[PR Article]

หากพูดถึงภูมิภาคคันไซแล้ว เมืองที่ทุกคนต้องไปเที่ยวให้ได้เลยก็คือ โอซาก้า เมืองใหญ่ของภูมิภาคนี้นั่นเอง ถ้าหากเพื่อนๆ อยากจะอยู่เที่ยวที่โอซาก้าสัก 2-3 วัน แล้วยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี บทความนี้ต้องถูกใจเพื่อนๆ อย่างแน่นอน เพราะเรามีสถานที่น่าเที่ยวเด็ดๆ ในโอซาก้าที่น้อยคนนักจะรู้จักมาฝาก

อย่างที่ทุกคนรู้ ในแต่ละฤดูกาลที่ญี่ปุ่นก็จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่าช่วงไหนมีของดีของเด็ดอะไร ก็ตามมากันได้เลย

ช่วงเดือนพฤษภาคม –  มิถุนายน ดอกไม้เบ่งบานและฤดูเก็บสตรอเบอร์รี่

สตรอเบอร์รี่ ในช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศเริ่มอุ่นขึ้น กิจกรรมที่แนะนำเลยก็คือการไปชมดอกไม้สวยๆ  ถึงจะไม่ทันดอกซากุระที่บานในเดือนเม.ย. แต่ในเดือนพ.ค. ดอกไม้พันธุ์อื่นๆ ก็จะเริ่มบาน ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวจะถูกแต่งแต้มไปด้วยดอกไม้สีสวยนานาชนิด สวยงามไม่แพ้กันเลยล่ะ

แล้วถ้าใครอยากไปเก็บสตรอเบอร์รี่ กินสตรอเบอร์รี่สดๆ หวานๆ จากฟาร์มล่ะก็ ในเดือนพ.ค. ก็ยังมีให้เก็บอยู่นะ แต่ต้องรีบหน่อยแล้วล่ะ เพราะฟาร์มส่วนใหญ่จะเปิดให้เก็บสตรอเบอร์รี่ถึงเดือนพ.ค.เท่านั้น

เราได้ลิสต์สถานที่ชมดอกไม้สวยๆ และฟาร์มสตรอเบอร์รี่ไว้ให้แล้ว ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย

สถานที่แนะนำสำหรับชมดอกไม้ที่โอซาก้า

สวนสาธารณะ Shirokita

สวนสาธารณะที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เต็มไปด้วยดอกไม้พันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูร้อนอย่างเดือนพ.ค. – มิ.ย. ดอกไอริสจะบาน ทั้งสวนจะเต็มไปด้วยสีขาว ฟ้า ม่วง สวยงามมากๆเลยล่ะ ซึ่งที่สวนแห่งนี้มีดอกไอริสกว่า 250 ชนิด รวม 13,000 ต้น

นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “Osaka Midori no Hyakusen” ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่สำคัญทางธรรมชาติแห่งหนึ่งในโอซาก้าเลยทีเดียว

สวนสาธารณะ Shirokita

  • ที่อยู่: 3‐29‐1 Ikue, Asahi-ku, Osaka
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Osaka Sta., สถานี Temmabashi Sta. สาย Subway และ Keihan Line, สถานี Miyakojima Sta. สาย Subway Tanimachi Line นั่ง City Bus มุ่งหน้าไปยัง Moriguchisoko-mae ลงป้าย shirokitaen-mae
  • เวลาทำการ : 9:30 – 17:00 (เข้าได้ถึงเวลา16:30)
  • ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ 200เยน, เด็กอายุต่ำกว่า13ปี ฟรี(ต้องแสดงสิ่งที่ระบุตัวตนได้)
  • URL: http://www.osakapark.osgf.or.jp/

