คู่มือเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido Guide)

ข้อมูลและรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดฮอกไกโดที่ห้ามพลาด แหล่งช้อปปิ้งเด็ดๆ ทั้งในเมืองซัปโปโรและเมืองต่างๆ รอบเกาะฮอกไกโด ตลอดจนสภาพอากาศ วิธีการเดินทาง สำหรับการวางแผนท่องเที่ยวด้วยตัวเอง

การเปิดให้บริการและเวลาทำการของสถานที่ต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19)

เกี่ยวกับฮอกไกโด (Hokkaido)

ฮอกไกโด (Hokkaido / 北海道) เป็นทั้งภูมิภาค ชื่อของเกาะ และยังเป็นหนึ่งใน 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น โดยชื่อมีความหมายของชื่อตามตัวว่า “ทางสู่ทะเลเหนือ”

เกาะฮอกไกโด ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 รองจาก เกาะฮอนชู (Honshu) ซึ่งเป็นเกาะหลักของญี่ปุ่น โดยมีอุโมงรถไฟชินคันเซ็นใต้ทะเลชื่อว่า อุโมงค์เซกัง (Seikan Tunnel) เชื่อมระหว่างทั้งสองเกาะบริเวณช่องแคบช่องแคบสึงารุ (Tsugaru Strait)

เมืองซัปโปโร

เมืองซัปโปโรซึ่งเป็นเมืองหลักของฮอกไกโด

นอกจากนั้นแล้ว ฮอกไกโดยังประกอบไปด้วยเกาะเล็กๆ อีกหลายเกาะ มีศูนย์กลางและเมืองหลักอยู่ที่เมืองซัปโปโร (Sapporo / 札幌) ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของเกาะและยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้

นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางมาฮอกไกโดได้ด้วยเที่ยวบินตรงและทรานสิทจากกรุงเทพ มาลงที่สนามบินนิวชิโตเซะ (New Chitose Airport) หรือชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า สนามบินชินชิโตเซะ (Shin-Chitose Airport / 新千歳空港) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองซัปโปโรไปประมาณ 45 กิโลเมตร สามารถเดินทางเข้าเมืองซัปโปโรด้วยรถไฟ JR จากสนามบินโดยใช้เวลาเพียง 37 นาที หรือโดยสารรถบัส Chuo Bus ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 70 นาที นอกจากนั้นแล้ว ยังสามารถนั่งสายการบินในประเทศหรือรถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) จากจังหวัดอื่นๆ ของญี่ปุ่น เช่น โตเกียว อาโอโมริ มาที่ฮอกไกโดก็ได้เช่นกัน

※ปัจจุบันชินคันเซ็นมาถึงที่สถานี Hakodate-Hokuto ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองฮาโกดาเตะที่อยู่ทางตอนใต้ของฮอกไกโด และมีโครงการจะขยายเส้นทางมาถึงเมืองซัปโปโรในปี 2030

สภาพภูมิอากาศและฤดูกาลของฮอกไกโด

บรรยากาศของฮอกไกโดในฤดูหนาว
บรรยากาศของฮอกไกโดในฤดูหนาว

เกาะฮอกไกโดตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น ประกอบกับพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นภูเขา จึงมีอากาศหนาวเย็นและมีหิมะปกคลุมเป็นเวลาหลายเดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคม จากนั้นหิมะจะเริ่มละลายและเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีดอกซากุระบานในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤศภาคม

อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอ้างอิงจากเมืองซัปโปโรโดยเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 8.9 องศา อุณหภูมิในช่วงหน้าร้อนอาจขึ้นไปสูงกว่า 30 องศา แต่ก็ไม่ได้ร้อนอบอ้าวมากเหมือนกับในเมืองหลวงอย่างโตเกียว โดอยอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 13 องศา ส่วนอุณต่ำสุดเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 5 องศา

ในช่วงหนาวที่สุดของฮอกไกจะอยู่ที่ประมาณเดือนมกราคม อุณหภูมิอาจจะลงไปอยู่ต่ำกว่า -10 องศาเลยทีเดียว ดังนั้น หากมาท่องเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว จึงควรเตรียมพร้อมรับกับสภาพอากาศอันหนาวจัด และควรระมัดระวังเรื่องพายุหิมะ รวมทั้งการเดินและสัญจรบนสภาพถนนที่ลื่น จึงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

