หลังจากที่เราเที่ยวในตัวเมืองคานาซาว่า (Kanazawa) ซึ่งเป็นเมืองหลักของจังหวัดอิชิคาว่า (Ishikawa) ไปแล้ว วันนี้เราขอพาเพื่อนๆ มาพักผ่อนกับสายน้ำและท้องทะเลกันบ้างนะคะ แต่อย่าพึ่งกังวลไปค่ะว่าเราจะพาไปลงทะเลให้ตัวดำเมี่ยมนะคะ เพราะเราจะพาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ “Notojima Aquarium” ที่อยู่บนเกาะ Noto Island ซึ่งอยู่ด้านบนของจังหวัดอิชิคาว่ากันค่า
เกี่ยวกับ Notojima Aquarium
Notojima Aquarium เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ตั้งอยู่บนเกาะโนโตะ (Noto Island) ของจังหวัดอิชิคาว่า (Ishikawa) ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่วงรวมสัตว์ที่อาศัยอยู่ในคาบสมุทร Noto Peninsula มากกว่า 500 ชนิด รวมกว่า 40,000 ตัว
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีความโดดเด่นในด้านการจัดกิจกรรมร่วมกับสัตว์นานาชนิด อาทิ การให้อาหารสิงโตทะเลและการแสดงโชว์ร่วมกันกับครูฝึก การแสดงแสงสีเสียงในการให้อาหารฝูงปลา การแสดงกลางแจ้งของโลมา และกิจกรรมสุดพิเศษกับการสัมผัสเหล่าเพนกวินตัวจริงได้ในทะเล รวมถึงการแสดงในส่วนต่างๆ อีกมากมายที่จะทำให้ผู้มาเยี่ยมเยือนได้เพลิดเพลินได้โดยไม่รู้เบื่อเลยค่ะ
ในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถขอเอกสารประกอบการเข้าชมพิพิธภัณฑ์เป็นภาษาอังกฤษได้ แต่อย่างไรก็ตาม ด้านในพิพิธภัณฑ์นั้นมีข้อมูลและสต๊าฟที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม » https://www.notoaqua.jp/global/english/
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
ผู้ใหญ่ (รวมถึงมัธยมปลาย) 1,850 เยน
เด็ก (ตั้งแต่อายุ 3 ขวบขึ้นไป – มัธยมต้น) 510 เยน
เวลาทำการ (เปิด – ปิด)
20 มีนาคม – 30 พฤศจิกายน 9:00 – 17:00 น.
1 ธันวาคม – 19 มีนาคม 9:00 – 16:30 น.
*เข้าได้ก่อนเวลาปิด 30 นาที
การเดินทาง
นั่งรถไฟจากสถานี JR Kanazawa มาลงที่สถานี JR Wakura Onsen (ถ้านั่งรถด่วนจะใช้เวลาประมาณ 60 นาที) จากนั้นต่อรถบัสมาลงที่ป้าย Notojima Rinkaikoen (ใช้เวลาประมาณ 35 นาที)
ดูแผนที่ Google Map
*หมายเหตุ :
รถบัสที่วิ่งในเส้นทางด้านบนมีแต่ฉบับภาษาญี่ปุ่น แอดมินจึงทำไฮไลท์เอาไว้ในภาพด้านล่างนะคะ สำหรับเพื่อนๆที่อยากดูฉบับเต็มเป็นภาษาญี่ปุ่นสามารถดูได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ www.city.nanao.lg.jp/
ตารางเวลารถบัสระหว่าง Wakura Onsen – Notojima Rinkaikoen
