วันนี้แอดมินจะมาอัปเดตการซื้อสินค้าปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ เพราะตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2026 ประเทศญี่ปุ่นจะมีการเปลี่ยนระบบการซื้อและการยกเว้นภาษีจาก Tax Free (ยกเว้นภาษีทันที) มาเป็น Tax Refund (ขอคืนภาษีภายหลัง) จากที่แอดมินศึกษาข้อมูลมาแล้ว ก็บอกได้ว่าอาจจะทำให้คนที่เคยชินกับระบบแบบเดิมต้องปรับตัวกันนิดหน่อย เพราะมีกระบวนการที่เพิ่มเข้ามา การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันได้ในบทความนี้เลยค่ะ
การซื้อสินค้าปลอดภาษีในญี่ปุ่น
อัตราภาษีซื้อสินค้าที่ญี่ปุ่นอยู่ที่เท่าไหร่?
ประเทศญี่ปุ่นใช้อัตราภาษีการบริโภค (Consumption Tax) ซึ่งผู้บริโภคต้องจ่ายเมื่อซื้อสินค้าและบริการ ในปัจจุบัน (ปี 2025) อยู่ที่ 10% สำหรับสินค้าทั่วไปและบริการ และ 8% สำหรับสินค้าที่อยู่ในอัตราภาษีลดหย่อน (Reduced Tax Rate) เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่ซื้อกลับไป หนังสือพิมพ์ที่ออกเป็นประจำ (อยู่ในระบบสมาชิก)
ใครที่ซื้อสินค้าปลอดภาษีในญี่ปุ่นได้ และซื้อได้ที่ไหนบ้าง?
ผู้มีสิทธิ์ซื้อสินค้าปลอดภาษี ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พำนักในญี่ปุ่นไม่เกิน 6 เดือน และชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ต่างประเทศอย่างน้อย 2 ปี โดยสามารถซื้อได้จากร้านค้าที่เป็น Tax-free Shop ซึ่งกระจายอยู่ทั่วเมือง ทั้งในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วไป ครอบคลุมตั้งแต่ของกิน ของใช้ประจำวัน เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงสินค้าแบรนด์เนม
นอกจากนี้ ผู้โดยสารที่กำลังจะเดินทางออกนอกประเทศญี่ปุ่น ก็ยังสามารถซื้อสินค้าปลอดภาษีได้จากร้าน Duty Free Shop ภายในสนามบินหรือท่าเรือระหว่างประเทศ รวมทั้งร้าน Duty Free Shop ที่อยู่ในเมืองซึ่งจะต้องไปรับของที่สนามบิน โดยจะได้ยกเว้นทั้งภาษีศุลกากร ภาษีเฉพาะ และภาษีการบริโภค เหมาะสำหรับคนที่จะหาซื้อสินค้า เช่น สุรา บุหรี่ น้ำหอม ของแบรนด์เนม
ระบบการซื้อสินค้าปลอดภาษีในญี่ปุ่นเป็นอย่างไร?
ปัจจุบันในปี 2025 ประเทศญี่ปุ่นใช้ระบบ “Tax Free Shopping System” ซึ่งจะได้รับยกเว้นภาษีทันที ณ จุดขาย เมื่อซื้อสินค้าตามร้าน Tax-free Shop ทำให้การซื้อสินค้าปลอดภาษีในประเทศญี่ปุ่นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสะดวกและรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2026 ญี่ปุ่นจะเปลี่ยนระบบการซื้อสินค้าปลอดภาษีมาเป็นระบบซึ่งเรียกว่า “Tax Refund Method” โดยจะต้องซื้อสินค้าในราคาที่รวมภาษีก่อน แล้วค่อยนำสินค้าไปให้ศุลกากรตรวจยืนยันตอนออกนอกประเทศ (ภายใน 90 วันนับจากวันถัดจากวันที่ซื้อ) จึงจะได้รับเงินภาษีคืนภายหลัง
ความแตกต่างของระบบ Tax Free และ Tax Refund
 
nta.go.jp
ระบบ Tax Free คืออะไร?
