JR EAST PASS (Tohoku area) พาสเที่ยวโตเกียว – โทโฮคุ สุดคุ้มใน 5 วัน

32881
JR EAST PASS (Tohoku area)

วันนี้เราจะมาแนะนำพาส JR EAST PASS (Tohoku area) สำหรับการท่องเที่ยวด้านฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นอย่าง โตเกียว (Tokyo) รวมทั้งเมืองรอบๆ และภูมิภาคโทโฮคุ (Tokyo) นะคะ ก่อนที่เราจะรีวิวสรรพคุณของพาสสุดคุ้มนี้ แอดมินขออนุญาตแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลของพาสก่อน เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้รู้ว่าพาสนี้ครอบคลุมถึงตรงไหนบ้างเนอะ

เกี่ยวกับ JR EAST PASS (Tohoku area)

JR EAST PASS (Tohoku area) แบบเดิม

JR EAST PASS (Tohoku area) คืออะไร?

JR EAST PASS (Tohoku area) เป็นหนึ่งในบัตรรถไฟเหมาจ่ายของบริษัท JR EAST สำหรับชาวต่างชาติที่ถือวีซ่านักท่องเที่ยว รวมทั้งชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยครอบคลุมการใช้งานตั้งแต่โตเกียว (Tokyo) รวมถึงการเดินทางระหว่างสนามบินนาริตะ (Narita Airport) และสนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) ตลอดจนจังหวัดต่างๆ ในภูมิภาคคันโต (Kanto) รวมทั้งพื้นที่บางส่วนในจังหวัดรอบๆ ขึ้นไปจนถึงทั่วทั้งภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)

ราคา JR EAST PASS (Tohoku area)

ประเภทราคา
ผู้ใหญ่ (อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป)20,000 เยน
เด็ก (อายุ 6 – 11 ปี)10,000 เยน

หมายเหตุ: แต่ก่อนมีราคาสำหรับซื้อจากต่างประเทศจะถูกกว่ามาซื้อในประเทศญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันนั้นขายราคาเท่ากันแล้วค่ะ (*ราคาเป็นเงินบาทขึ้นอยู่เรทค่าเงินของวันที่ซื้อ)

Klook.com

ข้อมูลเบื้องต้นในการใช้พาส

  • สามารถใช้พาส JR EAST PASS (Tohoku area) ในเส้นทางของรถไฟ JR EAST ทั้งรถไฟขบวนธรรมดา รถด่วนและชินคันเซ็น รวมทั้งรถไฟของบริษัทเอกชนบางบริษัท เช่น Tobu Railway โดยพื้นที่ที่สามารถใช้พาส ได้แก่
    • ภูมิภาคคันโต (Kanto) ได้แก่ โตเกียว (Tokyo), จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa), ชิบะ (Chiba), ไซตามะ (Saitama), กุนมะ (Gunma), โทชิงิ (Tochigi), อิบารากิ (Ibaraki)
    • ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ได้แก่ จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima), มิยางิ (Miyagi), ยามากาตะ (Yamagata), อากิตะ (Akita), อิวาเตะ (Iwate), อาโอโมริ (Aomori)
    • พื้นที่บางส่วนของภูมิภาคชูบุ (Chubu) ได้แก่ จังหวัดนีงาตะ (Niigata), ยามานาชิ (Yamanashi), นากาโน่ (Nagano), ชิสึโอกะ (Shizuoka)
      *รายละเอียดของเส้นทางจะอธิบายอย่างละเอียดในหัวข้อต่อไป
  • พาสครอบคลุมการใช้งานจำนวน 5 วันติดกัน
    *ปัจจุบันต้องใช้แบบติดกัน 5 วัน (พาสเก่าสามารถใช้ได้ 5 วันไม่ติดกันได้)
  • หากซื้อทางออนไลน์จะได้เป็น Exchange Order หรือ E-ticket (แล้วแต่วิธีการซื้อพาส) สามารถมารับพาสได้ที่ JR EAST Travel Service Center ตามสถานีรถไฟหลักๆ ของ JR EAST โดยใช้พาสปอร์ตตัวจริง (หลังซื้อแล้วต้องนำไปแลกใน 90 วัน)
  • รถไฟบางขบวนจำเป็นต้องจองที่นั่งก่อนขึ้น เราสามารถใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) จองที่นั่งโดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มและไม่จำกัดจำนวนครั้งกับเจ้าหน้าที่ตรง JR Ticket Office (Midori-no-madoguchi) หรือ Travel Service Center (View Plaza) ที่อยู่ในสถานีของ JR EAST (เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการจอง ควรเตรียมข้อมูลให้พร้อม ได้แก่ สถานีต้นทาง+เวลาออกเดินทาง, สถานีปลายทาง+เวลาที่เดินทางถึง, ชื่อขบวนรถไฟ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองจากเว็บไซต์ ต่างๆ เช่น Google Map, japantravel.navitime.com
  • สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าในรถไฟชินคันเซ็น รถด่วนพิเศษ (Limited Express) และรถไฟท่องเที่ยว (Joyful Trains) ของ JR EAST บางขบวนผ่านทางออนไลน์ด้วยตัวเองได้ที่ » JR-EAST Train Reservation (*กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขให้ดีก่อนจอง)

