร์มที่นี่]

หมายเหตุ:

  • สามารถขอใบรับรองการฉีดวัคซีนได้ที่แอปฯ หมอพร้อม [ดูวิธีการขอทางออนไลน์ที่นี่]
  • การยกเว้นใบรับรองผลตรวจ RT-PCR สำหรับผู้เดินทางที่เป็นเด็ก
    • ถ้าผู้ใหญ่ที่เดินทางด้วยมีใบรับรองการฉีดวัคซีน หากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีไม่จำเป็นต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบ (= ผู้ปกครองฉีดวัคซีนครบ เด็กจะฉีดวัคซีนแล้ว หรือไม่ฉีดก็ได้)
    • ถ้าผู้ใหญ่ที่เดินทางด้วยไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีน แต่มีผลตรวจโควิดเป็นลบ หากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีไม่จำเป็นต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบ (= เด็กต่ำกว่า 6 ปี ไม่ต้องตรวจก็ได้)
  • ทางญี่ปุ่นไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการฉีดแต่ละเข็ม ขอเพียงครบ 3 เข็มก็ใช้ได้เลย

อ้างอิงจาก mofa.go.jp (ข้อมูล ณ 11 ตุลาคม 2565)

รายชื่อวัคซีนที่ญี่ปุ่นกำหนด

ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2565

สามารถใช้วัคซีนที่อยู่ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รับรองในการใช้ในกรณีฉุกเฉิน ดังรายชื่อต่อไปนี้

ชื่อวัคซีนผู้ผลิต
COMIRNATY intramuscular injection
COMIRNATY RTU intramuscular
Injection
Pfizer
BioNTech
Fosun Pharma
Spikevax intramuscular injectionModerna
Vaxzevria intramuscular injectionAstraZeneca
CovishieldSerum Institute of India
JCOVDEN intramuscular injectionJanssen (Johnson & Johnson *เข็มแรก = 2 เข็ม)
COVAXINBharat Biotech
Nuvaxovid intramuscular injectionNovavax
COVOVAXSerum Institute of India
Covilo
BBIBP-CorV
Inactivated COVID-19 Vaccine (Vero Cell)
Sinopharm/Beijing Institute of Biological Products
CoronaVac
COVID-19 Vaccine (Vero Cell), Inactivated
Sinovac
CONVIDECIACanSino Biologics (*เข็มแรก = 2 เข็ม)

หมายเหตุ:

  • สามารถขอใบรับรองการฉีดวัคซีนได้ที่แอปฯ หมอพร้อม [ดูวิธีการขอทางออนไลน์ที่นี่]
  • ทางญี่ปุ่นไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการฉีดแต่ละเข็ม ขอเพียงครบ 3 เข็มก็ใช้ได้เลย
  • สำหรับผู้เดินทางที่ฉีควัคซีนไม่ครบตามที่ญี่ปุ่นกำหนด สามารถใช้ผลตรวจ RT-PCR ได้ตามเดิม
  • กรณีที่ผู้เดินทางเป็นเด็ก
    • ถ้าผู้ปกครองฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม ถือว่าเด็กต่ำกว่า 18 ปี ฉีดครบเช่นกัน (เด็กไม่ต้องแสดงใบรับรองฉีดวัคซีน จะเคยฉีดหรือไม่ฉีดมาก่อนก็ได้)
    • ถ้าผู้ปกครองไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีน แต่มีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ เด็กต่ำกว่า 6 ปีไม่ต้องแสดงผลตรวจเป็นลบ (เด็กไม่ต้องตรวจก็ได้)

อ้างอิงจาก mhlw.go.jp (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2565)

