สวัสดีค่ะ เรามีสถานที่ท่องเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงมาแนะนำให้เพื่อนๆ ไปตามกันอีกแล้ว สถานที่แห่งนี้มีชื่อว่า น้ำตกฮอตไต (Hottai Falls) ตั้งอยู่ในจังหวัดอาคิตะ (Akita) สวยงามอลังการสุดๆ ด้วยความสูงของน้ำตกกว่า 50 เมตร และจะสวยมากขึ้นในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เพราะว่าวิวทั้งภูเขาจะเปลี่ยนสีให้เราชม ให้เราได้ใจฟูมากๆ ต้องเรียกว่าสวยแบบตะโกน! ช่วงที่เราไปคือประมาณกลางตุลาคม บางส่วนเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว แต่ถ้าช่วงพีคจะอยู่ตอนปลายเดือนตุลาคมนะคะ

เกี่ยวกับน้ำตกฮอตไต (Hottai Falls)

สาระและเกร็ดน่ารู้

น้ำตกฮอตไต (Hottai Falls / 法体の滝) ตั้งอยู่ที่เมืองยูริฮนโจ (Yurihonjo) ในทางตอนใต้ของจังหวัดอาคิตะ (Akita) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ที่น่าไปของจังหวัดและยังเป็นน้ำตกที่ติดอันดับ 1 ใน 100 น้ำตกชั้นนำของญี่ปุ่น

น้ำในน้ำตกเกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาโชไก (Mt. Chokai) ไหลลงสู่แม่น้ำด้านล่าง น้ำตกมีทั้งหมด 3 ชั้น ความยาวกว่า 100 เมตร และมีความสูง 57.4 เมตร โดยชั้นที่ 3 มีความกว้างถึง 30 เมตร ทำให้เราเห็นความสวยงามอลังการของน้ำตกแบบเต็มๆ ตา โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงตอนประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ต้นไม้รอบน้ำตกจะมีการไล่ระดับสีเหลืองแดง ทำให้ดูงดงามยิ่งขึ้น

เวลาทำการร้านค้า

  • วันทำการ: เสาร์ – อาทิตย์ (กรกฎาคม – ตุลาคม)
  • เวลาทำการ: 10:00 – 16:00 น.

※แนะนำให้มาในช่วงที่ร้านค้าเปิดทำการ

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี

ปีวันที่เริ่มพีควันที่ร่วง
202325 ตุลาคม ~7 พฤศจิกายน ~
202223 ตุลาคม ~5 พฤศจิกายน ~
※ข้อมูลจาก weathernews.jp (อัปเดต 28 กันยายน 2023)

เทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี

ปีกำหนดการ
2023ช่วงเทศกาล: 14 – 22 ตุลาคม
วันที่จัดอีเวนท์: 15 ตุลาคม (※มีกิจกรรมและการแสดงเริ่มตั้งแต่ 10:00 น.)
2022ช่วงเทศกาล: 15 – 23 ตุลาคม

วิธีการเดินทางมาน้ำตกฮอตไต (Hottai Falls)

ขนส่งสาธารณะ

  • นั่งรถไฟ Yuri Kogen Railway สาย Chokai Sanroku Line มาลงสถานี Yashima แล้วต่อรถแท็กซี่ 40 นาที ค่าโดยสารประมาณ 8,000 เยน (แท็กซี่ 1 คัน นั่งได้ไม่เกิน 4 คน)
    ※ก่อนเดินทางควรคุยกับแท็กซี่เรื่องขากลับด้วย เนื่องจากอยู่ในป่าที่ไม่มีรถแท็กซี่ผ่าน

หมายเหตุ:

  • จากสถานี Akita ให้นั่งรถไฟ JR Limited Express INAHO หรือ JR Uetsu Main Line มาลงที่สถานี Ugo-Honjo แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Chokai Sanroku Line มาลงที่สถานี Yashima ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 2 – 2 ชั่วโมงครึ่ง (※ขึ้นอยู่กับขบวน)
  • สามารถใช้ JR EAST PASS (TOHOKU area) และ JR PASS (All Area) นั่งรถไฟได้ฟรีระหว่างสถานี Akita – Ugo-Honjo

รถยนต์ส่วนตัว

  • ขึ้นทางด่วน Nihonkai-Tohoku ลงที่ด่านทางออก “Honjo” แล้วขับรถต่อไปอีก 60 นาที
    ※แนะนำให้ขึ้นทางด่วน
แนะนำพาสเที่ยวโทโฮคุ
Klook.com

รีวิวเที่ยวน้ำตกฮอตไต (Hottai Falls)

