[รีวิว] เที่ยวปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) หนึ่งในปราสาทสวยที่สุดของญี่ปุ่น

สวัสดีค่า จากตอนก่อนเราแนะนำวิธีการเดินทางเข้าเมืองนาโกย่าจากสนามบินไปแล้ว คราวนี้เราจะเริ่มพาเที่ยวในเมืองกันนะคะ สถานที่แรกเลยก็คือสัญลักษณ์ของเมืองนี้ “ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)” นั่นเองค่ะ

เกี่ยวกับปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)

ประวัติความเป็นมา

ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle/名古屋城) ตั้งอยู่ในเมืองนาโกย่า (Nagoya) ของจังหวัดไอจิ (Aichi) สร้างขึ้นโดยท่าน โทกุงาวะ อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu) ในปี ค.ศ. 1612 แต่ได้ถูกเพลิงไหม้จนเสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ.1959 ตัวปราสาทถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองนาโกย่า รวมถึงรูปสลักปลาหัวเสือทองคำ “คินชะจิ (Kinshachi)” ที่อยู่บนปราสาทซึ่งเป็นเครื่องรางป้องกันอัคคีภัย

ตัวปราสาทหลักมีทั้งหมด 7 ชั้น ภายในประกอบด้วยนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และการจัดแสดงอุปกรณ์ต่างๆ บริเวณรอบๆ ปราสาทมีคูเมืองและสวนซึ่งเป็นจุดยอดนิยมในการมาชมซากุระบาน (ประมาณปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน)

ข้อมูลการเยี่ยมชม

⚠️ อาคารหลักของปราสาทนาโกย่ามีการปิดปรับปรุงตั้งแต่ปี 2018 นักท่องเที่ยวสามารถชมได้เพียงแต่รอบนอกปราสาท

• ค่าเข้าชม:
  • ผู้ใหญ่ 500 เยน
  • เด็ก (ต่ำกว่ามัธยมต้น) เข้าฟรี
• เวลาทำการ: 9:00 น. – 16:30 น. (เข้าก่อน 16:00 น.)
• วันหยุด: 29 ธันวาคม – 1 มกราคม 

การเดินทางมาปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)

นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Nagoyajo (เดิมคือสถานี Shiyakusho) ออกทาง Exit 7 ซึ่งถ้าจากสถานี Nagoya สามารถนั่งรถไฟใต้ดินมาได้ 2 สาย คือ

• Higashiyama Line

ถ้าขึ้นสาย Higashiyama Line ให้เปลี่ยนเป็นสาย Meijo Line (Clockwise) ที่สถานี Sakae มาลงที่สถานี Nagoyajo (เดิมคือสถานี Shiyakusho)

• Sakuradori Line

ถ้าขึ้นสาย Sakuradori Line ให้เปลี่ยนเป็นสาย Meijo Line (Clockwise) ที่สถานี Hisayaodori มาลงที่สถานี Nagoyajo (เดิมคือสถานี Shiyakusho)

รีวิวเที่ยวปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)

ถ้ามาจากสถานี Nagoya ตอนเช้าวันธรรมดา จะเจอช่วงคนญี่ปุ่นไปทำงานกัน ในสถานีรถไฟคนจะเยอะมาก ยืนรอกันจนทะลักจากชานชาลามาด้านบนเลยค่ะ แต่พอมาที่สถานีอื่นๆ ก็ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่

พอลงรถไฟที่ Nagoyajo (เดิมคือสถานี Shiyakusho มีการเปลี่ยนชื่อเมื่อปี 2023 เพื่อลดความสับสน) ก็ให้มองหาป้ายทางออก Exit 7 เลยค่ะ

จากสถานีรถไฟสามารถเดินไปยังปราสาทได้ 2 ทางคือ ประตูหลัก (Main Gate) และ ประตูทิศตะวันออก (East Gate)

สำหรับคนที่จะเข้าทางประตูทิศตะวันออก (East Gate) พอออกจากสถานีให้เดินตรงขึ้นไปได้เลยตามทางนี้ค่ะ

แต่ในรีวิวนี้เราจะเข้าทางประตูหลัก (Main Gate) กันค่ะ พอขึ้นบันไดมาจากสถานีก็ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเดินไปตามป้ายค่ะ เดินเลาะๆ ไปตามทาง มองหาป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ เดินไกลพอสมควรเลยเหมือนกันกว่าจะเจอกับทางเข้าหลักค่ะ

ดูจากแผนที่ จะเห็นได้ว่าทางประตูทิศตะวันออก (East Gate) อยู่ใกล้สถานีรถไฟกว่า ใครไม่อยากเดินอ้อมก็เข้าทางนี้ก็ได้นะคะ

ทางเข้าหลัก

ดอกซากุระร่วงไปเกือบหมดเหลือให้เห็นอยู่นิดเดียว (ตอนที่ไปเป็นช่วงกลางเดือนเมษายนไปแล้ว) ถ้าอยากเจอซากุระสวยๆ ต้องมาช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนนะคะ

สำหรับปราสาทนาโกย่านี้เราต้องเสียเงินผ่านประตูเข้าไป เราถึงจะเห็นตัวปราสาท อยู่ด้านนอกแทบไม่เห็นอะไรเลย