สวน Tennoji

สวน Tennoji สวนสาธารณะขนาดใหญ่ เป็นที่ตั้งของสวนสัตว์ Tennoji อีกทั้งภายในยังมี Osaka City Museum of Fine Art, สุสานโบราณ และสวนแบบญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับครอบครัว คนรักหรือเพื่อนๆ ได้ สวนแห่งนี้มีดอกไอริสบานสะพรั่งในช่วงเดือนพ.ค. – มิ.ย. ใกล้กับสวนแบบญี่ปุ่น “Keitakuen” สวยมากๆ เลยล่ะ

สวน Tennoji

  • ที่อยู่: 1-108 Chausuyamacho, Tennoji-ku, Osaka
  • การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี Tennoji Sta. สาย JR Osaka Loop Line
  • เวลาเปิดทำการ:
    • สวน Tennoji :  7:00 – 22:00  (ไม่มีวันหยุด)
    • สวนสัตว์ Tennoji : 9:30 – 17:00 (เข้าได้ถึงเวลา16:30)  เสาร์, อาทิตย์, และวันหยุดราชการของเดือน พ.ค. และ ก.ย. : 9:30 – 18:00 (เข้าได้ถึงเวลา17:00) หยุดทุกวันจันทร์ (ถ้าวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการจะหยุดชดเชยในวันถัดไป)
    • Osaka City Museum of Fine Art : 9:30 – 17:00 (เข้าได้ถึงเวลา16:30) วันหยุด : หยุดทุกวันจันทร์ (ถ้าวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการจะหยุดชดเชยในวันถัดไป),หยุดสิ้นปีและปีใหม่, ระยะเวลาการเตรียมงานแสดงนิทรรศการ
  • ค่าเข้าชม :
    • สวน Tennoji :  ฟรี
    • สวนสัตว์ Tennoji : ผู้ใหญ่ 500 เยน, เด็ก(อายุระหว่าง6-13ปี) 200 เยน, เด็กเล็ก(อายุต่ำกว่า6ปี) ฟรี
    • Osaka City Museum of Fine Art : ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย/นักศึกษา 200 เยน, อายุต่ำกว่า15ปี ฟรี(ต้องแสดงสิ่งที่ระบุตัวตนได้)
  • URL: http://www.city.osaka.lg.jp/

สวน Tsurumi Ryokuchi

สวน Tsurumi Ryokuchi เป็นสวนสาธารณะและสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ทำให้สวนของที่นี่มีดอกไม้บานเกือบตลอดทั้งปีเลยล่ะ และถ้าหากไปตอนเดือนมิ.ย. อย่าลืมไปดูดอกอะจิไซด้วยนะ

นอกจากนี้ตั้งแต่เดือนมี.ค.-พ.ย. ที่นี่มีคอร์สบาร์บีคิวให่เพื่อนๆไปย่างบาร์บีคิวได้อีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์นี้เลย » http://digiq.jp/

สวน Tsurumi Ryokuchi
  • ที่อยู่: 2-163 Ryokuchikoen, Tsurumi-ku, Osaka
  • การเดินทาง: อยู่ติดกับสถานี Tsurumi Ryokuchi Sta. สาย Subway Nagahori Tsurumi-ryokuchi Line
  • URL: http://www.tsurumi-ryokuchi.jp/

ขอบอกว่าแต่ละที่บรรยากาศดี สวยงามทั้งนั้น รับรองว่าเพื่อนๆจะได้รูปสวยๆกลับมาลงโซเชียลเก๋ๆกันแน่นอน 

สถานที่แนะนำสำหรับเก็บสตรอเบอร์รี่

ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ Izumi Ogawa

ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ Izumi Ogawa ฟาร์มเก็บสตรอเบอร์รี่ที่ใหญ่ที่สุดในแถบคันไซ และถ้าหากจองล่วงหน้า ก็สามาถทำขนมหวานจากสตรอเบอร์รี่ได้อีกด้วย แต่เนื่องจากการจองทำได้เพียงทางโทรศัพท์ ทางเราเลยขอแนะนำให้ลองปรึกษากับทางโรงแรมที่เพื่อนๆพักให้ลองโทรติดต่อให้ก็ได้นะ (เบอร์โทรศัพท์ในการจอง: 0725-92-3310)

