มาเที่ยว Tateyama Kurobe Alpine Route กันต่อนะคะ จากตอนที่แล้วเป็นครึ่งแรกของเส้นทางเจแปนแอลป์ที่เราไปชมกำแพงหิมะมา ตอนนี้จะเป็นรีวิวครึ่งทางหลังโดยจะเป็นการชมวิวเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japan Alps) และเขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) ซึ่งเป็นเขื่อนที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นค่ะ ไปชมความอลังการของเจแปนแอลป์กันต่อเลยดีกว่านะคะ

รีวิวเที่ยวเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นบนเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route (ตอนจบ)

ตอนนี้เป็นเวลาประมาณเกือบเที่ยงแล้วค่ะ เราอยู่กันที่สถานี Daikanbo เรียบร้อยแล้ว โดยเราเดินทางมาจากฝั่งสถานี Dentetsu Toyama นะคะ

สถานี Daikanbo นี้อยู่บนความสูง 2,316 เมตร ภายในสถานีมีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก คนอาจมากระจุกกันตรงจุดนี้เยอะหน่อย นอกจากนี้ด้านบนของสถานียังมีจุดชมวิวบนดาดฟ้า ต้องเสียเวลารอคิวและเดินขึ้นบันไดไปค่ะ คนเลยออกันในสถานีกันเป็นจำนวนมาก เราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เทือกเขาแอลป์ได้เต็มๆ ที่จุดนี้ค่ะ เป็นจุดที่ควรแวะจุดนึงบนเส้นทางแอลป์เลยค่ะ

บันไดค่อนข้างแคบ สามารถขึ้นลงได้ฝั่งละคน

ข้างบนนี้สามารถมองเห็นเทือกเขาแอลป์ได้แจ่มมากๆ

ระหว่างที่อยู่บนนี้ก็มีหิมะตกมาปรอยๆ ด้วยค่ะ หนาวได้ใจ

จุดชมวิวมีราวกั้น ทางเดินค่อนข้างแคบ การสัญจรติดขัดพอสมควร เพราะคนจะต่อคิวขึ้นไปถ่ายกับป้ายด้านบน ถ้าเราต้องการทำเวลา ให้เดินเบี่ยงออกมาตามทางเลยค่ะ พอแชะภาพจนอิ่มแล้วให้รีบกลับลงมาต่อแถวเพื่อไปขึ้นกระเช้า Tateyama Ropeway ลงไปยังสถานีด้านล่างค่ะ

พาหนะที่ 5 : Tateyama Ropeway

(Toyama – TatDaikanbo – Kurobedaira : 7 นาที)

จากสถานี Daikanbo เราต้องเดินทางด้วยกระเช้า Tateyama Ropeway ลงมายังสถานี Kurobedaira ที่ความสูง 1,828 เมตร ขอบอกว่าวิวจากบนนี้สวยมาก พยายามหาที่ด้านหน้ากระเช้าให้ได้นะคะ (แต่เราอด –” ได้แค่ด้านข้าง) ใช้เวลาบนกระเช้านี้ 7 นาทีค่ะ

วิวระหว่างนั่งกระเช้า

ที่สถานี Kurobedaira ก็มีจุดชมวิวด้านบนเช่นกันค่ะ และสามารถออกไปเล่นบนลานหิมะด้านนอกได้ ในสถานีนี้มีพื้นที่พอสมควร มีร้านอาหารขายด้วยค่ะ เราก็หิ้วท้องมาฝากร้านโซบะที่สถานีนี้

วิวเทือกเขาแอลป์ตรงนี้ก็แจ่มเช่นกัน

มองลงไปก็เห็นเขื่อนคุโรเบะด้วยค่ะ (ตรงขวามือของรูป)

มองขึ้นไปด้านบนก็เป็นกระเช้าที่เรานั่งลงมาเมื่อครู่

alpen-route.com
alpen-route.com

พาหนะที่ 6 : Kurobe Cable Car

(Kurobedaira – Kurobeko : 5 นาที)