ค่าเข้าก็ไม่แพง 500 เยนค่ะ แต่เนื่องจากเราซื่้อบัตรรถไฟเป็น Nagoya Subway One Day Pass (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Nagoya Subway 24-Hour Ticket ราคา 720 เยน ข้อมูล ณ 2024) สามารถกดซื้อได้เองที่ตู้ขายตั๋วในสถานีรถไฟ ถ้าเอาบัตรมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตอนซื้อตั๋ว จะได้ส่วนลดค่าเข้าเหลือ 400 เยนค่ะ

ผ่านประตูเข้ามาแล้วก็จะเจอทางเดินยาวๆ ให้เดินไปตามทางด้านขวามือเลยนะคะ ข้างในนี้ยังพอมีซากุระให้เห็นบ้างเป็นบางต้น

จากตรงเมื่อครู่นี้ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะเจอรูปสลักปลาหัวเสือทองคำ “คินชะจิ (Kinshachi)” มีกล่องรับบริจาคเงิน 100 เยน ส่วนอาคารตรงด้านหลังนั้นก็เป็นร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก

ก่อนเข้าตัวปราสาทก็ต้องมาแวะถ่ายมุมมหาชนด้านนอกกันตรงนี้ก่อน วันนี้ฟ้าใส แดดแรง ลมแรงดีมากเลยค่ะ ใส่เสื้อแขนยาวตัวเดียวก็เดินเที่ยวได้สบายๆ

ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)

จากนั้นก็เดินตามทางหลักไปต่อ เพื่อไปเข้าส่วนของด้านในอีกชั้น

เดินเลี้ยวไปตามทางเลยค่ะ

เมื่อเข้ามาก็จะเจอ “พระราชวังฮอมมารุ (Hommaru Palace)” ตอนที่ไปกำลังก่อสร้างกันอยู่ ซึ่งเป็นการก่อสร้างขึ้นใหม่โดยใช้ตามแบบฉบับดั้งเดิมเลย แต่เราสามารถเข้าไปชมด้านในได้จากทางเข้าข้างๆ ค่ะ (ปัจจุบันสร้างเสร็จแล้วตั้งแต่ปี 2018)

ก่อนเข้าด้านในจะมีการอธิบายกฏกันก่อน เมื่อเข้าไปด้านในจะต้องถอดรองเท้าแล้วเอาไปเก็บในตู้ รวมถึงกระเป๋าสัมภาระด้วยค่ะ เพื่อป้องกันการขูดขีดกับไม้ ตอนฝากกระเป๋าจะให้หยอดเหรียญ 100 เยนไว้แล้วจะได้คืนตอนที่มาเอาของค่ะ

ด้านในจะมีห้องและภาพเขียนต่างๆ ให้ชม สามารถถ่ายรูปได้ตามสบาย แต่ห้ามใช้แฟลชค่ะ

สามารถเดินชมไปตามทางที่จัดไว้ได้รอบพระราชวังเลยค่ะ

ตัวอย่างของห้องต่างๆ งดงามอลังการจริงๆ

ถัดจากพระราชวังฮอมมารุ เราก็จะเจอตัวปราสาทแล้วค่ะ บริเวณด้านหน้ามีร้านขายอาหารและซอฟครีมด้วย

ทางเข้า-ออกตัวปราสาทอยู่ทางนี้นะคะ

เราจะเข้ามาตรงประสาทหลังเล็กๆ ก่อนแล้วค่อยเดินเผ่านทางชื่อมไปยังตัวปราสาทหลังใหญ่

แหงนถ่ายกันสุดฤทธิ์

พอเข้ามาในปราสาท เราจะขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดก่อน แล้วค่อยเดินลงมาชมทีละชั้นนะคะ ลิฟต์จะสุดที่ชั้น 6 จากนั้นเราต้องเดินขึ้นบันไดไปยังชั้น 7 ซึ่งเป็นจุดชมวิว

ด้านบนมีหน้าต่างและกล้องส่องทางไกลให้ชมวิวโดยรอบ

และที่ไม่พลาดก็ร้านขายของที่ระลึก อิอิ

เสร็จแล้วก็เดินกลับลงบันไดไป บันไดที่นี่จะแยกทางขึ้นกับทางลงนะคะ เวลาจะขึ้นลงต้องสังเกตป้ายกันหน่อย ในชั้นอื่นๆ ก็เป็นการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของปราสาท

โมเดลจำลองปราสาท

การก่อสร้างกำแพงปราสาทต้องใช้แรงงานคนขนหินกันหนักมาก เราสามารถไปลองลากได้ด้วยนะคะ

มีจุดให้ขึ้นไปนั่งถ่ายบนปลาคินชะจิได้ แต่ระวังลื่นกับหัวโขกหางปลาด้วยนะคะ

มีการจำลองบ้านเรือนในยุคก่อนให้ชมหลายมุม

เมืองจำลอง

รวมๆ แล้วก็ใช้เวลาเที่ยวที่ปราสาทไปประมาณ 2 ชั่วโมง สำหรับขากลับ เราเดินมาออกทางประตูทิศตะวันออก (East Gate) นะคะ จะอยู่ใกล้กับสถานี Nagoyajo (เดิมคือ Shiyakusho) มากกว่าประตูหลักตอนขามา

สำหรับวันนี้ก็ขอจบการรีวิวเที่ยวปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) ไว้เพียงเท่านี้ ตอนหน้าเราจะพาไปเที่ยวสถานที่อื่นๆ ในเมืองนาโกย่ากันต่อนะคะ สวัสดีค่าาา

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวศาลเจ้าอะสึตะ (Atsuta Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งเมืองนาโกย่า