เมื่อเรามีข้อมูลพร้อมมือแล้วก็ไปกันเล้ย! แต่แอบกระซิบนิดหนึ่งนะคะ หากมาเที่ยวนี่เที่ยวด้วยการขับรถ เราจะสามารถนั่งแวะชมชายหาดยาวสุดลูกหูลูกตา รวมทั้งเกาะน้อยใหญ่ได้อีกด้วย อิ อิ โดยส่วนตัวของแอดมินแล้วเดินทางด้วยรถยนต์จึงมีโอกาสนั้นค่ะ เดี๋ยวเราจะให้ชมภาพวิวระหว่างการเดินทางด้านล่างนะคะ
รีวิว Notojima Aquarium
ด้านหน้าของ Notojima Aquarium ก็มีเจ้าจินเบซึ่งเป็นฉลามวาฬเช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหลายๆ แห่งในญี่ปุ่นค่ะ แม้จะไม่ใหญ่เท่า Osaka Aquarium Kaiyukan ที่โอซาก้า แต่ก็ได้บรรยากาศคนละแบบค่ะ ที่นี่จะให้บรรยากาศแบบธรรมชาติมากกว่าค่ะ
ไปถึงแล้วก็ซื้อตั๋วเข้าชมให้เรียบร้อย ราคา 1,850 เยนสำหรับผู้ใหญ๋ หลายอาจจะคิดว่าแพง แต่ถ้าได้เห็นกิจรรมด้านในแล้วก็ถือว่าคุ้มค่ามากเลยนะคะ ในส่วนของแผ่นพับแนะนำสัตว์ต่างๆ ของพิพิธภัณฑ์นั้นมีให้เลือกหลายภาษา อาทิ อังกฤษ จีน และเกาหลี บอกพนักงานได้เลยตอนที่เราซื้อตั๋วนะคะ
โซนที่เราเข้าไปเป็นที่แรกเป็นโซนปลาขนาดเล็ก เหมาะสำหรับเด็กและสำหรับคนที่ชอบปลาประเภทน่ารักๆ อย่างปลาการ์ตูนและปลาทะเลสวยงามอีกหลากหลายชนิด รวมถึงม้าน้ำ หอย ปลาดาว กุ้ง และสัตว์ทะเลชนิดต่างๆ
ถัดจากโซนตู้ปลาสวยงามขนาดเล็กแล้วก็จะเริ่มเข้าสู้โซนตู้ใหญ่ที่จำลองโลกใต้ทะเลสีน้ำเงินเข้มเอาไว้อย่างสวยงาม โดยมีป้ายบอกชื่อและชื่อพันธุ์ของปลาชนิดต่างๆ แต่สำหรับชาวต่างชาติอาจจะลำบากเสียหน่อยที่ไม่มีป้ายภาษาอังกฤษติดใไว้ แต่สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่แผ่นพับที่ได้รับมาตั้งแต่ประตูทางเข้าค่ะ
ดูเผินๆ พี่ฉลามวาฬจินเบตัวจะไม่ใหญ่มากนะคะ แต่ว่าพอมาเทียบกับขนาดตัวของมนุษย์แล้ว…พี่แกตัวใหญ่มากจริงๆ และด้วยความที่ตัวใหญ่มาก ก็จะมีปลาเล็กปลาน้อยคอยว่ายตามพี่แกตลอดเลยค่ะ
นอกจากฉลามวาฬแล้ว ก็มีปลากระเบนที่แหวกว่ายเหมือนบินอยู่ในอากาศตลอดเวลา พอรวมกลุ่มกับปลาน้อยใหญ่แล้ว เรารู้สึกว่าเป็นตู้ที่มีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางพันธุศาสตร์ดีค่ะ
ผ่านโซนตู้ใหญ่ๆ มาแล้วก็เจอกับตู้เล็กๆ ในห้องมืดกันบ้างค่ะ ตรงนี้เป็นโซนของแมงกะพรุนที่เราชอบมาก เพราะมันใสๆ เหมือนฟองอากาศขยับได้ แม้มันจะมีอันตรายก็ตามในบางชนิด แต่เวลาสะท้อนกับแสงไฟแล้วมันดูสวยมากจริงๆ ค่ะ
พอโดนไฟสีแดงก็จะออกไปทางสีส้มๆ ชมพูๆ โปร่งๆ หน่อย ดูได้ไม่เบื่อเลยค่ะ เหมือนของเล่นมากกว่าสิ่งมีชีวิต อวัยวะอะไรก็ไม่เห็นเลย มันใส๊ใสจนมองทะลุผนังได้เล้ย
