Payke แอปพลิเคชันอ่านบาร์โค้ดสินค้าญี่ปุ่น ที่จะทำให้การช้อปปิ้งสนุกกว่าเดิม!

ADVERTORIAL

ใครเป็น Japan Lover บ้าง ยกมือหน่อยค่า ไม่ว่าจะเป็นสาย Shopping หรือ Beauty ไม่ว่าจะมาสายไหนก็พลาดไม่ได้ กับ “Payke (เพย์คุ)” แอปพลิเคชันที่จะช่วยเสริมพลังแห่งการช้อปปิ้งของเราให้ปัง! 

ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะอ่านฉลากภาษาญี่ปุ่นไม่ออก เพียงแค่สแกนบาร์โค้ดสินค้าผ่านแอปฯ  ก็จะโชว์รายละเอียดเป็นภาษาไทยให้ทันที ช่วยให้เราช้อปได้สนุกมากขึ้น ซื้อของไม่แป้ก ซื้อให้ตัวเองก็ถูกใจ ซื้อให้เป็นของฝากก็ตรงใจคนรับ

Payke คืออะไร?

Payke (ペイク) อ่านว่า “เพย์คุ” เป็นแอปพลิเคชันจากญี่ปุ่นที่เราสามารถดูรายละเอียดสินค้าที่เราสนใจได้ เพียงแค่สแกนบาร์โค้ดของสินค้า ซึ่งมีความแตกต่างและดีกว่าแอปพลิเคชันแปลภาษาที่เรารู้จักกัน ตรงที่ Payke จะมีการลงทะเบียนข้อมูลสินค้าเอาไว้ในฐานข้อมูลก่อน 

เมื่อเราสแกนบาร์โค้ดสินค้า ตัวแอปฯ จะดึงข้อมูลออกมาแสดงอย่างละเอียด โดยมีทั้งวิธีใช้ คุณสมบัติ ส่วนประกอบ และยังสามารถดูร้านที่จำหน่ายได้อีกด้วย ซึ่งการแสดงผลจะแสดงออกมาเป็นภาษาหลักที่เราใช้งาน แน่นอนว่ารองรับภาษาไทยด้วยค่ะ

ดาวน์โหลด Payke เวอร์ชั่น Android และ iOS ได้ที่ » https://payke.onelink.me/MLvt/payke011

วิธีการใช้งาน Payke

การใช้งาน Payke นั้นง่ายและสะดวก เพียงแค่เอาสมาร์ทโฟน เปิดแอปฯ (เปิดกล้อง) แล้วนำไปแสกนที่บาร์โค้ดของสินค้าที่เราต้องการทราบรายละเอียด จะปรากฎข้อมูลสินค้านั้นภายในเวลาไม่กี่วินาที 

โดยข้อมูลดังกล่าวประกอบไปด้วย ชื่อผลิตภัณฑ์ คำอธิบายและส่วนประกอบต่างๆ รวมถึงคะแนนรีวิวจากผู้ที่เคยใช้งาน และร้านค้าที่จำหน่ายสินค้านั้นๆ ด้วย

จุดเด่นของ Payke

1. รองรับภาษาไทย

ตัวแอปฯ รองรับทั้งหมด 7 ภาษา นอกจากภาษาไทยแล้ว ก็ยังมีภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีนตัวเต็ม (ใช้ในใต้หวัน) จีนตัวย่อ เกาหลี และเวียดนาม จะเห็นว่า Payke ให้ความสำคัญกับภาษาในแถบเอเชียเป็นอย่างมาก นั่นทำให้แอปฯ ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในหมู่นักท่องเที่ยวอย่าง ฮ่องกง ใต้หวัน และมาเก๊า

2. ใช้งานง่ายและใช้ได้จริง

หน้าตาแอปฯ ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องลงข้อมูลส่วนตัวให้ยุ่งยาก แค่เปิดแอปฯ แล้วคลิกอ่านบาร์โค้ด ข้อมูลก็ขึ้นมาละเอียดยิบในเวลาไม่กี่วินาที อีกทั้งยังแนบรูปผลิตภัณฑ์ให้เรียบร้อยด้วย คนที่ไม่สันทัดการใช้สมาร์ทโฟนก็สามารถใช้งานได้เช่นกันค่ะ