ระบบ “Tax Free Shopping System” ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็นระบบที่ซื้อสินค้าเกิน 5,000 เยนขึ้นไป (ราคายังไม่รวมภาษี) ก็ได้รับการยกเว้นภาษีทันที ณ ร้านค้าที่จัดจำหน่าย หรือสามารถรับเงินคืนได้ที่เคาน์เตอร์ของห้างสรรพสินค้า ทำให้สะดวกต่อการช้อปปิ้งเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ในความสะดวกนี้มีข้อจำกัดบางส่วน อาทิ การกำหนดประเภทสินค้าต่างๆ ได้แก่ สินค้าทั่วไป เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ สินค้าสิ้นเปลือง เช่น อาหาร เครื่องสำอาง ยา ซึ่งมีการกำหนดยอดสูงสุด 500,000 เยนในการซื้อต่อร้านต่อวัน
ระบบ Tax Refund คืออะไร?
ระบบ “Tax Refund Method” เป็นระบบการซื้อสินค้าในราคาเต็มแล้วค่อยมาขอคืนภาษีภายหลัง เมื่อญี่ปุ่นเปลี่ยนเป็นระบบนี้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2026 จะไม่มีการแบ่งประเภทสินค้า ไม่มีการกำหนดเพดานจำกัดยอดซื้อ และไม่ต้องใส่สินค้าในบรรจุภัณฑ์พิเศษอีกด้วย ทว่าผู้ซื้อจะต้องเอาสินค้าทุกชิ้นไปขอคืนภาษีด้วยตนเองที่ศุลกากรขาออกนอกประเทศค่ะ แน่นอนว่าเราจะได้คืนหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการรักษาสิทธิ์นั้นหรือไม่
ระบบการคืนภาษีทั้งสอบระบบนี้มีข้อดีและข้อจำกัดที่ต่างกัน ซึ่งแอดมินได้สรุปข้อแตกต่างเอาไว้ตามตารางด้านล่างนี้นะคะ
| Tax Free (ระบบปัจจุบัน 2025) | Tax Refund (เริ่ม 1 พฤศจิกายน 2026) | 
|---|---|
| ได้รับการยกเว้นภาษี ณ จุดขาย | ซื้อของ ณ จุดขายในราคารวมภาษีบริโภคแล้ว | 
| ไม่จำเป็นต้องยื่นหลักฐานเพื่อขอคืนภาษี ณ ศุลกากรขาออก | ต้องยื่นหลักฐาน ณ ศุลกากรขาออก ที่สนามบิน เพื่อขอรับเงินส่วนที่จะได้รับการยกเว้นภาษี (หรือลงทะเบียนออนไลน์ที่ Visit Japan Web) | 
| ไม่ต้องแสดงหลักฐานการนำออกนอกประเทศ | ต้องยืนยันการนำสินค้าออกนอกประเทศ (ภายใน 90 วัน นับจากวันที่ซื้อจริง) | 
| มีการแบ่งหมวดหมู่ระหว่าง สินค้าทั่วไปและสินค้าสิ้นเปลือง | ยกเลิกการแบ่งหมวดหมู่ สินค้าทั่วไปและสินค้าสิ้นเปลือง | 
| กำหนดยอดซื้อตั้งแต่ 5,000 เยนขึ้นไป สำหรับสินค้าแต่ละหมวดหมู่ | มียอดซื้อรวมกันตั้งแต่ 5,000 เยนขึ้นไป โดยไม่แบ่งหมวดหมู่ | 
| กำหนดยอดซื้อสูงสุด 500,000 เยน สำหรับสินค้าสิ้นเปลือง | ยกเลิกกำหนดยอดซื้อสูงสุด สำหรับสินค้าสิ้นเปลือง | 
| มีข้อกำหนดเรื่องบรรจุภัณฑ์พิเศษ (บรรจุภัณฑ์ที่ห้ามแกะก่อนออกนอกประเทศญี่ปุ่น) | ยกเลิกการบรรจุในบรรจุภัณฑ์พิเศษ | 
| พิจารณาว่าสินค้าปลอดภาษีเป็น ของใช้ในชีวิตประจำวัน หรือไม่ ทำให้มีการจำกัดรายการสินค้าที่ยกเว้นภาษีได้ | ยกเลิกข้อกำหนดการพิจารณาว่าเป็น ของใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่มีข้อจำกัดในการซื้อสินค้าปลอดภาษีบางรายการ | 