ออกมาจากโซนมืดแล้วก็เข้าสู่โซนสว่าง มาเยี่ยมเยือนสัตว์ทะเลอื่นๆ นอกจากปลากันบ้างค่ะ ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากก็คือ โชว์ของสิงโตทะเลที่จะมีรอบการแสดงตามเวลา มีโชว์ซิทอัพออกกำลังกายด้วยนะคะ น่ารักมากเลย เวลาเล่นกับเด็กๆ ขี้อ้อนมากด้วยย
ดูโชว์สิงโตทะเลเสร็จแล้ว ก็มีโชว์เทอร์นาโดฝูงปลาที่ตู้ข้างๆ เลยค่ะ เขาแสดงโชว์ด้วยการให้อาหารปลาตามเส้นทาง แล้วปลาก็รวมตัวกันเป็นลักษณะคล้ายกับพายุ ของจริงมีการบรรเลงดนตรีและเล่นไฟบริเวณที่เรานั่งชมอีกด้วยนะคะ เรียกกว่างานนี้ครบครันทั้งแสง สี เสียงเลยค่ะ
ที่จริงกิจกรรมด้านในยังมีอีกหลายอย่างค่ะ มีกิจกรรมให้น้องเพนกวินออกมาเดินเล่นตามทางเดินด้วย เหมือนเลี้ยงแบบอิสระเลยค่ะ น่ารักมากกก ไม่กลัวคนเลย แต่ว่าก่อนที่เราจะได้ชมกิจกรรมอย่างอื่น เราก็ได้ยินเสียงประกาศกิจกรรมน้องโลมาโชว์บริเวณสระกลางแจ้งค่ะ แน่นอนว่าไม่พลาด ไปชมกันดีกว่า!
บรรยากาศโดยรอบนั้นมีคนมากันแน่นเต็มเกือบทุกที่นั่งค่ะ โดยเฉพาะตรงกลางจะแน่นเป็นพิเศษ
เริ่มต้นด้วยสิงโตทะเลตัวนี้ออกมาโชว์ความหล่อพร้อมความสามารถในการเลี้ยงลูกบอลเสียก่อน ว่ายน้ำเก่ง เดินก็ได้ แถมทำท่าคุยรู้เรื่องอีกด้วยนะคะ น่าร้ากกก
และแล้วเวลาที่เรารอคอยก็มาถึงแล้วค่าาา น้องโลมาเริ่มปรากฎตัวแล้ว เหมือนลูกหมาซนๆ แต่เป็นน้องโลมาแสนซน เริ่มออกมาทักทายครูฝึกแล้วค่า
น้องโลมาที่มาโชว์จะมีทั้งหมดสีตัว และแน่นอนว่าต้องมีตัวท็อปอยู่ด้วย ก็ต้องรอดูกันไปค่ะว่าตัวไหนจะเป็นพระเอกในรอบนี้ และเนื่องจากว่าสระกลางแจ้งนี้เป็นสระขอบกระจกใส ไม่ว่าน้องโลมาจะอยู่ในอากาศหรืออยู่ในน้ำเราก็สามารถมองเห็นได้หมดเลยค่ะ
ในตอนแรกจะเป็นการโชว์ทีละคู่ และเมื่อเครื่องร้อนแล้ว จะเริ่มมีการแท็กทีมแบบโชว์ยกเซ็ตบ้าง สลับคู่บ้าง น้องโลมาอยู่ไม่นี่งเลยค่ะ มีอะไรให้ติดตามชมตลอด
ตัวนี้สายโชว์พลังในการจัมป์สูงมากก ประมาณ 1-2 ช่วงตัวของขนาดตัวเลยนะคะ ที่กระโดดสูงมีประมาณสองตัวสลับกันค่ะ เก่งมากกก
สายเอ็นเตอร์เทนก็มา ตัวนี้คือกระโดดปุ๊ง! ขึ้นมาบนแท่นหน้าคนดูเลยค่า งานนี้มีการขออาสาสมัครขึ้นไปเล่นกับน้องด้วย และนอกจากนี้ยังมีโลมาสายแกล้ง พ่นน้ำใส่ด้วย สนุกสนานปาจิโกะมากๆ
ใครที่ชอบแบบภาพเคลื่อนไหว เราก็มีวิดีโอมาฝากด้วยนะคะ
จริงๆ แล้วอีกกิจกรรมหนึ่งที่เราอยากทำมากก็คือ การสัมผัสเพนกวินที่ชายทะเลด้านหลังพิพิธภัณฑ์ค่ะ คือเราต้องลงทะเลประมาณครึ่งตัว เพื่อเข้าไปสัมผัสกับเพนกวินโดยตรงเลย แต่ว่าแอดมินไม่ได้เตรียมรองเท้าและกางเกงขาสั้นมา งานนี้เลยอดไปค่ะ ไม่งั้นต้องเปียกกลับที่พักจะลำบากเกินไป