จุดถ่ายรูปเช็คอินสวยๆ ของน้ำตก มาสะบัดกระโปรงตรงนี้จะอลังมาก

เป็นครั้งแรกที่แอดมินได้มาเยือนจังหวัดอากิตะ มีหลายๆ อย่างให้เราแปลกใจและเปิดประสบการณ์กันอีกแล้วค่ะ การเที่ยวน้ำตกฮอตไตเป็นการเดินทางมาเที่ยวที่ค่อนข้างทุ่มเท (มากกก) เพราะต้องขับรถเข้าป่าเข้าดงในบางช่วง และในบางจุดก็ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วย ฉะนั้นเพื่อนๆ ที่ตั้งใจมาเที่ยวควรต้องเตรียมตัวเพื่อการเดินทางพอสมควรค่ะ เช่น ที่อยู่และเบอร์โทรภาษาญี่ปุ่น สำหรับใช้ GPS ในรถ หรือโหลดแผนที่จาก Google Map แบบ Offline เตรียมเอาไว้ค่ะ

รถเช่ารายวันในญี่ปุ่น

ส่วนตัวเราไปกัน 2-3 คน เช่ารถขับแบบน่ารักๆ วันละประมาณ 1,500 – 2,000 บาท/คัน อย่าลืมเช่าแบบมี ETC (เครื่องเก็บเงินเหมือน Easy Pass) จะสะดวกเวลาขึ้นทางด่วนค่ะ โดยทั่วไปราคาทางด่วนแพงกว่าบ้านเรา ประมาณ 600 – 900 บาทแต่หากนับเป็นระยะทางถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ ระหว่างทางยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่หาได้ยากอีกด้วย เพราะทางด่วนมักจะสร้างแบบลอยฟ้าและเป็นการเจาะอุโมงค์ลอดเขาค่ะ

วิวระหว่างทางไปน้ำตก

แอดมินออกเดินทางจากเมืองอาคิตะจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าจะมาถึงน้ำตก ถือว่าเป็นการขับรถที่นานที่สุดในการไปเที่ยว 1 จุด แต่ความสนุกในการขับรถเที่ยวคือ การชมธรรมชาติ 2 ข้างทาง ขับผ่านที่นาบ้าง สวนลูกพลับบ้าง เพราะไปตาม Google Map เจอแค่ะไรแปลกๆ ฮ่าๆ แนะนำให้หาที่เที่ยวต่างๆ ตามเส้นทางที่ผ่านไว้ก็ดีนะคะ และจากการเถลไถลของพวกเรา กว่าจะมาถึงน้ำตกก็เกือบเที่ยงแล้วค่ะ

ลานตั้งแคมป์ Hotaienchi Campsite ใกล้ๆ น้ำตก

ไปถึงลานจอดรถแล้วไม่มีรถเลย น้ำตาจะไหล เพราะว่าดันมาวันที่ร้านค้าไม่เปิดให้บริการ จึงแนะนำให้มาช่วงเสาร์ – อาทิตย์ และช่วงที่มีการจัดงานเทศกาลจะดีกว่าค่ะ จะได้ไม่เหงา สามารถดูอีเวนท์หรือตารางวันทำการร้านค้าได้จากข้อมูลด้านบนค่ะ วันที่แอดมินไปไม่มีคนก็จริง แต่ว่าอากาศดีมากค่ะ ใครชอบเที่ยวแบบชิลๆ แนะนำให้ห่ออาหารกลางวันมารับประทานด้วยนะคะ หรือตั้งแคมป์ปิกนิกเบาๆ จะมีความสุขสุดๆ ไปเลย แอดมินเจอคู่รักคู่หนึ่งมาเดตกันด้วย ได้แต่คิดในใจ เข้าใจหาที่เที่ยวนะ ไกลขนาดนี้ ฮ่าๆ

แนวกั้นแม่น้ำ

จากลานจอดรถ เดินผ่านลานตั้งแคมป์ Hotaienchi Campsite และแนวกั้นแม่น้ำที่ไหลจากน้ำตกด้านบนมารวมกันเป็นแม่น้ำ คือใสมากๆ และเย็นมากด้วย (แน่ละ เพราะเป็นน้ำจากหิมะที่ละลายบนเขา) แม้จะอยู่ในป่าไกลขนาดนี้ แต่มีการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี

บริเวณพื้นหินติดกับแนวกั้นน้ำ

เดินมาเรื่อยๆ เลยส่วนแนวกั้นแม่น้ำไปแล้วจะเป็นพื้นหินขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกันไป ตอนแรกคิดว่าเขาปล่อยไว้เป็นโซนธรรมชาติ จริงๆุ คือข้างใต้หินมีน้ำซึมอยู่ค่ะ นั่นหมายความว่าช่วงน้ำหลากตรงที่เรายืนน่าจะเป็นแม่น้ำทั้งหมด ตอนที่ไปถึงแรกๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนแคระไปเลย เพราะว่าทุกอย่างดูใหญ่ไปหมด แม้แต่ก้อนหินที่เล็กก็ประมาณลูกฟุตบอล ส่วนหินลูกใหญ่ก็ใหญ่อย่างกับไข่ไดโนเสาร์ จากตรงนี้ต้องเดินเข้าไปอีกถึงจะเห็นน้ำตกใกล้ๆ ค่ะ วิวทิวทัศน์ตรงนี้คาดว่าห่างประมาณ 50 – 100 เมตร

มองไปไกลๆ น่าเล่นน้ำมาก แต่ว่าอันตรายมากนะคะ น้ำตกแห่งนี้แรงและลึกมากด้วย แรงขนาดที่ว่าน้ำที่ตกลงมาสามาระเฉาะชั้นหินเป็นรูๆ ได้เลย และหินกลมๆ เกลี้ยงๆ ด้านล่างที่เห็นนั่นก็เป็นเพราะกระแสน้ำที่พัดไปมา บางจุดมีการม้วนตัวเข้าร่องหิน ทำให้หินที่น้ำตกแห่งนี้มีความหลากหลายและน่าศึกษาค้นคว้าในด้านธรรมชาติวิทยาอีกด้วยค่ะ

สะพานข้ามแม่น้ำสำหรับขึ้นไปยังจุดชมวิวของน้ำตก

ด้านข้างน้ำตกเป็นสะพานสีแดงข้ามแม่น้ำ อีกฝั่งของสะพานนี้เป็นเส้นทางเดินขึ้นเขาเพื่อชมวิวน้ำตกจากมุมสูงค่ะ เราสามารถเดินขึ้นเองได้ ถ้าเดินเล่นในป่าแถวๆ นี้ในช่วงฤดูใบ้ไม้เปลี่ยนสี จะสวยมากเป็นพิเศษเลยค่ะ ด้านบนมีการทำทางเดินเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แต่สาวๆ ที่ใส่ส้นสูงก็เปลี่ยนรองเท้าก่อนจะดีมากค่ะ แต่ใครสามารถจิกเท้าเดินขึ้นเขาได้ก็ไม่ว่ากัน

เส้นทางเดินป่าระหว่างทางขึ้นจุดชมวิวน้ำตก

ทางเดินขึ้นเขาก็เป็นบันไดหินค่ะ ไม่ชันมาก เดินเรื่อยๆ แต่เหนื่อยมากนะคะ นั่งพักก็ได้ พกน้ำไปด้วยสักขวดเอาไว้จิบระหว่างทาง เส้นทางก็อ้อมพอสมควร ใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที (ถ้าค่อยๆ ไป) อากาศสบายๆ ค่ะ อย่างไรก็ตามหากพกขวดน้ำไปต้องนำกลับลงมาด้วยนะคะ เพราะด้านบนไม่มีที่ทิ้งขยะ

บรรยากาศจากจุดชมวิวน้ำตกฮอตไต

นั่งพักบ้างเดินบ้าง หอบแฮกๆ ก็จะเจอจุดชมวิวน้ำตกสวยๆ ค่ะ แบบสวยจริงๆ เราจะขึ้นมาอยู่ความสูงเหนือระดับน้ำตก มองไปจะเห็นน้ำตกชั้นบนๆ ด้วย มองจากตรงนี้ จะเห็นน้ำใสมาก สีออกน้ำเงินเข้มเขียวๆ นิดหน่อย ทำให้นึกถึงสีน้ำทะเลเลยค่ะ และจากจุดนี้ไปสามารถเดินไปโซนใกล้ๆ น้ำตกชั้นบนได้อีกค่ะ แต่ไม่อลังการเท่าจุดนี้ อย่างไรก็ตาม จะเดินไปจุดไหนก็ดูแลตัวเองให้ดีนะคะ เนื่องจากเป็นสถานที่เที่ยวตามธรรมชาติ อาจจะเกิดอันตรายที่เราคาดไม่ถึง ที่นั่นไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเวลาค่ะ

ส่งท้าย

การเที่ยวน้ำตกฮอตไต (Hottai Falls) ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบธรมชาติที่มีความห่างไกลจากตัวเมือง จึงควรเตรียมตัวและเตรียมพร้อมเรื่องการเดินทางมาให้ดี ตอนที่แอดมินไปตอนนั้นคือหลังพายุสงบค่ะ ถนนบางสายขาดออกจากกันด้วย การศึกษาเส้นทางจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่า

เทียบราคาโรงแรมที่พักในอาคิตะ


รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com