ตัวอย่างตั๋วระบุที่นั่งของ Shinkansen และ JR EAST PASS (Tohoku area)

เส้นทางที่สามารถใช้ JR EAST PASS (Tohoku area)

ตอนนี้เราพอจะรู้เกี่ยวกับ JR EAST PASS (Tohoku area) กันคร่าวๆ แล้ว แต่ว่ามีคำถามว่าพาสตัวนี้ใช้กับรถไฟแบบไหนบ้าง? แล้วจะครอบคลุมถึงสถานที่ที่เราตั้งใจจะไปเที่ยวรึเปล่านะ แอดมินขอรวบรวมรายละเอียด (ก็มากอยู่) มาให้ไว้ ณ ที่นี้นะคะ ใครอยากไปจุดไหน หรืออยากใช้รถไฟแบบไหนก็สามารถหาได้จากตรงนี้เลยค่ะ

เส้นทางและรถไฟที่สามารถใช้พาสได้

  1. รถไฟสาย JR EAST Line:
    • รถไฟ Local (ขบวนธรรมดา) และ Express (รถด่วน)
    • รถไฟ Limited Express (ด่วนพิเศษ)
      *รถไฟด่วนสาย Narita Express สำหรับเดินทางระหว่างสนามบินนาริตะ ต้องไปจองที่นั่งก่อน เนื่องจากเป็นขบวนแบบระบุที่นั่งทั้งหมด)
    • รถไฟ Shinkansen (รถไฟความเร็วสูง) 
      • Tohoku Shinkansen (Tokyo ↔ Shin-Aomori)
      • Akita Shinkansen (Tokyo ↔ Akita)
      • Yamagata Shinkansen (Tokyo ↔ Yamagata ↔ Shinjo)
      • Hokuriku Shinkansen (Tokyo ↔ Karuizawa ↔ Sakuraida)
      • Joetsu shinkansen (Tokyo ↔ Echigo-Yuzawa) ช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิวิ่งยาวถึงสถานี GALA Yuzawa
    •  BRT (Bus rapid transit) ในแถบชายฝั่งซันริคุ (Sanriku Coast) ซึ่งเป็นพื้นที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)
  2. รถไฟสาย Izu Kyuko Line:
    วิ่งระหว่างสถานี Ito และ สถานี Izu-Shimoda ที่คาบสมุทรอิซุ (Izu Peninsula) ในจังหวัดชิสึโอกะ (Shizuoka)
  3. รถไฟ Aomori Railway:
    วิ่งระหว่างสถานี Metoki และ สถานี Aomori ในจังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
  4. รถไฟ Iwate Galaxy Railway (IGR):
    วิ่งระหว่างสถานี Morioka ในจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) และ สถานี Metoki ในจังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
  5. รถไฟ Tokyo Monorail:
    วิ่งระหว่าง Haneda Airport และ สถานี Hamamatsucho ในโตเกียว
  6. รถไฟ Sendai Airport Transit:
    วิ่งระหว่าง Sendai Airport และ สถานี JR Sendai
  7. รถไฟ Limited Express ที่วิ่งระหว่างสาย JR East และ Tobu Railway:
    รถไฟที่สามารถใช้ได้ คือ Nikko, SPACIA Nikko, Kinugawa, และ SPACIA Kinugawa ซึ่งสามารถขึ้นได้ที่สถานี JR Shinjuku และ Ikebukuro ในโตเกียว (สรุปง่ายๆ คือ คนที่จะไปเที่ยว Nikko และ Kunugawa Onsen ในจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) สามารถนั่งได้ฟรีจากโตเกียวนั่นเองค่ะ)
  8. รถไฟ Local และ Rapid ของ Tobu Railway ที่วิ่งระหว่างสถานี Shimo-imaichi และ Tobu-nikko หรือ Kinugawa-onsen:
    สำหรับเส้นทางระหว่างสถานี Kurihashi และ Shimo-imaichi สามารถใช้พาสนี้โดยนั่งรถไฟ Limited Express ที่วิ่งเชื่อมต่อกับสาย Tobu Railway โดยตรงเท่านั้น โดยจะต้องเข้าและออกทางสถานีที่เป็นของ JR)
  9. JR Bus:
    ใช้ได้กับรถบัสที่ให้บริการในพื้นที่ (ยกเว้น Highway Bus และรถประจำทางบางสาย) [ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่]