“หมดเวลาเก็บสตรอเบอร์รี่แล้ว แต่ยังอยากอีกจัง!” หากเพื่อนๆ มีความคิดนี้ขึ้นมาล่ะก็ เพื่อนๆยังสามารถซื้อสตรอเบอร์รี่กลับบ้านไปกินต่อได้อีกด้วย และในวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะมีขายขนมหวานที่ทำจากสตรอเบอร์รี่ด้วยล่ะ

ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ Izumi Ogawa
  • ที่อยู่: 2043 Butsunami-cho, Izumi
  • เบอร์โทรศัพท์: 0725-92-3232 (9:00 – 17:00)
  • วันเวลาทำการ: วันพุธ, เสาร์, อาทิตย์, วันหยุดราชการ 10:00 – 15:00 *เข้าได้ถึง 14:30
  • ค่าใช้จ่าย: บุฟเฟต์ 30 นาที (ต้องจองล่วงหน้า) อายุ 13 ปีขึ้นไป ¥1,500 , อายุ 6-12 ปี ¥1,300 , อายุ 2-5 ปี ¥900
  • URL: http://kogawa-ichigo.com/

ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ Sakai

ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ Sakai ฟาร์มเก็บสตรอเบอร์รี่ในเมือง Sakai ที่อยู่ติดกับโอซาก้า การเดินทางง่ายและสะดวก เพราะสามารถนั่งรถไฟไปได้ และฟาร์มแห่งนี้มีสตรอเบอร์รี่ถึง 6 สายพันธุ์ ได้แก่ Akihime, Benihoppe, Toukun, Yotsuboshi, Kaorino และ Ai Berry ซึ่งเพื่อนๆ สามารถลิ้มลองหลายรสชาติความอร่อยของสตรอเบอร์รี่ได้อีกด้วย และที่นี่ยังมีบริการฟรีนมข้นหวานและช็อคโกแลต เอาไว้ให้จุ่มกินคู่กับสตรอเบอร์รี่ได้ด้วยนะ

ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ Sakai

  • ที่อยู่: 6-2-7 Kitanagaocho, Kita, Sakai, Osaka Prefecture 591-8043, Japan
  • เบอร์โทรศัพท์: 090-3275-4415, 070-5347-4115, 090-3281-4115 (12:00 – 17:00)
  • วันเวลาทำการ: ตรวจสอบได้จากปฏิทินในเว็บไซต์ http://www.ichigonosakai.com
  • ค่าใช้จ่าย: บุฟเฟต์ 30 นาที (ต้องจองล่วงหน้า)
    • 11 กุมภาพันธ์ – 8 เมษายน อายุ 13 ปีขึ้นไป ¥2,500 , อายุ 6-12 ปี ¥1,500 , อายุ 2-5 ปี ¥1,000
    • 11 เมษายน – 30 พฤษภาคม อายุ 13 ปีขึ้นไป ¥2,000 , อายุ 6-12 ปี ¥1,500 , อายุ 2-5 ปี ¥1,000
    • มีบริการช็อคโกตและนมข้นหวานทานคู่กับสตรอเบอร์รี่
  • URL: http://www.ichigonosakai.com/

ในส่วนของด้านที่พัก ช่วงต้นเดือนพ.ค.จะมีช่วงวันหยุดยาวของญี่ปุ่น หรือ Golden Week เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) ราคาห้องพักจะค่อนข้างสูง และโรงแรมส่วนใหญ่จะเต็มเร็วมาก เพราะฉะนั้นถ้าใครมีแพลนจะไปเที่ยวช่วงนี้ ต้องเตรียมตัวจองที่พักตั้งแต่เนิ่นๆเลยนะ

ส่วนเดือนมิ.ย. จะไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว (Off Season) ราคาห้องพักในช่วงนี้จะถูกลงกว่า 20% เลยทีเดียว

ช่วงเดือนกรกฎาคม ลดกระหน่ำ สายช้อปต้องมา!!