วิธีการขอหนังสือรับรองการฉีดวัคซีน 2023

  1. ไปที่แอปฯ “หมอพร้อม” ในสมา์ทโฟน
  2. คลิกเมนู “ใบรับรองโควิด 19”
  3. เลือกเมนู “International Certificate (สำหรับเดินทางต่างประเทศ)
  4. คลิกเมนู “ขอหนังสือรับรองฯ / เพิ่มข้อมูลวัคซีน”
  5. กรอกข้อมูลส่วนตัวและพาสปอร์ต พร้อมอัปโหลดรูปถ่ายหน้าพาสปอร์ต
  6. ตรวจสอบข้อมูลวัคซีนว่าถูกต้องหรือไม่
  7. เลือกรูปแบบการขอหนังสือรับรองฯ
    • เลือก “รับหนังสือฯ ชนิดอิเล็กทรอนิกส์ (QR Code) e-Vaccine Passport”
    • ใส่วันที่ดำเนินการทำหนังสือฯ
  8. เลือกช่องทางการชำระเงิน (※ไม่มีค่าธรรมเนียม ถึง 31 ธ.ค. 2566)
  9. คลิก “ยอมรับฯ” และ “ยืนยันขอออกหนังสือรับรอง”
  10. รอจนกว่าจะมีลิงก์ “ดูเอกสารรับรองฯ ดิจิทัล” ขึ้นมาให้คลิก
    (※ตอนที่แอดมินขอ ใช้เวลาไม่นานก็ขึ้นมาให้คลิกได้แล้ว)
  11. คลิก “ดูเอกสารรับรองฯ ดิจิทัล”
  12. คลิก “Download Certificate PDF”
    (※หากโหลดไฟล์ไม่ได้ ให้คลิกที่ “Click here to copy the URL link of your certificate” เพื่อเอา URL ไปเปิดใน Web Browser แล้วค่อยดาวน์โหลดไฟล์)

หมายเหตุ:

  • กองโรคติดต่อทั่วไปแจ้งว่า หนังสือรับรองรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้เป็นเอกสารเดินทางได้เช่นเดียวกับรูปแบบเล่มเหลือง
  • ไฟล์ PDF ที่ดาวน์โหลดมา สามารถใช้อัปโหลดในเว็บไซต์ Visit Japan Web ได้เลย

จะไปเที่ยวญี่ปุ่น 2023 ต้องทำอย่างไร?

แม้ว่าญี่ปุ่นจะเปิดประเทศให้ท่องเที่ยวกันแล้วตั้งแต่ปี 2022 (พ.ศ. 2565) แต่ก็มีเงื่อนไขต่างต่างๆ ที่เราต้องทราบไว้ก่อนนะคะ เนื่องจากว่ามีข้อกำหนดและพิธีการในการเดินทางเข้าประเทศที่เปลี่ยนไปนิดหน่อยค่ะ

เงื่อนไขในการเดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นปี 2023

  • ผู้ที่ถือพาสปอร์ตสัญชาติไทยจะได้ฟรีวีซ่า 15 วัน
  • ต้องแสดงเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด (3 เข็ม) หรือ ใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
  • ควรลงทะเบียนในเว็บไซต์ Visit Japan Web ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น เพื่อความรวดเร็วในการผ่านขั้นตอนการกักกันโรค การตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการศุลกากร
  • ควรซื้อประกันเดินทางต่างประเทศที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเกี่ยวกับโควิดในญี่ปุ่น

※ตั้งแต่ 11 ตุลาคม 2565 สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องผ่านบริษัททัวร์ และไม่ต้องขอวีซ่า หากมาท่องเที่ยวไม่เกิน 15 วัน

ขั้นตอนการเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น

1. ทำพาสปอร์ต

พาสปอร์ตควรมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน เนื่องจากบางสายการบินจะไม่อนุญาตให้คนที่พาสปอร์ตที่มีอายุน้อยกว่า 6 เดือนขึ้นเครื่องบินนะคะ [ดูวิธีการทำพาสปอร์ตที่นี่]

หมายเหตุ:

  • คนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน ไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวนะคะ
  • คนที่ต้องขอวีซ่าระยะสั้น จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้
    • ยื่นได้ที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่น (JVAC) [ดูรายชื่อศูนย์ที่นี่] หรือมอบหมายให้ผู้อื่นยื่นขอวีซ่าแทนได้ [ดูรายละเอียดที่นี่ *ตรงข้อ 6]
    • ต้องใช้เอกสารประกอบการขอวีซ่า เช่น พาสปอร์ต ใบคำร้องขอวีซ่า รูปถ่าย ทะเบียนบ้าน หนังสือรับรองการทำงาน เป็นต้น [ดูรายละเอียดเอกสารที่นี่]
    • มีค่าธรรมเนียมวีซ่า 870 บาท + ค่าดำเนินการของศูนย์ 705 บาท รวมเป็น 1,575 บาท