แต่ว่าเรายังไม่ถึงเขื่อนคุโรแบะนะคะ! เราต้องนั่ง Kurobe Cable Car ลงไปที่สถานี Kurobeko ด้านล่างที่ความสูง 1,455 เมตรอีกค่ะ ใช้เวลาบนรถประมาณ 5 นาที เส้นทางนี้เป็นอุโมงค์ มองวิวอะไรไม่เห็น ไม่ต้องแย่งที่นั่งริมกระจกก็ได้ค่ะ เรานี่โดนชนชาติอะไรก็ไม่รู้เบียดกระเด็นตอนจะขึ้นรถเลย (–“)

จากสถานี Kurobeko ไปยังสถานี Kurobe Dam จะต้องเดินเท้าผ่านเขื่อนคุโรเบะไปค่ะ เค้าบอกว่าใช้เวลา 15 นาที แต่เราใช้เวลานานกว่านั้น ทางเดินค่อนข้างยาวเลยและเพราะมัวแต่แวะถ่ายรูปด้วยแหละ ลมค่อนข้างแรง หนาวทนไม่ไหวแล้ว ถึงได้รีบเดิน (ฮาาา)

เขื่อนคุโรเบะยิ่งใหญ่อลังการมาก เป็นเขื่อนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วยความสูง 186 เมตร ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 7 ปี ระหว่างสร้างก็มีคนงานเสียชีวิตไปนับร้อยเลยค่ะ

น้ำในเขื่อนยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย

สูงปรี๊ดจนไม่กล้ายื่นกล้องออกไปถ่าย กลัวลมพัดปลิว

อีกด้านเหลือเป็นลำธารน้อยๆ

แถวนี้คนไม่ค่อยเยอะละค่ะ เพราะอาจเป็นช่วงบ่ายแล้วด้วย (คนที่มาต้องดูเวลาให้ดีๆ นะคะ เพราะเราจะต้องลงจากเจแปนแอลป์ให้ทันรถรอบสุดท้ายนะคะ) สามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้นะคะ แต่เราเหนื่อยไม่ไหวแล้ว ขอบาย ณ จุดๆ นี้ (มีทางขึ้นอยู่ด้านในสถานี Kurobe Dam นะคะ ไม่ต้องไต่บันไดด้านนอกนี้ขึ้นไปนะ เสียวน่าดู เอิ๊กๆ)

เดินผ่านเขื่อนมาแล้วก็ต้องเดินรอดด้านในเขื่อนอีกยาวเหมือนกัน

มาเข้าคิวขึ้นรถบัสกันต่อ เพิ่งจะ 2 โมงกว่าๆ ชิลๆ แล้วค่ะ

พาหนะที่ 7: Kanden Turnal Trolley Bus

(Kurobeko – Ogizawa : 16 นาที)

นั่ง Kanden Turnal Trolley Bus รอดอุโมงค์ภูเขาอาคาซาวะดาเคะ (Mt. Akazawadake) ไปยังสถานี Ogizawa ใช้เวลาประมาณ 16 นาที เหมือนได้นั่งพักแล้วค่อยยังชั่ว อิอิ

คาดว่าน่าจะมีคนไทยมาเที่ยวเยอะ เพราะมีภาษาไทยด้วยค่า

พาหนะที่ 8: Local Bus

(Ogizawa – Shinano Omachi : 40 นาที)

เกือบหมดแล้วค่ะ ฮึบๆ เราจะไปยังสถานี Shinano Omachi ถ้ามีพาส ก็โชว์พาสแล้วกระโดดขึ้นรถให้ถูกคันโลดดด ตรงนี้มีรถบัสหลายสาย ดูกันดีๆ นะคะ นั่งรถประมาณ 40 นาที ก็ถึงที่หมายตอนประมาณ 3 โมงครึ่งค่ะ