ข้อควรระวังในการใช้พาส

  1. ไม่สามารถใช้กับ Tokaido Shinkansen ที่ไปยังสถานี Shin-Yokohama, Odawara ในจังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) และ สถานี Atami ในจังหวัดชิสึโอกะ (Shizuoka) ได้ เนื่องจากเป็นสายที่ให้บริการโดยบริษัท JR CENTRAL
  2. หากจะเดินทางไปชมฟูจิที่สถานี Kawaguchiko ในจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) จะสามารถใช้นั่งรถไฟได้ฟรีในเส้นทางระหว่างสถานี Shinjuku ในโตเกียว และ สถานี Otsuki ในจังหวัดยามานาชิ จากนั้นต้องเปลี่ยนเป็นสาย Fujikyu Railway ซึ่งวิ่งระหว่างสถานี Otsuki – Kawaguchiko โดยจะต้องเสียค่าโดยสารเพิ่มเติมในส่วนนี้ (หากเป็นขบวนพิเศษที่วิ่งตรงระหว่าง Narita Airport – Shinjuku – Kawaguchiko จะต้องเสียค่าโดยสารเพิ่มเติมในส่วนของ Fujikyu Railway เช่นกัน)
  3. ใช้จองที่นั่งได้ฟรีกับตู้ปกติ (Ordinary Car) เท่านั้น ส่วน Green Car, GranClass, Liners หรือตู้นอน Sleeper Car จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ในส่วนของ Limited Express หรือ Sleeper Ticket กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สถานีเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

การซื้อและแลกพาส JR EAST PASS (Tohoku area)

เมื่อเราศึกษาและพิจารณาข้อมูลพาสกันเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงวิธีการซื้อค่ะ ซึ่งก็มีอยู่ 3 วิธีหลักๆ ได้แก่ การซื้อล่วงหน้าและการซื้อในประเทศญี่ปุ่นค่ะ ทั้ง 2 วิธีนี้ก็มีความแตกต่างกันที่ความสะดวกค่ะ

ประเภทราคา
ผู้ใหญ่ (อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป)20,000 เยน
เด็ก (อายุ 6 – 11 ปี)10,000 เยน