ฤดูกาลของฮอกไกโด

ฤดูกาลในของฮอกไกโดสามารถแบ่งได้เป็น 4 ฤดู คือ

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 3 – 10 องศา
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16 – 24 องศา
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 – 15 องศา
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 1 – ลบ 5 องศา

การท่องเที่ยวในฮอกไกโด

ปูขน (Kegani)
ปูขน (Kegani)

นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางมาเที่ยวฮอกไกโดได้อย่างสะดวกสบายด้วยเที่ยวบินตรงจากประเทศไทยไปลงที่ สนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) หรือ สนามบินชินชิโตเสะ (Shin-Chitose Airport) ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองซัปโปโร โดยมีให้สายการบินแบบ Full Service คือ สายการบินไทย (Thai Airways) หรือ สายการบินแบบ Low Cost ได้แก่ ไทยแอร์เอเชียเอกซ์ (Thai AirAsia X) และ นกสกู๊ต (NokScoot) นอกจากนี้ยังสามารถต่อสายการบินในประเทศหรือรถไฟความเร็วสูงอย่างชินคันเซ็น รวมทั้งการต่อเครื่องในประเทศอื่นก่อนบินตรงสู่ฮอกไกโดก็ได้

นอกจากการท่องเที่ยวในหน้าหนาวซึ่งมีเทศกาลหิมะและการเล่นสกีเป็นไฮไลท์แล้ว เกาะฮอกไกโดยังมีที่ให้เที่ยวตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการชมความงามของธรรมชาติ เช่น การชมดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ ชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์และดอกไม้นานาพันธุ์ในช่วงฤดูร้อน ชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เป็นต้น รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การแช่ออนเซ็นหรือบ่อน้ำพุร้อน ลิ้มลองราเมงต้นตำหรับ ชิมอาหารทะเล ผลไม้สดๆ และเบียร์ชื่อดัง เยี่ยมชมสิ่งก่อสร้างสวยๆ ทางประวัติศาสตร์ เป็นต้น

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในในฮอกไกโด

ฮอกไกโดเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่มากและมีเมืองท่องเที่ยวอยู่หลายแห่ง ในบทความนี้ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากเมืองซัปโปโรและเมืองรอบๆ อย่างเมืองโอตารุ เมืองฟุราโนะ รวมถึงเมืองฮาโกดาเตะ

เมืองซัปโปโร (Sapporo)

เมืองซัปโปโร (Sapporo / 札幌) เป็นเมืองหลักของฮอกไกโด มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ มีประชากรอาศัยอยู่ราว 2 ล้านคน พื้นที่ประกอบด้วยที่ราบซึ่งเป็นเขตตัวเมือง และพื้นที่ภูเขาซึ่งเหมาะแก่การเล่นสกีในหน้าหนาว รวมถึงการขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของเมือง

าเอม่อน วาคุวาคุ สกาย พาร์ค (DORAEMON WAKU WAKU SKY PARK)

โดราเอม่อน วาคุวาคุ สกาย พาร์ค
DORAEMON WAKU WAKU SKY PARK
ドラえもん わくわくスカイパーク

พิพิธภัณฑ์โดราเอม่อน วาคุวาคุ สกาย พาร์ค (DORAEMON WAKU WAKU SKY PARK) ตั้งอยู่ที่สนามบินนิวชิโตเสะ สามารถแวะเที่ยวได้เลยหลังจากที่มาถึงสนามบินหรือจะแวะก่อนขึ้นเครื่องบินกลับก็ได้ ภายในพิพิธภัณฑ์มีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย รวมถึงสนามเด็กเล่น ห้องสมุด ที่ทำเวิร์คช็อป ร้านขายของที่ระลึกและคาเฟ่โดราเอม่อน เป็นที่เที่ยวที่เหมาะทั้งเด็กและผู้ใหญ่

  • เว็บไซต์: new-chitose-airport.jp (ภาษาอังกฤษ)
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก (13-18 ปี) 500 เยน, เด็ก (3-12 ปี) 400 เยน
  • เวลาทำการ: 10:00-18:00 น. (เข้าก่อน 17:30 น.)
  • ทำเลที่ตั้ง: อยู่ภายในสนามบินนิวชิโตเสะ อาคาร Domestic Terminal Building ชั้น 3 โซน Smile Road
สวนโอโดริ (Odori Park)