📌 เอกสารที่ต้องใช้ในการยืนยันผู้ซื้อสินค้าปลอดภาษี
- นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านสนามบิน ให้แสดงหนังสือเดินทาง
- นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านเรือสำราญ ให้ใช้ใบอนุญาตขึ้นฝั่ง + หนังสือเดินทาง (หรือสำเนาหนังสือเดินทางแทนได้)
- คนญี่ปุ่นที่พำนักต่างประเทศเกิน 2 ปี ให้ใช้พาสปอร์ต + หลักฐานการย้ายถิ่น (รวมถึง บัตร My Number เป็นหนึ่งในหลักฐานได้)
ข้อควรรู้ในการขอคืนภาษีระบบ Tax Refund
1. ต้องจ่ายร้านค้าจะขายสินค้าในรวมภาษีไปก่อน
จากนั้นผู้ซื้อจะต้องไปยืนยันกับศุลกากรก่อนออกนอกประเทศ ว่าได้นำสินค้าออกไปจริง ภายใน 90 วันนับจากวันถัดจากวันที่ซื้อ เช่น ถ้าซื้อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2026 ต้องนำสินค้าออกไม่เกินวันที่ 30 มกราคม 2027
2. ให้เก็บใบเสร็จและสินค้าที่ซื้อในบิลเดียวให้ครบ
ให้นำสินค้าทั้งหมดที่ซื้อมาให้ศุลกากรยืนยันพร้อมกัน แล้วค่อยแพ็กลงกระเป๋าเดินทาง หากขาดไปแม้แต่ชิ้นเดียว จะไม่สามารถยืนยันได้ทั้งใบเสร็จ เช่น ใบเสร็จมี 10 รายการ แต่ขณะยืนยันมีเพียง 9 รายการ สินค้าทั้ง 10 รายการนั้น จะไม่สามารถขอคืนภาษีได้
3. เมื่อผ่านการยืนยันจากศุลกากรแล้ว จึงจะได้รับเงินคืนภาษี
เมื่อศุลกากรลงทะเบียนการยืนยันในระบบของ NTA (Nation Tax Agency) ผู้ประกอบการร้านค้าปลอดภาษีจะดำเนินการคืนเงินภาษีให้ โดยอาจคืนเข้าบัตรเครดิต การโอนผ่านแอปพลิเคชัน หรือการคืนเป็นเงินสดที่สนามบินหรือท่าเรือ
4. หากซื้อสินค้าแล้วให้ที่ร้านจัดส่งออกนอกประเทศโดยตรง
หากผู้ซื้อสินค้าปลอดภาษีทำเรื่องจัดส่ง ณ ร้านค้าปลอดภาษี และส่งมอบสินค้าให้แก่บริษัทขนส่งในทันที (Direct Shipping) จะถือเป็นสินค้าส่งออก และได้รับการยกเว้นภาษีทันที ตามมาตรา 7 ของพระราชบัญญัติภาษีการบริโภค โดยไม่ต้องดำเนินการขอคืนภาษีภายหลัง การส่งของกลับในกรณีนี้ ถือเป็นการส่งของแบบไปรษณีย์อากาศ ประเทศปลายทางของผู้รับสินค้าอาจมีการเรียกเก็บ ภาษีนำเข้า (Import Tax) หรือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ แทน
หมายเหตุ: หากซื้อสินค้าปลอดภาษีแล้ว นำไปจัดส่งกลับประเทศด้วยตนเองภายหลัง (ไม่ได้ส่งออกผ่านร้านค้าปลอดภาษีโดยตรง) จะไม่สามารถขอคืนภาษีได้
※อ้างอิงข้อมูลจาก nta.go.jp (ประกาศเมื่อเมษายน 2025)
🔥WEEKLY SALE🔥
27 ต.ค. – 2 พ.ย. 2025
จองทุกกิจกรรมบน Klook กรอกโค้ด JPKAKNOV1
ลดทันที 300.- ขั้นต่ำ 3,500.- จำกัด 50 สิทธิ์
✨ ใช้ได้ทั้งตั๋วเข้าสถานที่ ตั๋วรถไฟ และพาสต่างๆ ✨
※ไม่รวม Tokyo Disneyland
[ดูส่วนลดเพิ่มเติม คลิกที่นี่]
คำถามน่ารู้เกี่ยวกับการซื้อสินค้าปลอดภาษีในญี่ปุ่น
ระบบซื้อสินค้าปลอดภาษีแบบ Tax Refund จะมาแทนระบบเดิมคือ Tax Free โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2026 เป็นต้นไป