3. ช่วยประหยัดเวลาในการช้อปปิ้ง

เคยไหม? ที่ต้องไปนั่งเทียบรูปว่าใช้สินค้าตัวที่เราตั้งใจจะซื้อหรือเปล่า หรือว่าเป็นสินค้าที่มีคุณสมบัติที่เหมาะกับเราจริงๆ มั้ย ถ้าใช้ Payke ก็จะช่วยให้เราช้อปได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องเสียเวลาไปถามพนักงาน เนื่องจากแอปฯ สามารถบอกชื่อ วิธีการใช้ ส่วนประกอบ และคำอธิบายต่างๆ พร้อมรีวิว ไว้ในที่เดียว รวมไปถึงการจัดอันดับสินค้ายอดนิยมที่จะช่วยให้เราตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

4. ข้อมูลมีความแม่นยำ

วิธีการเก็บข้อมูลที่ใช้เป็นการลงทะเบียน ไม่ใช่การแปลภาษา จึงทำให้รายละเอียดที่แสดงใน Payke เป็นข้อมูลที่ถูกประมวลผลได้สมบูรณ์ และด้วยจำนวนสินค้าที่ลงทะเบียนในคลังข้อมูล ทำให้แอปฯ สามารถดึงข้อมูลจากคลังข้อมูลสินค้าได้มากถึง 440,000 รายการ เรียกว่าเป็นช้อปปิ้งมอลล์ได้เลย!

5. แอปฯ ฟรีที่สามารถใช้ได้ทุกประเทศ

โดยทั่วไปแล้วแอปฯ ที่มีข้อมูลจำนวนมากขนาดนี้จะมีการเก็บค่าบริการ แต่ว่า Payke เป็นแอปฯ ที่ให้ใช้ฟรี แถมยังไม่จำกัดประเทศที่ใช้งานด้วย ซึ่งค่อนข้างเอาใจนักท่องเที่ยวมากๆ โดยสามารถใช้สแกนดูข้อมูลสินค้าในตอนที่กำลังช้อปปิ้งในญี่ปุ่น และถ้าซื้อของฝากหรือยากลับมา แล้วจำสรรพคุณหรือวิธีทานไม่ได้ เราสามารถสแกนดูอีกครั้งตอนที่กลับมาไทยแล้วก็ได้ค่ะ

6. รับคูปองส่วนลดที่พิเศษกว่า

ใน Payke มีการแจกคูปองส่วนลดสำหรับผู้ที่ดาวน์โหลดแอปฯ สามารถนำไปใช้ซื้อของที่ร้านค้าตามที่ระบุได้ หากใครกำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นอย่าลืมโหลด Payke ไว้ติดมือถือ รับรองว่าจะช่วยให้ช้อปปิ้งได้สนุกขึ้น แถมยังได้สิทธิพิเศษเหนือกว่าด้วยนะคะ

รีวิวการใช้งาน Payke

พูดถึงข้อดีของแอปฯ กันมาหลายข้อแล้ว มาลองใช้งานจริงกันดูค่ะ แน่นอนว่าเราก็ลองแล้วเรียบร้อย ค่อนข้างประทับใจในความเร็วในการแสกนและความละเอียดยิบของข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ดึงมาแสดง และไหนๆ ก็จะรีวิวแอปฯ แล้ว ในรีวิวนี้ก็ขอแนะนำสินค้าฮิตๆ ในญี่ปุ่นไปด้วยเลยจ้า

1. IHADA สเปรย์ช่วยป้องกันละอองเกสรดอกไม้ และ PM2.5

เป็นสินค้ายอดนิยมตัวหนึ่งของ Shiseido ถ้าเห็นในตอนแรกอาจจะยังไม่แน่ใจว่าเป็นพวกน้ำแร่หรือสินค้าอะไร เราสามาถใช้แอปฯ แสกนบาร์โค้ดดูรายละเอียดได้เลย