สวนสาธารณะโอโดริ
Odori Park
大通公園

สวนโอโดริ (Odori Park) เป็นสาธารณะแนวยาวไปกับถนนกว่า 1.5 กิโลเมตร ตั้งอยู่กลางเมืองซัปโปโรจากทิศเหนือไปยังทิศใต้ ในฤดูร้อนจะเห็นสวนเขียวขจีมีสีสันสวยงาม ส่วนในฤดูหนาวจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะจนเป็นสีขาวโพลน นอกจากนั้น สวนแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่ในการจัด เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี [ดูรีวิว Sapporo Snow Festival] หากต้องการชมภาพมุมสูงของสวนโอโดริ สามารถขึ้นไปชมได้ที่หอคอยซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower)

  • เว็บไซต์: odori-park.jp (ภาษาอังกฤษ)
  • เวลาทำการ: เปิดตลอดเวลา
  • ทำเลที่ตั้ง: ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Odori
  • การเดินทาง:
    • จากสถานีรถไฟใต้ดิน Odori (Namboku Line, Toho Line, Tozai Line) เดินประมาณ 1 นาที
    • จากสถานีรถไฟ JR Sapporo เดินประมาณ 10 นาที
ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower)
Lifestyle Travel Photo / Shutterstock.com

ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์
Sapporo TV Tower
さっぽろテレビ塔

ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) เป็นหอคอยความสูง 147 เมตรซึ่งใช้เป็นที่ส่งสัญญาณโทรทัศน์ของเมืองและเป็นจุดชมวิวที่ความสูง 90 เมตร สามารถมองเห็นวิวของสวนโอโดริ (Odori Park) ได้ตรงหน้าพอดีและยังมองเห็นวิวของเมืองได้ 360 องศา เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองซัปโปโร

  • เว็บไซต์: tv-tower.co.jp (ภาษาไทย)
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ (มัธยมปลายขึ้นไป) 1,000 เยน, เด็ก (ประถม – มัธยมต้น) เริ่ม 500 เยน
  • เวลาทำการ: 9:00 – 22:00 น. (เข้าก่อน 21:50 น.)
  • ทำเลที่ตั้ง: อยู่ในสวน Odori Park ตรงปลายสุดทางทิศตะวันออก
  • การเดินทาง:
    • จากสถานีรถไฟใต้ดิน Odori (Exit 27) (Namboku Line, Toho Line, Tozai Line) เดินประมาณ 1 นาที
    • จากสถานีรถไฟ JR Sapporo (South Exit) เดินประมาณ 15 นาที

งานเทศกาลหิมะซัปโปโร
SaSapporo Snow Festival
さっぽろ雪まつり

งานเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) เป็นงานเทศกาลที่สำคัญของเมืองซัปโปโร และยังถือได้ว่าเป็นงานเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ สามารถแบ่งบริเวณจัดงานได้เป็น 3 โซน โดยมีเวลาจัดงานที่แตกต่างกัน ได้แก่ Odori Site ซึ่งเป็นโซนหลักตรงบริเวณสวนโอโดริ , Tsudome Site ซึ่งเป็นโดมขนาดใหญ่และยังมีลานเล่นหิมะ และ Susukino Site (SUSUKINO ICE WORLD) ซึ่งจัดบริเวณย่านซูซูกิโนะ

  • เว็บไซต์: snowfes.com (ภาษาอังกฤษ)
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • ช่วงเวลาจัดงาน: ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ (*แตกต่างไปในแต่ละปี)
  • กำหนดการจัดงานปี 2024: 4 – 11 กุมภาพันธ์
  • การเดินทาง:
    • Odori Site: จากสถานี JR Sapporo เดินประมาณ 10 นาที [ดูแผนที่]
    • Tsudome Site: จากสถานี Sakaemachi (รถไฟใต้ดินสาย Toho Line) เดินประมาณ 15 นาที [ดูแผนที่]
    • Susukino Site: จากสถานี Susukino (รถไฟใต้ดินสาย Nanboku Line) เดินประมาณ 1 นาที [ดูแผนที่]
Sapporo Clock Tower

หอนาฬิกาซัปโปโร
Sapporo Clock Tower
札幌市時計台

หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) เป็นหอนาฬิกาสไตล์อเมริกันซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองซัปโปโรที่ทำด้วยไม้ทั้งหลัง ตัวอาคารสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1878 โดยเป็นอาคารเรียนของ Sapporo Agricultural College (ปัจจุบันคือ Hokkaido University) และได้นำเข้านาฬิกามาจากเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา มาติดตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1881 ปัจจุบันได้กลายพิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติของเมืองที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้