› ซื้อล่วงหน้า

  1. สั่งซื้อกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย (นำพาสปอร์ตไปด้วย) เมื่อชำระเงินแล้ว เราจะได้รับ Exchange Order (บางที่อาจได้เป็น e-ticket ทางอีเมล) เพื่อนำไปแลกเป็นพาสของจริงที่ประเทศญี่ปุ่น (*ราคาเป็นเงินบาทขึ้นอยู่เรทค่าเงินของวันที่ซื้อ)
  2. สั่งซื้อทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ JR-EAST Train Reservation หรือเว็บไซต์เอเจนซี่ เช่น Klook.com [เช็คราคาและสั่งซื้อพาสที่นี่] (ต้องกรอกชื่อและเลขพาสปอร์ต) เมื่อชำระเงินแล้วเราจะได้รับ Exchange Order เป็นแบบ e-ticket ทางอีเมล เพื่อนำไปแลกพาสของจริงที่ประเทศญี่ปุ่น

› ซื้อในประเทศญี่ปุ่น

  1. ซื้อที่ JR EAST Travel Service Center ที่สนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ และตามสถานีรถไฟของ JR EAST เช่น Tokyo, Ueno, Shinjuku, Sendai เป็นต้น
  2. ซื้อที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ (ต้องเป็นตู้ที่มีที่แสกนพาสปอร์ต) ในสถานี แล้วเลือก “Discounted Tickets” [ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่]

หมายเหตุ:

  • สามารถดูสถานที่จำหน่ายและแลกพาส » ที่นี่
  • ต้องยื่นพาสปอร์ตตัวจริงในตอนแลกหรือซื้อพาส ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบชื่อและเลขพาสปอร์ต
  • ในกรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีไม่ต้องซื้อพาส แต่เจ้าหน้าที่อาจมีการขอดูพาสปอร์ตเพื่อตรวจสอบอายุเด็ก (หากต้องการจองที่นั่งบนรถไฟให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
  • ผู้ที่ถือพาสปอร์ตประเทศญี่ปุ่น จะไม่สามารถซื้อ JR EAST PASS (Tohoku area) ได้
  • สามารถใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) ในช่วงเวลาเดียวกันได้คนละ 1 ใบเท่านั้น และจะไม่สามารถซื้อเพิ่มเติมหรือแลกพาสได้ในขณะที่ยังอยู่ในช่วงระยะเวลาใช้งาน 14 วันของพาสที่ใช้อยู่ ต้องรอให้หมดช่วงระยะใช้งานจึงจะสามารถซื้อพาสแบบเดิมเพิ่มได้

ข้อควรรู้ก่อนซื้อพาส

แน่นอนว่าก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อพาสก็ต้องรู้เกี่ยวกับหลายๆ ส่วนก่อน ในที่นี้แอดมินจึงอยากลิสเอาไว้ให้เพื่อนๆ เลยค่ะ ว่าก่อนที่เราจะซื้อพาสนี้นอกจากพื้นในการใช้งานแล้ว ควรจะต้องหาข้อมูลอะไรอีกค่ะ เพราะถ้าซื้อไปแล้วเอาไปใช้ไม่ได้ ก็อาจจะเสียเงินฟรี หรืออาจจะต้องเปลี่ยนแผนท่องเที่ยวกันให้วุ่นวายเลยค่ะ

  • เมืองที่อยากไป เพื่อที่เราจะได้จัดตารางการท่องเทียวได้คร่าวๆ เช่น (แนะนำให้เปิดแผนที่ควบคู่ไปด้วยตอนที่วางแผน) ยกตัวอย่างเช่น
    • วันที่ 1 : Nikko
    • วันที 2 : Gala Yuzawa
    • วันที่ 3 : Fukushima
    • วันที่ 4 : Akita
    • วันที่ 5 : Aomori
  • สถานีรถไฟต้นทางและปลายทาง เพื่อตรวจสอบว่าเราจะใช้พาสอย่างไร (แนะนำให้ดูจากเว็บไซต์ japantravel.navitime.com) ยกตัวอย่างเช่น
    • ใช้รถไฟอะไร (⇒ พาสครอบคลุมหรือไม่)
    • ใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในการเดินทาง (⇒ คุ้มค่ากับการใช้พาสหรือไม่)