หน้าร้อนของญี่ปุ่นถือเป็นสวรรค์ของนักช้อปทั้งหลายเลยล่ะ ยิ่งช่วงเดือนก.ค.นั้น ทุกห้างจะร่วมใจลดราคากระหน่ำ Summer Sale มองไปทางไหนก็เจอแต่ป้าย Sale ตัวโตๆ อย่างที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่า เวลาที่ญี่ปุ่น Sale เนี่ย บอกได้เลยว่า Sale แบบสุดๆ รับรองว่างานนี้มีโปรโมชั่นเด็ดๆเพียบ! ใครที่เป็นขาช้อปต้องมาช่วงนี้เลย!

ที่โอซาก้าก็มีห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมาย ทางเราได้ลิสต์มาให้เพื่อนๆแล้ว ไปดูกันได้เลย~

  • ห้างสรรพสินค้า Takashimaya: ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ของเมืองโอซาก้า ครบครันไปด้วยร้านค้ามากมาย แถมห้างแห่งนี้ยังเชื่อมต่อกับโรงแรม Swissôtel Nankai Osaka อีกด้วย
  • ห้างสรรพสินค้า Kintetsu
    • สาขา Abeno Harukas: สาขานี้ตั้งอยู่บนตึก Abeno Harukas ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโอซาก้า ด้านบนของตึกยังเป็นจุดชมวิวยอดนิยมของชาวโอซาก้าอีกด้วย
    • สาขา Uehonmachi
  • Namba Parks: ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรพร้อมด้วยสวนสาธารณะลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่มีพันธุ์ไม้นานาชนิด
  • ห้างสรรพสินค้า 0101 Namba Marui: ศูนย์รวมแบรนด์แฟชั่นทันสมัย ภายในห้างมีการตกแต่งด้วยงานศิลปะ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานกันระหว่างแฟชั่นและศิลปะ
  • ห้างสรรพสินค้า Daimaru
  • ห้างสรรพสินค้า Hankyu Umeda: ห้างสรรพสินค้าอยู่ติดกับสถานีรถไฟ เดินทางสะดวก ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่นต่างๆมากมาย รวมไปถึงร้านอาหารเด็ดๆอีกเพียบ
  • ห้างสรรพสินค้า Hanshin Umeda: นอกจากที่นี่จะมีร้านค้าแฟชั่นและอาหารมากมายแล้ว ที่นี่ยังมี Hanshin Tigers Shop ร้านขายของที่ระลึกของทีมเบสบอล Hanshin Tigers แฟนๆกีฬาเบสบอลต้องไปให้ได้เลย
  • หมู่บ้านอเมริกา: หรือที่หนุ่มสาวเรียกกันว่า “อาเมมูระ” เป็นสถานที่ช้อปปิ้งสุดแนว ศูนย์รวมแฟชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเหล่าวัยรุ่น เรียกได้ว่าเป็น “ฮาราจูกุแห่งโอซาก้า” เลยล่ะ

ช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน เดือนแห่งการถ่ายภาพ!!

ในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. ถือว่าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือฤดูใบไม้ร่วง และแน่นอนว่าบรรยากาศก็โรแมนติกสุดๆ เหมาะกับการครอบครัวหรือคนรักไปถ่ายรูป

สาวๆ คนไหนที่อยากได้รูปถ่ายสวยๆ บรรยากาศดีๆ แนะนำให้ไปช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพราะไม่ว่าจะถ่ายซักกี่รูป ก็สวยทุกรูป รับรองว่าโดนใจแน่นอน!! และนอกจากบรรยากาศโรแมนติกที่เหมาะกับการถ่ายรูปแล้ว อาหารการกินในช่วงฤดูนี้ก็เด็ดไม่แพ้กัน