2. เตรียมหนังสือรับรองการฉีดวัคซีน/ผลตรวจโควิด

  • คนที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเอาไว้ในรายการใช้ในกรณีฉุกเฉิน ให้ขอใบรับรองที่แอปฯ หมอพร้อมได้เลย [ดูวิธีการขอทางออนไลน์ที่นี่]
  • คนที่ฉีดวัคซีนไม่ครบ 3 เข็ม หรือไม่เคยฉีดมาก่อน ให้ตรวจ RT-PCR หาเชื้อโควิด-19 และต้องมีผลตรวจเป็นลบ ซึ่งต้องตรวจภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางจากประเทศไทย โดยใช้แบบฟอร์มที่ทางญี่ปุ่นกำหนดให้ [ดูตัวอย่างแบบฟอร์มที่นี่]

3. ลงทะเบียนล่วงหน้าที่ Visit Japan Web

ในตอนขาเข้าประเทศญี่ปุ่นจะมีกระบวนการสำคัญ 3 กระบวนการเพื่อความรวดเร็วในการเข้าประเทศ ซึ่งควรลงทะเบียนข้อมูลล่วงหน้าให้เรียบร้อยก่อน แล้วจะได้เป็น QR Code สำหรับนำไปแสดงตามจุดต่างๆ ที่สนามบิน โดยมีขั้นตอนดังนี้

Visit Japan Web Procedure
ก่อนขึ้นเครื่องบินมายังญี่ปุ่น

ให้ลงทะเบียนเว็บไซต์ Visit Japan Web » https://www.vjw.digital.go.jp/

  • ขั้นตอน 0: สร้าง Account ใหม่สำหรับไว้ใช้ Login (※ต้องใช้อีเมล)
  • ขั้นตอน 1: ลงทะเบียนข้อมูลของผู้เดินทาง
  • ขั้นตอน 2: ลงทะเบียนตารางการเดินทาง
  • ขั้นตอน 3: ลงทะเบียนข้อมูลที่จำเป็นในกระบวนการเข้าประเทศ ได้แก่
    Quarantine(Fast Track)
    Immigration (Disembarkation Card)
    Customs Declaration

หมายเหตุ:

  • Quarantine(Fast Track)
    • หากใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้เลย (ควรลงทะเบียนก่อนไม่เกิน 14 วัน เผื่อทางญี่ปุ่นมีการปรับเปลี่ยนมาตรการ)
    • หากใช้ใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ ควรลงทะเบียนหลังจากได้ใบรับรองผลการตรวจโควิดแล้ว
    • ควรละเบียนให้เรียบร้อยก่อนเดินทางเพื่อให้หน้าจอเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน หากมาทำตอนที่เดินทางมาถึงแล้วจะวุ่นวายและเสียเวลาค่ะ
  • Immigration (Disembarkation Card) และ ❸ Customs Declaration จะลงหรือไม่ลงก็ได้ โดยสามารถกรอกในใบสีเหลือง 2 ใบที่แอร์ฯ แจกบนเครื่องได้เช่นกัน
    • หากลงทะเบียนในเว็บมาก็ใช้ QR แสกนจากสมาร์ทโฟนได้เลย
    • หากรอกข้อมูลในใบสีเหลือง ก็ให้ยื่นใบที่กรอกได้เลย
เมื่อถึงสนามบินที่ญี่ปุ่น
  • ขั้นตอน 4: หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จ จะได้รับ QR Code ให้นำไปแสดงที่จุดต่างๆ ณ สนามบินขาเข้าญี่ปุ่น
    • แสดงหน้าจอสีฟ้า ❶ Quarantine(Fast Track) ที่จุดกักกันโรค (Quarantine)
    • แสดง QR Code ❷ Immigration (Disembarkation Card) (สีเหลือง) ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Immigration)
    • แสดง QR Code ❸ Customs Declaration (สีฟ้า) ที่ด่านศุลกากร (Customs)

หมายเหตุ:

  • ตั้งแต่ 28 ธันวาคม 2565 ไม่ต้องแสดงลงทะเบียนด้วยพาสปอร์ตและไม่ต้องแสดง QR Code ที่ ❶ Quarantine(Fast Track) แล้ว
  • หากกรอกข้อมูลในใบสีเหลือง Disembarkation Card ก็ให้ยื่นใบที่กรอกที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) ได้
  • ที่ด่านศุลกากร (Customs) จะมีแถวแยกระว่าง QR Code และใบสีเหลือง Customs Declaration ให้ไปเข้าแถวตามที่จะใช้ยื่น

4. ซื้อประกันเดินทาง

ควรซื้อประกันเดินทางต่างประเทศที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเกี่ยวกับโควิดในญี่ปุ่น

หมายเหตุ:

  • บางบริษัทให้ซื้อล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  • เบี้ยประกันสำหรับทริปญี่ปุ่น 7 วันนั้นเริ่มต้นไม่ถึงหลักพัน แนะนำให้ซื้อไว้อุ่นใจกว่าค่ะ

5. เตรียมข้อมูลติดต่อเผื่อกรณีฉุกเฉิน

  • หากมีอาการของโรคโควิด ในขณะท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น สามารถติดต่อหน่วยงานให้คำปรึกษา ดังนี้

หมายเหตุ:

  • หากมีประกันการเดินทาง สามารถติดต่อบริษัทประกันเพื่อประสานงานในการเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลในญี่ปุ่นได้

อ้างอิงจาก JNTO (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2565 + อัปเดตเพิ่มเติม 8 กุมภาพันธ์ 2566)

Klook.com

สรุปขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น

ใครที่อ่านแล้วอาจจะงงหรือสับสน เราขอสรุปขั้นตอนการเข้าประเทศญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยวแบบสั้นๆ ดังนี้

  1. ทำพาสปอร์ต (กรณีที่ยังไม่เคยมี / พาสปอร์ตเดิมหมดอายุ / พาสปอร์ตมีอายุเหลือน้อยกว่า 6 เดือน)
  2. คนที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มตามที่กำหนด สามารถใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีน โดยไม่ต้องแสดงผลตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง
    คนที่ฉีดวัคซีนไม่ครบ ต้องไปตรวจ RT-PCR 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง โดยใช้แบบฟอร์มที่ทางญี่ปุ่นกำหนด
  3. ควรลงทะเบียนในเว็บไซต์ Visit Japan Web ให้เสร็จก่อนเดินทางมาถึงญี่ปุ่น เพื่อกรอกข้อมูลการกักกันโรค (ใบรับรองวัคซีน/ผลตรวจโควิด) และประวัติการเข้าประเทศและเอกสารแสดงของต้องสำแดง (ที่เคยกรอกบนเครื่องบิน)
  4. ควรซื้อประกันเดินทางไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินที่ต้องรักษาพยาบาล (ควรซื้อล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 2 ชั่วโมง)
  5. หลังถึงสนามบินปลายทางที่ญี่ปุ่น ให้แสดงหน้าจอลงทะเบียนและ QR Code จากเว็บไซต์ Visit Japan Web เพื่อแสกนในจุดต่างๆ ตามขั้นตอนการเข้าสู่ประเทศ

รีวิวประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่น 2022

อันนี้เป็นประสบการณ์ที่แอดมิน Kzy ของเราได้เจอจากทริปเที่ยวคิวชูเหนือเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา โดยลงเครื่องบินที่สนามบินฟุกุโอกะนะคะ

Fukuoka Airport QR Code
การผ่านจุดตรวจกักกันโรคที่สนามบินฟุกุโอกะ

การเดินทางเข้าประเทศ

  • สายการบินไทยไม่ได้มีการตรวจเอกสารเกี่ยวกับโควิดใดๆ ก่อนขึ้นเครื่องบินไปญี่ปุ่น
  • ขั้นตอนการเข้าประเทศยังเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือต้องลงทะเบียนในเว็บไซต์ Visit Japan Web เพื่อยื่นใบรับรองวัคซีนหรือผลตรวจโควิด
  • ต้องแสดงหน้าจอสีน้ำเงินและสแกน QR Code ในขั้นตอนการผ่านจุดกักกันโรค (Quarantine) หลังจากนั้นจะได้รับกระดาษสีฟ้า Health Card ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด
  • บนเครื่องบินยังมีการแจกกระดาษกรอกใบสีเหลือง Disembarkation Card และ Customs Declaration สามารถใช้กรอกแทนการสแกน QR Code ของเว็บไซต์ Visit Japan Web ได้เช่นกัน
เที่ยวญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ หลังงเปิดประเทศ
ทางเข้าศาลเจ้าดาไซฟุ