ระบบเดิม Tax Free จะยกเว้นภาษีทันทีตอนชำระเงินที่ร้านค้า ส่วนระบบใหม่ Tax Refund จะต้องซื้อสินค้าในราคาเต็มที่รวมภาษีก่อน แล้วจึงมาขอคืนภาษีภายหลัง
การขอคืนภาษี Tax Refund ในญี่ปุ่นสามารถทำได้โดยเก็บใบเสร็จและใบยืนยันการซื้อสินค้าปลอดภาษีจากร้านที่ร่วมรายการ แล้วนำพาสปอร์ต ใบเสร็จ และสินค้าที่ซื้อทุกชิ้นในบิลเดียวกัน ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่สนามบินหรือท่าเรือก่อนเดินทางออกจากญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลเพื่อดำเนินการคืนภาษีให้
สำหรับสินค้าโดยทั่วไปจะได้รับเงินคืน 10% ของราคาสินค้าตามอัตราภาษีการบริโภค (Consumption Tax) ของญี่ปุ่น ทั้งนี้จำนวนเงินที่ได้รับจริงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิธีการคืนภาษีที่ร้านค้าหรือผู้ให้บริการเลือกใช้ เนื่องจากบางช่องทางอาจมีการหักค่าธรรมเนียมการดำเนินการก่อนคืนเงิน
ส่งท้าย
สำหรับแอดมินมองว่าระบบ Tax Refund เป็นมาตรการควบคุมสินค้าปลอดภาษีให้ดียิ่งขึ้นในฉบับของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถตรวจสอบได้ว่านักท่องเที่ยวได้เปิดบรรจุภัณฑ์หรือใช้สินค้าภายในประเทศก่อนออกนอกประเทศหรือไม่ รวมถึงบางส่วนอาจนำไปขายต่อภายในญี่ปุ่น ระบบนี้จึงให้อำนาจกับศุลกากรเป็นผู้ตรวจสอบ โดยตรงตอนนักท่องเที่ยวเดินทางกลับ อีกทั้งมีความเป็นไปได้ว่าต้องการขยายประเภทสินค้าที่ร้านค้าสามารถขายได้ให้เยอะขึ้น
ในกรณีที่นักท่องเที่ยวไม่ใช้สิทธิ์ในการขอภาษีคืนภาษี ประเทศญี่ปุ่นก็ได้ภาษีเต็มจำนวน อย่างไรก็ดี มาตรการนี้อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนตัดสินใจจับจ่ายใช้สอยน้อยลง เพราะไม่อยากไปรอขอคืนภาษี โดยเฉพาะคนไทยอย่างเราๆ ที่ไม่ค่อยชอบอะไรยุ่งยากสักเท่าไหร่ บางคนบินไฟลต์เช้า ตื่นก็เช้า มาถึงก็อาจจะต้องขึ้นเครื่องทันที ส่งผลให้แนวโน้มการซื้อของในเมืองลดลง และนักท่องเที่ยวอาจหันไปซื้อที่สนามบินแทนมากขึ้น วันนี้ขอเล่าสู่กันเพียงเท่านั้น สวัสดีค่า
บทความท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
- คู่มือเที่ยวญี่ปุ่น (Japan Guide) เมืองน่าเที่ยว & สถานที่ท่องเที่ยวฮิต
- วางแผนเที่ยวและจัดทริปญี่ปุ่น ทำแพลนเที่ยวญี่ปุ่นเองไม่ยาก!
- รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ที่เที่ยว การเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร
- เส้นทางบินไปญี่ปุ่น & สายการบินไปญี่ปุ่น แบบบินตรงและแวะพัก
- รวมข้อมูล JR Pass มีกี่แบบ ไปไหนได้บ้าง พร้อมอัปเดตราคา
- Japan 101 ติวเข้มก่อนไปญี่ปุ่น! 60 ข้อน่ารู้เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com
 
 
 
 
 
 
 
 

 
 