  • เว็บไซต์: sapporoshi-tokeidai.jp (ภาษาอังกฤษ)
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 200 เยน, เด็ก (ต่ำกว่ามัธยมปลาย) เข้าฟรี
  • เวลาทำการ: 8:45 – 17:10 น. (เข้าก่อน 17:00 น.)
  • วันหยุด: 1 – 3 มกราคม
  • ทำเลที่ตั้ง: อยู่ห่างไป 1 บล็อกทางทิศเหนือของสวน Odori Park (ใกล้ๆ กับ Sapporo TV Tower)
  • การเดินทาง:
    • จากสถานีรถไฟใต้ดิน Odori (Exit 7) (Namboku Line, Toho Line, Tozai Line) เดินประมาณ 5 นาที
    • จากสถานี JR Sapporo (South Exit) เดินประมาณ 10 นาที

ลานเบียร์ซัปโปโร & พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร
SSapporo Beer Garden & Sapporo Beer Museum
札幌市時計サッポロビール園 & サッポロビール博物館

ลานเบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Garden) ตั้งอยู่ภายในอาคารอิฐแดงซึ่งเคยเป็นโรงเบียร์มาก่อน โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ภายใจประกอบไปด้วยภัตตาคารอันหลากหลาย อย่างเช่น เนื้อเจงกิสข่าน ปู ซูชิ ซึ่งเป็นบุฟเฟ่ต์ที่สามารถทานได้ไม่อั้น รวมถึงพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum) ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเบียร์ซัปโปโรในแต่ละยุคสมัย

  • เว็บไซต์: sapporo-bier-garten.jp (ภาษาไทย)
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • เวลาทำการ:
    • Sapporo Beer Garden: 11:30 – 21:00 น. (สั่งก่อน 20:40 น.)
      *หยุด 31 ธันวาคม
    • Sapporo Beer Museum: 11:00 – 18:00 น. (เข้าก่อน 17:30 น.)
      *หยุดทุกวันจันทร์ (หากเป็นวันหยุด จะปิดทำการในวันถัดไป) วันหยุดสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่
  • การเดินทาง: จากสถานี Higashi Kuyakusho Mae (รถไฟใต้ดินสาย Toho Line) เดินประมาณ 10 นาที
ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (Former Hokkaido Government Office Building)
Shutterstock.com

ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (ทำเนียบอิฐแดง)
Former Hokkaido Government Office Building (Red Brick Office)
北海道庁旧本庁舎(赤れんが庁舎)

ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (Former Hokkaido Government Office Building) หรือที่เรียกว่าทำเนียบอิฐแดง (Red Brick Office) นั้นเป็นอาคารขนาดใหญ่ซึ่งทำจากอิฐสีแดงและเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของฮอกไกโด ตัวอาคารสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 และได้ใช้งานมากว่า 80 ปีก่อนที่จะย้ายไปยังอาคารศาลาว่าการหลังใหม่ที่อยู่ด้านหลัง ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมภายในโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

※ปิดปรับปรุงจนถึงมีนาคม 2025

  • เว็บไซต์: welcome.city.sapporo.jp (ภาษาไทย)
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • เวลาทำการ: 8:45 – 18:00 น.
  • วันหยุด: ช่วงปีใหม่ 29 ธันวามคม – 3 มกราคม
  • การเดินทาง:
    • จากสถานีรถไฟ JR Sapporo เดินประมาณ 8 นาที
    • จากสถานีรถไฟใต้ดิน Odori (Namboku Line, Toho Line, Tozai Line) เดินประมาณ 9 นาที
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine)

ศาลเจ้าฮอกไกโด
Hokkaido Shrine
北海道神宮

ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) ตั้งอยู่ภายในสวนมารุยามะ (Maruyama Park) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1869 เป็นศาลเจ้าชินโตที่ประดิษฐานเทพเจ้าจำนวน 4 องค์ ที่มีผู้คนหลั่งไหลมาขอพรตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันขึ้นปีใหม่ และในช่วงซากุระบาน ตอนปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม

  • เว็บไซต์: hokkaidojingu.or.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • วลาทำการปกติ:
    • มกราคม – กุมภาพันธ์ 7:00 – 16:00 น.
    • มีนาคม 7:00 – 17:00 น.
    • เมษายน – ตุลาคม 6:00 – 16:00 น.
    • พฤศจิกายน – ธันวาคม 7:00 – 16:00 น.
  • การเดินทาง: จากสถานี Maruyama Koen (รถไฟใต้ดินสาย Tozai Line) เดินประมาณ 15 นาที
ย่านซุกิโนะ (Susukino)

ย่านซูซูกิโนะ
Susukino
すすきの

ย่านซูซุกิโนะ (Susukino) เป็นย่านเอนเตอร์เนทเมนต์ยามค่ำคืนที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร เทียบๆ ได้กับย่านคาบูกิโจ (Kabukico) ของโตเกียว ที่นี่มีทั้งแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญ คือ ตรอกทานุกิโคจิ (Tanukikoji Shopping Street) และตรอกราเมง (Ganso Ramen Yokocho) ที่มีชื่อเสียงของซัปโปโร ภายในย่านนี้ยังมีร้านอาหาร สถานบันเทิง ร้านคาราโอเกะให้เลือกอีกมากมาย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็ยังใช้เป็นหนึ่งในสถานที่จัดเทศกาลหิมะอีกด้วย

  • เว็บไซต์: susukino-ta.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
  • เวลาทำการ: ขึ้นอยู่กับร้านค้า
  • การเดินทาง:
    • จากสถานีรถไฟใต้ดิน Susukino (Namboku Line) เดินประมาณ 1 นาที
    • จากสถานีรถไฟใต้ดิน Hosuisusukino (Toho Line) เดินประมาณ 5 นาที
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market)

ตลาดปลานิโจ
Nijo Fish Market
すすき二条市場

ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) ได้รับความนิยมทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโรโร สามารถเดินมาได้จากสวนโอโดริ ที่นี่มีร้านจำหน่ายทั้งอาหารทะเลสดๆ และอาหารแห้งแปรรูป ตลอดจนอาหารที่ปรุงสุกพร้อมทาน รวมถึงร้านอาหารให้ได้ลิ้มลอง

  • เว็บไซต์: nijomarket.com (ภาษาอังกฤษ)
  • เวลาทำการ:
    • ร้านค้า 7:00 – 18:00 น.
    • ร้านอาหาร 6:00 – 21:00 น.
      *เวลาทำการอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับร้าน
  • การเดินทาง:
    • จากสถานี Odori (รถไฟใต้ดินสาย Namboku Line, Toho Line หรือ Tozai Line) เดินประมาณ 5 นาที
ร้านคิตะโนะกูรุเมะ (Kitanogurume)

ร้านคิตะโนะกูรุเมะ
Kitanogurume
北のグルメ

ร้านคิตะโนะกูรุเมะ (Kitanogurume) เป็นร้านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในตลาดกลางขายส่งเมืองซัปโปโร (Sapporo Central Wholesale Market ) แบ่งเป็นโซนที่ขายอาหารสดๆ ของขึ้นชื่อ อาหารประจำฤดูกาลของฮอกไกโด และยังมีโซนร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารทะเล เช่น ข้าวหน้าปลาดิบ ไข่ปลา ปูยักษ์ หอยเม่น เป็นต้น บอกได้เลยว่าของที่นี่สด อร่อย และมีคุณภาพดีมากๆ

  • เว็บไซต์: kitanogurume.co.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
  • เวลาทำการ:
    • โซนตลาด
      • 1 พฤษภาคม – 31 ตุลาคม 6:00-17:00 น.
      • 1 พฤศจิกายน – 30 เมษายน 7:00-17:00 น.
    • โซนร้านอาหาร 7:00-15:00 น. (L.O.14:30 น.)
  • การเดินทาง:
    • จากสถานีรถไฟ JR Soen เดินประมาณ 15 นาที
    • จากสถานีรถไฟใต้ดิน Nijuyonken (Tozai Line) เดินประมาณ 5 นาที

ชิโรอิโคอิบิโตะ พาร์ค (โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ)
Shiroi Koibito Park (Ishiya Chocolate Factory)
白い恋人パーク (イシヤチョコレートファクトリー)

สวนสนุกชิโรอิโคอิบิโตะ พาร์ค (Shiroi Koibito Park) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตขนมของฝากขึ้นชื่อของฮอกไกโดโดยบริษัท Ishiya ภายในประกอบไปด้วย โรงงานผลิตขนมที่เปิดให้ชมกระบวนการผลิตได้ พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของเล่นและของสะสมหายาก สวนกุหลาบหลากหลายพันธุ์ แกลอรี่เครื่องเล่นแผ่นเสียง ร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายสินค้าต่างๆ