พาสที่มีขายทั้งหมดของ JR EAST

Klook.com

การจองที่นั่งบนรถไฟด้วยพาส JR EAST PASS (Tohoku area)

โดยปกติแล้วรถไฟ Limited Express กับ Shinkansen จะมีที่นั่งแบบจอง (Reserved Seat) และไม่จอง (Non-reserved Seat) บางขบวนอย่าง Narita Express (N’EX) ที่วิ่งระหว่าสนามบินนาริตะจะเป็นแบบจองที่นั่งทั้งหมด จึงควรจองให้เรียบร้อยก่อนใช้บริการนะคะ เราสามารถจองได้ล่วงหน้าก่อนวันเดินทางนะคะ (แนะนำให้รีบจองเพราะบางทีที่อาจเต็ม หรือไม่ก็ต้องนั่งแยกกันไปค่ะ) โดยเราสามารถจองที่นั่งได้ตามช่องทางดังนี้

  1. ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ (*เริ่ม 1 เมษายน 2021) ภายในสถานีหลักๆ ของ JR EAST [ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่]
  2. เคาน์เตอร์ JR EAST Travel Service Center หรือ JR Ticket Office (Midori-no-Madoguchi) ภายในสถานีของ JR EAST
  3. ระบบออนไลน์ JR-EAST Train Reservation (*เริ่ม 27 มิถุนายน 2022) [ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่]

หมายเหตุ:

  • สามารถจองล่วงหน้าได้ 1 เดือนก่อนวันเดินทาง
  • สามารถจองได้ตามสถานต่างๆ ของ JR EAST (ไม่จำเป็นว่าจะต้องจองที่สถานีต้นทาง)
  • ควรวางแผนการเดินทางให้เรียบร้อยก่อน เพื่อให้ทราบข้อมูลของรถไฟขบวนที่จะจอง

รีวิวการใช้ JR EAST PASS (Tohoku area)

แอดมินซื้อพาสผ่านตัวแทนจำหน่ายในไทยค่ะ และได้รับเป็น e-ticket มาเพื่อนำไปแลกพาสจริงที่ญี่ปุ่น หน้าตาก็จะประมาณนี้ โดยจะได้รับเป็นไฟล์ PDF มาทางอีเมลค่ะ ให้เราปริ้นท์เพื่อไปแสดงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ค่ะ

ตัวอย่าง e-ticket

การแลกพาสที่ญี่ปุ่น

สามารถพาสจริงได้ที่ JR EAST Travel Service Center ที่อยู่ในสนามบิน และสถานีต่างๆ ของ JR [ดูรายชื่อและเวลาทำการที่นี่] แอดมินตั้งใจจะใช้บริการขบวน Narita Express (N’EX) เพื่อเดินทางเข้าโตเกียวอยู่แล้ว จึงแลกพาสที่สนามบินนาริตะค่ะ (ถ้าเจอคิวยาวและยังไม่ได้ใช้พาสเลย แนะนำให้ไปแลกตามสถานีในเมืองจะเร็วกว่าค่ะ)

สำหรับเอกสารที่ใช้ในแลกพาสที่ญี่ปุ่นนั้น เราจะใช้เพียง 2 อย่าง ประกอบด้วย

  1. เอกสารยืนยันการจอง อาจจะเป็นใบ Exchange Order หรือ e-ticket แล้วแต่วิธีการซื้อพาส
  2. พาสปอร์ตตัวจริงของทุกคนที่ซื้อพาส

ตัวอย่าง JR EAST PASS (Tohoku area) แบบเดิม

หมายเหตุ:

  • ตั๋วแบบเดิมเป็นแผ่นกระดาษขนาดใหญ่ ตอนแลกพาสเจ้าหน้าที่จะให้เราเขียนชื่อ สัญชาติ และเลขพาสปอร์ตที่พาส ส่วนตอนที่เราใช้พาสเข้าสถานีก็ให้โชว์ด้านนี้กับเจ้าหน้าที่ ถ้าเราเข้าสถานีครั้งแรกก็จะมีการปั้มวันที่บนพาสให้ค่ะ
  • ปัจจุบันได้มีการปรับรูปแบบพาสให้เป็นตั๋วขนาดเล็กที่สามารถสอดกับเครื่องตอนเข้าสถานีได้เลย โดยไม่ต้องโชว์พาสตัวจริงกับเจ้าหน้าที่ จึงควรเก็บรักษาพาสให้ดีหลังใช้งานและระวังหายด้วยนะคะ

การจองที่นั่งที่เคาน์เตอร์

แอดมินใช้พาสไปจองที่นั่กับรถไฟขบวน Narita Express (N’EX) กับเจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์ JR EAST Travel Service Center โดยเราต้องเตรียมข้อมูลที่ใช้ในการจองที่นั่งดังนี้

  • วันที่
  • สถานีต้นทาง + เวลาออกเดินทาง
  • สถานีปลายทาง + เวลาที่เดินทางถึง
  • ชื่อขบวนรถ

ข้อมูลต่างๆ สามารถเช็คได้จากเว็บเช็คเส้นทางรถไฟเลยค่ะ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้นอกจากจะใช้ในการจองแล้ว เรายังเอาไว้เช็คเวลาที่เจ้าหน้าที่ออกตั๋วให้ เพื่อดูว่าตรงกับขบวนที่เราต้องการขึ้นหรือไม่ บางทีอาจเลือกรอบรถให้เป็นเวลาอื่น เป็นต้น

หมายเหตุ: ปัจจุบันเว็บ Hyperdia.com ได้เลิกให้บริการไปแล้ว สามารถเช็คข้อมูลได้ที่ Google Map, japantravel.navitime.com เป็นต้น


ตัวอย่างตั๋วระบุที่นั่ง Narita Express

เมื่อจองที่นั่งแล้วก็จะมีการปั้มตราที่พาสและลงวันที่ที่เราจะใช้เดินทางไว้ค่ะ เพื่อให้รู้ว่าเราออกตั๋วไปวันไหนแล้วบ้าง อยู่ในระยะการใช้พาสหรือไม่ค่ะ แล้วเราจะได้รับตั๋วระบุที่นั่งมาเป็นใบเสีเขียวอ่อนๆ ค่ะ ถ้าหากไม่ได้จองที่นั่ง เราสามารถขึ้นไปนั่งที่ตู้ Non-reserved ได้ค่ะ แต่ว่ารถไฟบางขบวนอย่าง Narita Express หรือ Shinkansen Hayabusa นั้นจะมีแต่ที่นั่งแบบที่ต้องจองเท่านั้น ซึ่งเราต้องไปจองให้เรียบร้อยก่อนขึ้นนะคะ

รถไฟชินคันเซ็น

เมื่อมีตั๋วระบุที่นั่งเรียบร้อยก็ให้ไปยืนรอตรงทางขึ้นที่ตรงกับตำแหน่งของตู้รถไฟ (Car) ที่นั่งของเรา เมื่อรถไฟมาจอดเรียบร้อยก็ขึ้นไปนั่งตามหมายเลขที่นั่ง (Seat) ได้อย่างสบายใจ

หมายเหตุ: หากจองที่นั่งมาแล้วและต้องการจะเปลี่ยนรอบรถไฟ

  • ให้เอาตั๋วไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ JR Ticket Office หรือ Travel Service Center เพื่อให้ยกเลิกตั๋วเดิมและออกตั๋วให้ใหม่ได้ค่ะ
  • หากจองทางออนไลน์ สามารถเข้าไปยกเลิกผ่านทางเว็บไซต์ได้เช่นกันค่ะ

ตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวในเส้นทาง

Hitachi Seaside Park
(จังหวัดอิบารากิ)

  • วิธีการเดินทาง:
    • นั่งรถไฟ Limited Express Hitachi หรือ Tokiwa มาลงที่สถานี Katsuta แล้วต่อรถบัสมาลงที่ป้าย Kaihin Koen Nishiguchi
    • นั่งรถไฟสาย JR Joban Line มาลงที่สถานี Katsuta แล้วต่อรถบัสมายังสวนมาลงที่ป้าย Kaihin Koen Nishiguchi
สวนอาชิคางะ