วันนี้เราเลยจะมาแนะนำสถานที่รอบๆโอซาก้าที่สามารถถ่ายรูปสวยๆ ได้อย่างจุใจ และร้านอาหารที่อร่อยและน่าทานเหมาะกับการถ่ายรูปอวดเพื่อนๆลง Facebook หรือ Instagram กัน

สถานที่แนะนำสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสี

Osaka Castle Park

Osaka Castle Park สวนสาธารณะที่เป็นที่ตั้งของหอคอยปราสาทโอซาก้า เป็นสถานที่ที่ชาวโอซาก้านิยมมาดูดอกบ๊วยและดอกซากุระบาน และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็สวยไม่แพ้กัน ปราสาทอันเก่าแก่กับใบไม้เปลี่ยนสีที่เข้ากันอย่างลงตัว ใครได้มาถ่ายรูปที่นี่ล่ะก็ไม่ผิดหวังแน่นอน!

และใกล้ๆ สวนนี้ยังมี Miraiza Osaka-Jo สามารถเห็นทิวทัศน์หอคอยปราสาทโอซาก้าได้ และเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการช้อปปิ้งและทานอาหารอีกด้วย (เว็บไซต์ Miraiza Osaka-Jo : https://en.miraiza.jp/)

Osaka Castle Park
  • ที่อยู่: Osakajo, Chuo-ku, Osaka
  • การเดินทาง:
    • ใกล้กับสถานี Temmanbashi Sta. และสถานี Tanimachi 4-chome Sta. สาย Tanimachi Line
    • ใกล้กับสถานี Morinomiya Sta. และสถานี Tanimachi 4-chome Sta. สาย Chuo Line
    • ใกล้กับสถานี Morinomiya Sta,. Osakajokoen Sta. สาย JR Loop Line
  • URL: http://osakacastlepark.jp/ (English)

Meiji no Mori Mino Quasi-National Park

Meiji no Mori Mino Quasi-National Park วนอุทยานแห่งชาติอันลือชื่อของโอซาก้า ความงดงามทางธรรมชาติที่สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของฤดูกาลทั้งสี่ โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในปลายฤดูใบไม้ร่วงจะงดงามเป็นพิเศษ โดยมีจุดสำคัญอยู่ที่น้ำตกอันสวยงามกับใบไม้สีเหลืองอร่ามที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ออกมาเป็นภาพที่สวยงามให้ทุกคนได้ชมกัน

วนอุทยานแห่งนี้อยู่ห่างจากใจกลางเมืองโอซาก้าสักหน่อย แต่ถ้ามาที่นี่ เพื่อนๆ จะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่แท้จริง ป่าใหญ่และธรรมชาติแบบนี้ หาในใจกลางเมืองไม่ได้แน่นอน

Meiji no Mori Mino Quasi-National Park
  • ที่อยู่: 1-18 Mino-Koen, Mino City, Osaka Pref.
  • การเดินทาง: Minoh Sta/Hankyu MInoh Line หรือนั่งรถเมล์จาก Senrichuo Sta/MIdosuji line ลงป้าย Minoeki
  • URL: http://www.mino-park.jp/

Katsuoji Temple

Katsuoji Temple วัดแห่งชัยชนะ ว่ากันว่าการนมัสการด้วยการถวายตุ๊กตา Daruma (มาจากภาษาสันสกฤตที่ว่า “ธรรมะ”) ที่วัด Katsuoji แห่งนี้จะทำให้ผู้นั้นประสบความสำเร็จ และเอาชนะความอ่อนแอของตนเองได้

วัดแห่งนี้ ในฤดูใบไม้ผลิก็มีดอกซากุระบาน ในฤดูใบไม้ร่วงก็มีใบไม้เปลี่ยนสีส้มเหลือง งดงามมากๆ และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนี้ที่นี่ยังมีการเปิดไฟตกแต่งในช่วงกลางคืนอีกด้วย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ » http://www.katsuo-ji-temple.or.jp/