สินค้านี้ก็คือสเปรย์ที่ช่วยป้องกันละอองเกสรดอกไม้ และ PM2.5 นั่นเอง เราจะพบสเปรย์นี้วางขายเต็มไปหมดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะว่าเป็นช่วงที่คนแพ้เกสรดอกไม้กันเยอะ ส่วนเรานั้นแพ้ PM2.5 ค่า ต้องกวาดจ้า! เป็นสินค้าที่ถูกใจเรามากมาย ด้วยสถานการณ์ตอนนี้เป็นไอเทมที่ต้องมีจริงๆ และในบ้านเราเองก็หาซื้อยาก ทั้งยังมีราคาแพง ไปญี่ปุ่นทั้งทีก็น่าขนกลับมาด้วยมากๆ ค่ะ

2. เดอร์มาเลเซอร์ (DERMA LASER)

เป็นชีทมาส์กที่กำลังโด่งดังในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะร้านดองกี้ ร้านมัตสึโมโตะ ตอนนี้ก็มีวางขายอยู่หลายสูตร และด้วยความสวยเป็นเรื่องที่เรายอมไม่ได้ มีกี่สูตรๆ ต้องแยกให้ออก ใช้อันไหนถึงจะเหมาะกับผิวเราที่สุด 

ตอนนี้มีออกมาประมาณ 5 สูตร ซึ่งข้อมูลใน Payke ก็ช่วยให้เราตัดสินใจในการเลือกได้ตรงใจและตรงกับผิวหน้าของเราที่สุด แอบกระซิบไว้อีกอย่างเนื่องจากแอปฯ จะบอกส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ด้วย ผลพลอยได้ก็คือ เราจะรู้ว่ามีส่วนผสมที่เราแพ้หรือไม่อีกด้วยค่ะ

แถมอีกนิด มาแนะนำของดีกันหน่อยค่ะ เผื่อใครสงสัยว่าชีทมาส์กยี่ห้อนี้มีสูตรอะไรบ้าง

1. DERMA LASER SUPER VC100 Mask (ยอดนิยม)
2. DERMA LASER SUPERTEA TREE100 Mask
3. DERMA LASER SUPER VC100 White Mask (มีจำหน่ายจำนวนจำกัดเท่านั้น)
4. DERMA LASER SUPER NMN100
5. DERMA LASER SUPER CERAMIDE100 Mask

ตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ DERMA LASER Super VC100 Mask มีรางวัล Best Cosmetics ในหมวดชีทมาส์กปี 2022 การรันตีกันเลยทีเดียว เป็นรางวัลจากนิตยสารยอดนิยม “LDK” ในญี่ปุ่นและ @ cosme TOKYO ยอดขายหมวดชีทมาส์กอันดับ 1 นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับสูงในจำนวนการสแกนของ Payke อีกด้วย

3. อาหารเสริมดีเอชซี (DHC)

เรื่องความสวย สาวไทยไม่เป็นสองรองใคร สวยทั้งภายในและภายนอก ไอเทมสุดเลิฟอีกตัวคืออาหารเสริมหลากหลายชนิด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จาก DHC ซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องช่วยให้ผิวสวย หน้าใส มีออร่า 

ต่อไปนี้เราไม่เปิดเว็บหาสรรพคุณกันอีกแล้ว เราก็ใช้ Payke นี่แหละ แค่แสกนบาร์โค้ด ข้อมูลก็ขึ้นมาจัดเต็มทั้งคุณสมบัติ ส่วนผสม วิธีการรับประทานต่างๆ นานา นอกจากนี้ข้อมูลที่แสดงในแอปฯ ก็มีรีวิวจากคนที่เคยแสกนมาก่อนเราอีกด้วย ตัดสินใจไม่ถูกก็ดูจากรีวิวก็ได้ค่ะ

แอบกระซิบอีกนิดว่าร้านขายวิตามินหรืออาหารเสริมราคาถูกในโตเกียว แนะนำเป็นร้าน OS Drug ชินจูกุ! ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่ว่าคลังของเค้าอลังการงานสร้างเลยค่ะ ใครมาช้อปที่ชินจูกุ อย่าลืมแวะดูกันนะคะ

4. อาหารเสริมแบบเยลลี่กัมมี่ (ของฝากที่กำลังฮิต!)