ไม่ทันไร พอมองนาฬิกาก็เป็นเวลาเย็นแล้วค่ะ ได้ฤกษ์กลับบ้านแล้ว การนั่งรถริมเกาะริมทะเลในช่วงแดดร่มลมตกนี่เป็นบรรยากาศที่ดีมากทีเดียวค่ะ เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าระหว่างทางกลับไปนั้นมีอะไรให้ดูบ้าง
คุณตาที่พาเรามาขับรถลัดเลาะมาตามขอบเกาะ Noto Island ซึ่งเราจะเห็นวิถีชีวิตของคนที่อยู่บนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ค่ะ หลายบ้านมีอาชีพประมงและทำการเกษตรอยู่อย่างสมถะ เงียบสงบและอุดมไปด้วยป่า จนกระทั่งเราข้ามฝั่งกลับมายังเกาะใหญ่ ตอนที่อยู่บนสะพานเราจะได้เห็นเกาะน้อยใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลค่ะ นอกจากนั้นจะเห็นสีของน้ำทะเลที่แบ่งกันชัดเจนมาก เป็นการแบ่งพื้นที่น้ำทะเลในบริเวณน้ำตื้นและเขตที่เป็นมหาสมุทร หลังจากถามชาวญี่ปุ่นได้ความว่า ตรงนี้เหมือนเป็นส่วนปากอ่าวที่จะมีกระแสน้ำมารวมกันและไหลออกสู่มหาสมุทรนั่นเอง
ข้ามเกาะมาได้ประมาณ 15 นาที คุณตาก็พาแวะตรงชายหาดยาวสุดลูกหูลูกตา เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกขอบทะเลด้วยกันค่ะ
คือชายหาดยาวมากกยาวขนาดที่ว่าต้องขับรถเรียบเข้ามาหลายกิโลเหมือนกันค่ะ และเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นชายหาดทรายละเอียดที่ญี่ปุ่น ซึงโดยปกติจะเป็นเขตน้ำทะเลลึกเสียมากกว่า
ตลอดระยะทาง เราก็จะได้เห็นบรรดานกยืนมองทะเลเรียงกันเป็นแถวยาวมากๆ คือเดินไปตรงไหนก็เจอค่ะ แต่ติดที่ว่านกเขาเซนส์ดีมาก จะถ่ายรูปทีไรก็บินหนีตลอดจึงได้บรรยากาศนกบินหนี(?) มาประมาณนี้ค่าา
คุณตาผู้ที่อาสาขับรถมาให้เราตลอดทริปนี้ เป็นคุณตาที่ใจดีและรักครอบครัวสุดๆ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่า
และภาพสุดท้ายของบทความนี้ ก็คือภาพพระอาทิตย์ที่เกือบจะตกดิน บรรยากาศริมทะเลเย็นๆ สวยมากจนยากที่จะลืมเลือน สำหรับวันนี้ขอลากันไปเพียงเท่านี้ คราวหน้าพบกันในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ สวัสดีค่า
บทความเที่ยวคานาซาว่า (Kanazawa) ดูทั้งหมด »
· การเดินทางสู่เมืองคานาซาว่า (Kanazawa) จังหวัดอิชิคาว่า (Ishikawa)
· การเดินทางภายในเมืองคานาซาว่าและ Kanazawa Loop Bus + One Day Pass
· Kenrokuen Garden 1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ณ เมืองคานาซาว่า (Kanazawa)
· สวนปราสาทคานาซาว่า (Kanazawa Castle Park) จังหวัดอิชิคาว่า (Ishikawa)
· วัดนินจา Myouryu-ji (Ninja Temple) เมืองคานาซาว่า (Kanazawa)
· ซื้อของฝากและทำงานศิลปะจากทองที่ร้าน Imai Kinpaku เมืองคานาซาว่า (Kanazawa)
เทียบราคาโรงแรมที่พักในคานาซาว่า
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com