Katsuoji Temple
  • ที่อยู่: 2914-1 Aomatani, Minoh, Osaka Prefecture 562-8508, Japan
  • ค่าใช้จ่าย: ตุ๊กตา Daruma ¥2,000/คน
  • ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ ¥400 , เด็ก ¥300
  • เวลาเปิดทำการ:
    • วันธรรมดา 8:00-17:00
    • วันเสาร์ 8:00-17:30
    • วันอาทิตย์และวันหยุดราชการ 8:00-18:00
  • URL: http://www.katsuo-ji-temple.or.jp/

ร้านอาหารแนะนำ

Meat Camp

Meat Camp ร้านอาหารสไตล์ “Glamping” ไม่ซ้ำใคร ได้มาทานอาหารที่นี่ก็เหมือนได้ไปตั้งแคมป์หรูๆ เลยล่ะ อาหารก็มีทั้งของคาว ของหวานและของทานเล่น แต่ละจานได้รับการตกแต่งอย่างเอกลักษณ์สไตล์แคมปิ้ง จนอดใจไม่ไหวต้องหยิบกล้องมาถ่ายรูปเลยล่ะ!

Meat Camp

  • ที่อยู่: 5-4 Doyamacho, Kita, Osaka
    การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี JR Osaka Sta., สถานี Umeda Sta. สาย Hankyu, สถานี Umeda Sta. สาย Hanshin, สถานี Umeda สาย Subway Midosuji Line
  • เวลาทำการ: 11:00 – 2:00
  • วันหยุด: ไม่มีวันหยุด
  • URL: http://meat-camp.com/

JTRRD cafe

JTRRD คาเฟ่ต์ชิคๆ ภายในร้านตกแต่งด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด ที่ประสาน “ความงาม” และ “ศิลปะ” เข้าด้วยกัน ของหวานที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามจนไม่กล้าทาน เหมาะกับการถ่ายรูปลงโซเชียลมากๆ มีสีสันสวยงามที่เติมแต่งจากสารสกัดธรรมชาติล้วนๆ ทั้งสวยและดีต่อสุขภาพอีกด้วย ภายในร้านยังมีการขายกระเป๋า Handmade อีกด้วย เพื่อนๆ ห้ามพลาดเลย

JTRRD cafe

  • ที่อยู่: 3-4-5, Temma, Kita-Ku, Osaka-shi, Osaka
  • เวลาทำการ: 12:00 – 17:00
  • วันหยุด: ไม่แน่นอน
  • URL: http://www.jtrrd.com/

ช่วยให้การเดินทางของเพื่อนๆ ทุกคนสะดวกสบายยิ่งขึ้น
karaksa hotel Osaka Namba

โรงแรม karaksa hotel Osaka Namba เพิ่งเปิดทำการไปเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2017  มีจำนวนห้องพักถึง 112 ห้อง มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นแบบโมเดิร์น ทันสมัย

มีห้องหลากหลายประเภทรวมถึงคอนเน็กติ้งรูม ห้องพักที่มีประตูภายในเปิดทะลุถึงกันได้ สามารถเข้าพัก ได้สูงสุด6คน เหมาะสำหรับคนที่มาเที่ยวแบบครอบครัวหรือมาเที่ยวกับเพื่อนหลายๆ คน ห้องพักก็ใหม่ สะอาด กว้างขวาง เพื่อนๆ สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจได้เลยล่ะ

โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า ย่านหมู่บ้านอเมริกา ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับหนุ่มสาว และยังสามารถเดินไปย่านช้อปปิ้งอย่าง Dotonbori และ Shinsaibashi ได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย

นอกจากความสะดวกสบายในการเดินทางแล้ว บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่ก็เรียกได้ว่าครบครันมากๆ