เป็นอาหารเสริมรูปแบบใหม่ที่ทานง่ายกว่าแบบเม็ดยา มีรสชาติอร่อย จึงเป็นที่นิยมทั้งในหมู่คนญี่ปุ่นและต่างชาติ และที่นิยมกันมากที่สุดก็คือวิตามินซี ตอนนี้ร้าน Drug Store ต่างๆ เองก็เริ่มมีวางขายกันมากขึ้น ทำให้เราหาซื้อได้ง่าย ด้วยรสชาติที่อร่อย ช่วยบำรุงร่างกาย ที่สำคัญสามารถทานได้ทุกวันทุกที่ทุกเวลา

แต่เพราะมีมากมายหลากหลายสูตร ส่วนจะทานสูตรไหนให้ตรงกับความต้องการของเราก็ใช้แอปฯ Payke สแกนดูคุณสมบัติแบบละเอียดได้เลย เพราะการทานวิตามินหรืออาหารเสริมที่ดีคือ การเลือกประเภทและปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายของเรานั่นเองค่ะ

5. ครีมกันแดด Anessa

สินค้าแนะนำตัวสุดท้ายที่พลาดไม่ได้เลย ด้วยแสงแดดประเทศไทยที่สามารถทอดไข่ดาวจนสุกได้ ครีมกันแดดเป็นไอเทมที่ต้องใช้จริงๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เจ๋งๆ ก็มักจะเป็นตัวฮิตที่วางขายกันที่ญี่ปุ่นกันซะด้วย 

ในปัจจุบันครีมกันแดดจะไม่ใช่แค่ครีมกันแดดอีกต่อไป เพราะว่าคุณสมบัติมากมายหลายอย่างดีเว่อร์ โดยเฉพาะ ANESSA แบรนด์ดีแบรนด์ดังที่เราคุ้นหูกันดี ก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบ หลายสูตร เราอาจจะไม่รู้ว่าอันไหนจะเหมาะกับผิวเรา ข้อมูลจาก Payke ก็จะช่วยให้เราเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวและวิธีการใช้อย่างเหมาะสมอีกด้วย

อันนี้เราก็ขอแนะนำ 2 สูตรนะคะ

1. ANESSA เพอร์เฟค ยูวี สกินแคร์ มิลค์ N
   มีคุณสมบัติ กันเหงื่อ กันน้ำ กันความร้อน ช่วยเสริมความแข็งแกร่งป้องกันรังสียูวี
2. ANESSA ไบร์ทเทนนิ่ง ยูวี เจล N
   มีส่วนผสมไวท์เทนนิ่ง ที่ช่วยป้องกันรอยดำในขณะที่เผชิญรังสียูวี เนื้อเจลสีชมพูลาเวนเดอร์ ช่วยชดเชยความหมองคล้ำและปรับความกระจ่างใสของผิว

สรุป

สินค้าข้างต้นเป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมหาซื้อกัน นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้าอีกมากมายที่เราสามารถหาซื้อได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีไอเดียว่าจะซื้อของฝากอะไร หรือไม่แน่ใจว่าต้องซื้ออะไรถึงจะอินเทรนด์ ในแอปฯ Payke ก็มีการจัดอันดับไอเทมยอดฮิตให้เราสามารถเข้าไปดูสินค้าดังได้อีกด้วย ซึ่งเทรนด์เหล่านี้มาจากผู้ใช้งานแอปฯ  จึงเป็นข้อมูลจากความนิยมของผู้ใช้งานจริงๆ นั่นเอง

ส่วนตัวเราลองใช้แล้ว คิดว่าเป็นแอปฯ ที่ดีตัวหนึ่งเลย ไม่เพียงแค่คนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นเท่านั้น เราอยู่ไทยก็สามารถใช้งานแอปฯ ได้เวลามีคนซื้อของฝากมาให้เรา แต่ว่าเราไม่รู้วามันคืออะไร ใช้ทำอะไร สามารถใช้แอปฯ Payke สแกนบาร์โค้ดดูรายละเอียดสินค้าได้เช่นกัน

หวังว่าแอปดีๆ นี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ช้อปปิ้งในญี่ปุ่นสนุกมากขึ้นนะคะ