  • เว็บไซต์: shiroikoibitopark.jp (ภาษาไทย)
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก (4-15 ปี) 400 เยน, เด็ก (0-3 ปี) ฟรี
  • เวลาทำการ: 10:00 – 17:00 น.
  • การเดินทาง: จากสถานีรถไฟใต้ดิน Miyanosawa (Tozai Line) เดินประมาณ 7 นาที

ภูเขาโมอิวะ
Mount Moiwa
藻岩

ภูเขาโมอิวะ (Mount Moiwa) มีความสูง 531 เมตร สามารถขึ้นมาด้านบนโดยกระเช้าลอยฟ้าแล้วต่อด้วยเคเบิลคาร์จนมาถึงยอดเขา ซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวแบบ 360 องศา สามารถชมวิวมุมสูงของเมืองได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 “จุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุดของฮอกไกโด” นอกจากนี้ก็ยังมี “ระฆังแห่งความสุข” ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคู่รัก

  • เว็บไซต์: mt-moiwa.jp (ภาษาอังกฤษ)
  • ค่าบริการ: กระเช้าลอยฟ้า+เคเบิลคาร์ (ไป-กลับ) ผู้ใหญ่ 1,800 เยน, เด็ก 900 เยน
  • เวลาทำการปกติ:
    • เมษายน – พฤศจิกายน 10:30 – 22:00 น.
    • ธันวาคม – มีนาคม 11:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง: นั่งรถราง Sapporo Shiden มาลงที่สถานี Ropeway Iriguchi แล้วต่อรถ Shuttle Bus ฟรี มาลงที่สถานี Sanroku ซึ่งเป็นจุดขึ้นกระเช้าลอยฟ้า

สนามสกีโอะคุระยะมะ จัมป์ สเตเดียม
Okurayama Ski Jump Stadium
大倉山ジャンプ競技場

สนามสกีโอะคุระยะมะ จัมป์ สเตเดียม (Okurayama Ski Jump Stadium) เป็นลานกระโดดสกีความสูง 90 เมตรซึ่งเคยใช้จัดแข่งโอลิมปิคฤดูหนาวเมื่อปี ค.ศ. 1972 ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมและจัดแข่งขันกระโดดสกี อีกทั้งยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวรอบๆ ซัปโปโรจากยอดเขาและจุดสตาร์ทกระโดดสกีได้ โดยการนั่งกระเช้าระยะทางกว่า 300 เมตร

  • เว็บไซต์: okurayama-jump.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
  • เวลาทำการลิฟต์:
    • ฤดูร้อน (29 เมษายน – 31 ตุลาคม) 8:30 – 18:00 น.
    • ขยายเวลากลางคืน (1 กรกฎาคม – 30 กันยายน) 18:00 – 21:00 น.
    • ฤดูหนาว (1 พฤศจิกายน – 28 เมษายน) 9:00 – 17:00 น.
  • ค่าโดยสารลิฟต์: ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็ก 500 เยน (ไป-กลับ)
  • การเดินทาง:
    • รถบัส:
      · Burari Sapporo Kanko Bus (JR Sapporo Station ↔ Okurayama) *เดินทางได้เฉพาะช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
      · JR Bus หมายเลข 14 จาก Maruyama Bus Terminal (Araiyama Line) ตรงทางออก Exit 2 ของสถานีรถไฟ Maruyama Koen Station (Tozai Subway Line) มาลงที่ Okurayama Kyogijo Iriguchi Bus Stop แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
    • รถแท็กซี่: จากสถานีรถไฟใต้ดิน Maruyama Koen (Tozai Line) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ลานสกีบังเค (Bankei Ski Area)

ลานสกีซัปโปโรบังเค
Sapporo Bankei Ski Area
さっぽろばんけいスキー場

ลานสกีบังเค (Bankei Ski Area) เป็นลานสกีที่ตั้งอยู่ใกล้กับตัวเมืองซัปโปโรมากๆ จึงได้รับความนิยมทั้งจากชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่นี่มีทั้งลานสกีสำหรับขั้น Beginner ไปจนถึงขั้น Advance และมีอุปกรณ์ให้เช่าอย่างครบครัน ไม่ว่าใครก็สามารถมาเล่นสกีได้แม้ไม่มีประสบการณ์ก็ตาม อีกทั้งยังมีสวนสนุกหิมะสำหรับเด็กๆ หรือคนที่ไม่ได้เล่นสกีให้ได้เพลิดเพลินกันด้วย