การป้องกันโควิด

  • ที่ญี่ปุ่นยังใช้มาตรการป้องกันโควิดค่อนข้างเข้มข้น เมื่ออยู่ในอาคารหรือในระบบขนส่งสาธารณะยังต้องใส่หน้ากากอนามัย
  • สามารถถอดหน้ากากอนามัยได้เมื่ออยู่ข้างนอกอาคาร แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังใส่อยู่ดี (ยกเว้นเวลากินอาหาร)
  • ก่อนเข้าใช้บริการสถานที่ต่างๆ จะมีการวัดอุณหภูมิและให้ล้างมือด้วยสเปรย์แอลกอฮอล์ (ร้านอาหารจะเคร่งเป็นพิเศษ)
  • ตามห้องน้ำในที่สาธารณะส่วนใหญ่จะงดให้บริการเครื่องเป่ามือ จึงควรเตรียมทิชชู่หรือผ้าไว้สำหรับเช็คมือ
  • ควรดื่มน้ำเยอะๆ เนื่องจากอากาศแห้ง อาจทำให้มีอาการเจ็บคอได้ (เราติดยังหว่า…เอิ๊ก~)
  • ควรพก ATK มาจากไทย เนื่องจากที่ญี่ปุ่นมีราคาแพงกว่า (ที่ญี่ปุ่นเรียก PCR Test Kit)
Hakata Illumination
งานประดับไฟหน้าสถานี Hakata

การท่องเที่ยว

  • คนญี่ปุ่นยังคงออกมาท่องเที่ยวและใช้ชีวิตตามปกติ แม้ว่าจะมียอดผู้ติดโควิดสูงมากก็ตาม ซึ่งนักท่องเที่ยวอย่างเราก็ต้องระมัดระวังตัวเช่นกัน เพราะหากติดขึ้นมาอาจทำให้ทริปล่มได้ หากมีอาการรุนแรง (แอดมินยังรอดมาทุกซีซั่น)
  • สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ คนจะเยอะมากในช่วงวันหยุด จึงควรวางแผนการท่องเที่ยวดีๆ หากไม่อยากเจอผู้คนหนาแน่น และลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ
  • เราเลือกเข้าร้านอาหารที่โล่งๆ ไม่แออัด และเลือกเวลาที่คนซาแล้ว ส่วนตอนเย็นเน้นซื้อหาอาหารจากร้านสะดวกซื้อกลับไปทานที่โรงแรม
  • แถวแลก JR PASS และจองที่นั่งที่บนรถไฟที่เคาน์เตอร์ในสถานี Hakata นั้นแถวยาวมาก ควรเผื่อเวลาในส่วนนี้ด้วยนะคะ
HAKATA SOUVENIR SHOP
ร้านขายของฝากในสถานี Hakata

การช้อปปิ้ง

  • ร้านค้าร้านตามสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ดาไซฟุ ยุฟุอิน และในสนามบินยังมีบางส่วนที่ปิดให้บริการอยู่ แต่โดยรวมก็ไม่ได้เงียบเหงา
  • ของฝากยอดฮิตบางอย่างที่สนามบิน เช่น Tokyo Banana, Yoku Moku ขายหมดเกลี้ยงจ้า
  • หากต้องการซื้อของฝาก แนะนำว่าควรหาซื้อตั้งแต่ในเมืองโดยเลือกร้านที่เป็น Tax Free เนื่องจากสนามบินคนเยอะตั้งแต่ขั้นตอนการ Check-in และโหลดกระเป๋า การผ่านจุด Security ไปจนถึงการเข้าแถวจ่ายเงินที่ร้านค้า หากมาช้าอาจไม่มีเวลาช้อปได้

ส่งท้าย

ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม การท่องเที่ยวญีปุ่นในปี 2022 (พ.ศ. 2565) นี้แทบจะเหมือนการเดินทางมาช่วงก่อนโควิดเลย (ยกเว้นตั๋วเครื่องบินที่หลายคนบ่นว่าแพง 555) โดยเราจะได้ฟรีวีซ่า 15 วัน เพิ่มเติมคือพิธีการลงทะเบียนข้อมูลสักหน่อย ถ้าคนที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มก็สบายไป ไม่ต้องไปเสียเงินค่าตรวจโควิด และสำหรับคนที่อยากไปท่องเที่ยวแบบไม่วุ่นวาย อาจจะต้องรอไปก่อนนะคะ

บทความนี้แอดมินเขียนจากข้อมูลที่มีการประกาศไว้จากหน่วยงานต่างๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย หากในความเป็นจริงแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างใด สามารถแจ้งแอดมินตามช่องทางต่างๆ ทั้ง Facebook และ LINE ให้ปรับปรุงข้อมูลได้เลยนะคะ สวัสดีค่า

เขียนเมื่อ Jul, 1 2022
อัปเดตล่าสุด Feb 8, 2023

บทความเตรียมตัวไปญี่ปุ่น ดูทั้งหมด »

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com