บริการภายในโรงแรม karaksa hotel

  • แผนกต้อนรับเปิดตลอด 24 ชม.
  • มีพนักงานชาวต่างชาติ
  • บริการรับฝากสัมภาระฟรี
  • ฟรีอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์สไตล์ตะวันตก
  • มีบริการเครื่องดื่มและของหวาน ฟรี (14:00-21:00)
  • มีบริการเครื่องซักผ้า / ตู้น้ำหยอดเหรียญ / ส่งพัสดุ
  • มีพื้นที่จอดรถและมีการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ ฯลฯ ให้เข้าถึงได้ทั่วทั้งโรงแรม (จำนวน 1 ช่อง, ต้องจองล่วงหน้า)

ส่วนห้องพักก็มีพื้นที่กว้างขวาง มีประเภทห้องตั้งแต่สำหรับ 2-3 ท่าน ไปจนถึง 6 ท่าน ซึ่งเป็นห้องที่สามารถเชื่อมถึงกันได้ เหมาะสำหรับการมาแบบทั้งครอบครัวเลย

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก

  • ฟรี Wi-Fi
  • เต้าเสียบสากล
  • ห้องอาบน้ำแยกกับห้องสุขา ฯลฯ

เพื่อนๆ คนไหนที่ต้องการที่พักที่อยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ห้องพักสะอาดและสะดวกสบาย โรงแรม karaksa hotel Osaka Namba ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่แนะนำเลยนะจ๊ะ

นอกจากนี้ ในแถบโอซาก้า ยังมีโรงแรม karaksa hotel สาขาอื่นๆ อีก 2 สาขา คือ โรงแรม karaksa hotel Osaka Shinsaibashi I และ โรงแรม karaksa Spring hotel Kansai Air Gate ซึ่งโดยรวมจะมีบริการที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็จะมีความพิเศษแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละสาขา อย่างเช่น

karaksa hotel Osaka Shinsaibashi I โรงแรม karaksa hotel Osaka Shinsaibashi I มีบริการห้องละหมาดสำหรับชาวมุสลิม อีกทั้งยังมีพื้นที่พักผ่อนให้ทุกคนได้นั่งเล่นกันได้ ซึ่งในพื้นที่นี้จะมีบริการไมโครเวฟ เครื่องกดน้ำร้อน ตู้น้ำหยอดเหรียญ เก้าอี้นวด และกาชาปอง!!

karaksa Spring hotel Kansai Air Gate โรงแรม karaksa Spring hotel Kansai Air Gate มีเครื่องแลกเปลี่ยนเงินตราอัตโนมัติ ใครแลกเงินมาไม่พอ ก็มาใช้บริการของที่นี่ได้นะจ๊ะ แต่ที่พิเศษสุดๆ ก็คือ โรงแรม สาขานี้มีบริการ Shuttle Bus ฟรีระหว่างสนามบินและโรงแรมอีกด้วย สามารถดูตาราง Shuttle Bus ได้ที่นี่เลย

Shuttle Bus หายห่วงเรื่องกระเป๋าเดินทางจะเป็นภาระได้เลย เพราะเมื่อถึงสนามบินคันไซก็สามารถนั่ง Shuttle Bus มาลงที่โรงแรมและฝากกระเป๋าเดินทางได้ทันที หลังจากนั้นก็ไปเที่ยวรอบโอซาก้าได้อย่างสบายใจเลยล่ะ

พอจะได้ไอเดียในการวางแผนเที่ยวโอซาก้าครั้งหน้ากันบ้างไหมเอ่ย

ไม่ว่าจะไปโอซาก้าช่วงไหน ก็ล้วนดีต่อใจทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่ที่สำคัญคือ ในแต่ละช่วงฤดูของโอซาก้าก็จะมีเสน่ห์ของตัวเอง ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้เพื่อนๆ ได้ลองไปเที่ยวโอซาก้าทุกฤดูเลย

Let’s discover “Hidden Places” in Osaka!! ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวโอซาก้าในครั้งต่อไปนะ~!

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com