  • เว็บไซต์: bankei.co.jp (ภาษาอังกฤษ)
  • เวลาทำการ: 9:00 – 22:00 น. (※ขึ้นอยู่กับฤดูกาล)
  • การเดินทาง: จากสถานี Maruyama Koen (Tozai Line) ต่อรถบัสอีกประมาณ 15 นาที
สวนศิลปะซัปโปโร (Sapporo Art Park)

สวนศิลปะซัปโปโร
Sapporo Art Park
札幌芸術の森美術館

สวนศิลปะซัปโปโร (Sapporo Art Park) เป็นสวนศิลปะกลางแจ้งที่มีดีไซน์สวยงามมากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ภายในบริเวณเดียวกันยังประกอบไปด้วย อาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Sapporo Art Museum, Craft Hall, Craft Studio, Sapporo Sculpture Garden รวมถึงร้านอาหาร คาเฟ่ และอีเวนท์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับครอบครัว นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนเขาได้ด้วย

  • เว็บไซต์: artpark.or.jp (ภาษาอังกฤษ)
  • ค่าเข้าชม: ขึ้นอยู่กับนิทรรศการ
  • เวลาทำการ: 9:45 – 17:00 น. (1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม เปิดถึง 17:30 น.)
    *Sapporo Art Museum และ Sapporo Sculpture Garden เปิดให้เข้าก่อนเวลาปิด 30 นาที
    **เปิดทุกวันในช่วง 29 เมษายน – 3 พฤศจิกายน
  • วันหยุด: ทุกวันจันทร์ในช่วง 4 พฤศจิกายน – 28 เมษายน *หากวันจันทร์เป็นวันหยุด จะปิดทำการในวันถัดไป
  • การเดินทาง: จากสถานี Makomanai (รถไฟใต้ดินสาย Namboku Line) ให้นั่งรถบัส Chuo Bus มาลงที่ป้าย Geijutsu no Mori Iriguchi
สวนทาคิโนะ ซุซุรัน ฮิลล์ไซด์พาร์ค (Takino Suzuran Hillside Park)

สวนสาธารณะทาคิโนะ ซุซุรัน ฮิลล์ไซด์พาร์ค
Takino Suzuran Hillside Park
国営滝野すずらん丘陵公園

สวนทาคิโนะ ซุซุรัน ฮิลล์ไซด์พาร์ค (Takino Suzuran Hillside Park) เป็นสวนทีมีอาณาเขตกว้างขวาง ประกอบด้วย ภูเขา ลำธาร ป่า และทุ่งดอกไม้ ในช่วงที่อากาศอบอุ่น ต้นไม้ใบหญ้าจะมีสีเขียวขจี ดอกไม้มีสีสันสดใส ส่วนช่วงฤดูหนาวที่นี่จะกลายเป็นลานสกีสีขาวโพลนด้วยหิมะซึ่งมีชื่อว่า “Takino Snow World” สามารถมาเล่นสกีและ Snow Tubing ในช่วงนี้ได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าเข้าสวน

  • เว็บไซต์: takinopark.com.e.bn.hp.transer.com (ภาษาอังกฤษ)
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 450 เยน (ฤดูหนาว เข้าฟรี)
  • เวลาทำการ:
    • ฤดูใบไม้ผลิ 9:00 – 17:00 น.
    • ฤดูร้อน 9:00 – 18:00 น.
    • ฤดูใบไม้ร่วง 9:00 – 17:00 น.
    • ฤดูหนาว 9:00 – 16:00 น.
  • การเดินทาง: นั่งรถบัส หมายเลข 106 (真106) จากสถานีรถไฟ Makomanai ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

เมืองโอตารุ (Otaru)

โอตารุ (Otaru / 小樽市) เป็นเมืองท่าเล็กๆ ตั้งอยู่ติดกับเมืองซัปโปโรในทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟ ภายในเมืองมีอาคารและโกดังเก่าแก่ในสไตล์ตะวันตกที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อยู่หลายแห่ง ได้บรรยากาศเหมือนมาเที่ยวยุโรป