สถานี Shinano Omachi

ลงรถเสร็จ ก็มารับกระเป๋าที่ฝากส่งมาจากโรงแรมที่โทยาม่าได้ที่ร้าน Alps Roman Kan ตรงข้างๆ สถานี สามารถรับได้ตั้งแต่เวลา 15:00 – 18:00 น. กะเวลาเที่ยวให้มาถึงตรงนี้หลัง 3 โมงเย็น ก็เอากระเป๋าแล้วไปต่อได้เลยค่ะ

สำหรับเส้นทางแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine Route ก็จะสุดที่สถานี Shinano Omachi ค่ะ คนที่จะต่อรถไฟจากที่สถานีนี้ไปเมืองมัตสึโมโต้ (Matsumoto) อย่างเราก็ขึ้นรถไฟสาย JR นะคะ ถ้านั่งรถด่วนก็ไม่เกิน 40 นาที ถ้านั่งสาย Local จอดทุกป้ายก็ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ค่ะ (ถ้านับการต่อรถไฟนี้ด้วย วันนี้ก็ขึ้นรถกันไป 9 พาหนะ เลขสวยเลย เอิ๊กๆ)

สถานี Matsumoto

ถ้าถามว่าเที่ยวเจแปนแอลป์นี่เหนื่อยมั้ย? ขอตอบเลยค่ะว่าเหนื่อยจริงๆ เพราะต้องเดินเยอะและเจอคนเยอะด้วยค่ะ เราออกจากโรงแรมที่เมืองโทยาม่ามาตั้งแต่ตี 5 จนสุดเส้นทางที่สถานี Shinano Omachi ก็ 3 โมงครึ่ง รวมใช้เวลาทั้งสิ้น 10 ชั่วโมงครึ่งเลย

ระหว่างทางก็มีแวะเข้าห้องน้ำ กินข้าว นั่งพักเหนื่อยบ้าง มีแวะชมวิวถ่ายรูปเกือบทุกจุด รอเข้าคิวขึ้นรถ และยังเป็นช่วงที่เส้นทางนี้เพิ่งเปิดเต็มรูทด้วย นักท่องเที่ยวเลยมากันเยอะ ทำให้ใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ถ้าทำเวลาเร็วๆ และแวะไม่เยอะมาก 8 ชั่วโมงก็น่าจะได้ค่ะ (เอาจริงๆ ยังมีแรงไปเดินเที่ยวในเมืองมัตสึโมโต้ต่อ แต่แบบว่าขาลากเลย 555)

ส่งท้าย

กำแพงหิมะ (“Yuki-no-Otani” Snow Wall)

ถึงจะเหนื่อยแต่คุ้มค่ามาก หากใครมาญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ลองหาโอกาสมาชมความอลังการที่กำแพงหิมะและความงามของเทือกเขาเจแปนแอลป์แห่งญี่ปุ่นตามเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route นี้ดูนะคะ ตามป้ายไปเรื่อยๆ มีภาษาอังกฤษกำกับตลอด ไม่หลงค่ะ ^^

ถ้ามาช่วงที่เพิ่งเปิดกำแพงหิมะตอนกลางๆ เดือนเมษายน มีโอกาสที่จะได้เจอซากุระตามเมืองรอบๆ เส้นทางแอลป์ด้วยนะคะ ของเราได้ชมที่มัตสึโมโต้และที่เมืองทาคายาม่านิดหน่อยค่ะ ได้เก็บภาพของสองฤดูในทริปเดียวเลย คุ้มจริงๆ

สำหรับคนที่จะมาเที่ยวในเส้นทางนี้ขอแนะนำพาส Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การเดินทางตั้งแต่นาโกย่าผ่านเส้นทางเจแปนแอลป์ รับรองว่าคุ้มมากๆ ค่ะ

Klook.com

เรายังมีรีวิวของเมืองอื่นๆ ในทริปนี้อีกเยอะ รอติดตามชมได้ในบทความต่อๆ ไปนะคะ สวัสดีค่าาา

อ่านตอนต่อไป » [รีวิว] เที่ยวมัตสึโมโต้ (Matsumoto) ปราสาทอีกา ถนนเมืองเก่า Nawate & Nakamachi

ค้นหาโรงแรมที่พักในญี่ปุ่น


รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com