Ashikaga Flower Park
(จังหวัดโทชิงิ)

  • วิธีการเดินทาง:
    • นั่งรถไฟ JR หรือชินคันเซ็นมาลงที่สถานี Oyama (Tochigi) แล้วไฟสาย Ryomo Line มาลงที่สถานี Ashikaga Flower Park
Shinkyo Bridge

Shinkyo Bridge
(นิกโก จังหวัดโทชิงิ)

  • วิธีการเดินทาง:
    • นั่งรถไฟสาย JR Nikko Line มาลงที่สถานี Nikko แล้วต่อรถบัสมาลงที่ป้าย Shinkyo
    • นั่งรถไฟ Limited Express Nikko, SPACIA Nikko มาลงที่สถานี Tobu-Nikko แล้วต่อรถบัสมาลงที่ป้าย Shinkyo
Zao Fox Village

Zao Fox Village
(จังหวัดมิยางิ)

  • วิธีการเดินทาง:
    • นั่งรถไฟ Tohoku Shinkansen มาลงที่สถานี Shiroishizao แล้วต่อรถแท็กซี่
Yamadera Temple

Yamadera Temple
(จังหวัดยามากาตะ)

  • วิธีการเดินทาง:
    • นั่งรถไฟสาย JR Senzan Line มาลงที่สถานี Yamadera แล้วเดินเท้าต่อ
หมู่บ้านโออุจิ จูคุ (Ouchi-Juku / 大内宿)

Ouchi-Juku
(จังหวัดฟุคุชิมะ)

  • วิธีการเดินทาง:
    • นั่งรถไฟสาย JR BAN-ETSU-WEST LINE มาลงสถานี Aizu-Wakamatsu จากนั้นเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย Aizu Railway Line ลงที่สถานี Yunokami Onsen แล้วต่อรถแท็กซี่
      (*JR EAST Pass ใช้เดินทางได้ฟรีถึงสถานี Aizu-Wakamatsu)

Kakunodate Samurai Village
(จังหวัดอาคิตะ)

  • วิธีการเดินทาง:
    • นั่งรถไฟ Akita Shinkansen มาลงที่สถานี Kakunodate แล้วเดินเท้าต่อ
    • นั่งรถไฟ JR Tazawako Line มาลงที่สถานี Kakunodate แล้วเดินเท้าต่อ
Hirosaki Castle

Hirosaki Castle
(จังหวัดอาโอโมริ)

  • วิธีการเดินทาง:
    • นั่งรถไฟ JR Ou Line มาลงที่สถานี Hirosaki แล้วต่อรถบัส Konan Bus หรือ Dotemachi Loop Bus มาลงที่ป้าย Shiyakusho-mae

สรุป

ถ้าจะถามว่า JR EAST PASS (Tohoku area) นี้คุ้มมั้ย? ขอบอกว่าคุ้มแน่นอน!!! พาสราคาเพียง 20,000 เยน แค่นั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวไปอาโอโมริ เที่ยวเดียวก็ 17,000 กว่าเยน ไปกลับก็ 34,000 กว่าเยน เกินค่าพาสแล้วจ้า! ถ้าวางแพลนเที่ยวดีๆ ใน 5 วัน เราจะประหยัดค่ารถไฟไปได้หลายเท่าจากค่าพาสเลยค่ะ แถมพาสนี้ยังไม่ต้องใช้ติดต่อกันทุกวันด้วยแบบ JR PASS (All area) ด้วย ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนแพลนเที่ยวได้ตามสภาพอากาศเลยนะคะ

บทความนี้อาจจะยาวไปสักหน่อย แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่กำลังวางแผนเที่ยวนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า

เขียนเมื่อ May 11, 2018
อัปเดตล่าสุด Sep 25, 2022

บทความเที่ยวญี่ปุ่นแนะนำ

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com