  • เว็บไซต์: city.otaru.lg.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Sapporo นั่งรถไฟสาย JR Hakodate Line มาลงที่สถานี Otaru ใช้เวลาประมาณ 30 – 50 นาที (*ขึ้นอยู่กับขบวนรถ)

คลองโอตารุ
Otaru Canal
小樽運河

คลองที่มีความสวยงามซึ่งไหลผ่านกลางเมืองโอตารุ เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง ริมคลองตกแต่งด้วยโคมไฟสไตล์วิคตอเรียนและมีอาคารโกดังที่สร้างจากอิฐเป็นแนวยาวไปตามคลองได้บรรยากาศโรแมนติกมากๆ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปียังใช้เป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานเทศกาล “Otaru Snow Light Path Festival” ซึ่งจะมีการประดับตกแต่งด้วยโคมไฟทั่วทั้งเมือง

  • เว็บไซต์: city.otaru.lg.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
  • การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Otaru เดินประมาณ 10 นาที

พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ
Otaru Music Box Museum
小樽オルゴール堂

พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีเก่าแก่ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคลองโอตารุ ส่วนของอาคารหลัก (Main Building) เป็นอาคารสไตล์ตะวันตก 3 ชัันที่สร้างจากอิฐ มีอายุกว่า 100 ปี ด้านหน้าของอาคารมีนาฬิกาไอน้ำจากเมืองแวนคูเวอร์ตั้งอยู่ซึ่งจะพ่นไอน้ำทุก 1 ชั่วโมงประกอบกับเสียงดนตรีดังทุกๆ 15 นาที ส่วนภายในอาคารมีทั้งโซนจำหน่ายกล่องดนตรีและของที่ระลึกต่างๆ มากมายและโซนที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของกล่องดนตรี

  • เว็บไซต์: otaru-orgel.co.jp (ภาษาไทย)
  • เวลาทำการ: 9:00 – 18:00 น.
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • การเดินทาง:
    • จากสถานีรถไฟ Otaru เดินประมาณ 15 นาที
    • จากสถานีรถไฟ Minami-Otaru เดินประมาณ 10 นาที

โรงกลั่นวิสกี้นิกกะ โยอิจิ
Nikka Whisky Yoichi Distillery
ニッカウヰスキー余市蒸溜所

โรงกลั่นวิสกี้ชื่อดังของญี่ปุ่น “Nikka Whisky (ニッカウヰスキー)” ก่อตั้งโดย Masataka Taketsuru ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ไปเรียนรู้เทคนิคการกลั่น Scotch Whisky ต้นตำรับที่สก๊อตแลนด์ โรงกลั่นแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง โยอิจิ (Yoichi-cho / 余市町) เป็นเมืองซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง โอตารุ (Otaru / 小樽市) อาคารต่างๆ และบรรยากาศภายในพื้นที่ของโรงกลั่นดูคลาสสิคเหมือนอยู่ในประเทศสก๊อตแลนด์ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปเชี่ยมชมโรงกลั่นและพิพิธภัณฑ์วิสกี้ได้ อีกทั้งยังมีวิสกี้ให้ชิมฟรีอีกด้วย เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเนื่องจากใช้เป็นที่ถ่ายทำซีรี่ส์ญี่ปุ่นเรื่อง “Massan (マッサン)” ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตของผู้ก่อตั้งนั่นเอง

  • เว็บไซต์: nikka.com (ภาษาอังกฤษ)
  • เวลาทำการ: 9:00 – 16:00 น.
  • วันหยุด: 25 ธันวาคม – 7 มกราคม
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR Sapporo หรือ Otaru ให้นั่งรถไฟสาย JR Hakodate Line มาลงที่สถานี Yoichi แล้วเดินประมาณ 7 นาที

เมืองฟุราโนะ (Furano)

เมืองฟุราโนะ (Furano / 富良野) เป็นเมืองที่อยู่ใจกลางฮอกไกโดพอดี จึงได้ชื่อเล่นว่าเมืองสะดือของฮอกไกโด เมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องการชมธรรมชาติทั้งในฤดูร้อนที่จะมีทุ่งลาเวนเดอร์และทุ่งดอกไม้หลากสีกว้างสุดลูกหูลูกตา ส่วนในฤดูหนาวก็จะมีลานสกีและสถานที่สำหรับเล่นหิมะ

  • เว็บไซต์: furanotourism.com (ภาษาอังกฤษ)
  • การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR Sapporo ให้นั่งรถไฟ Limited Express มาที่สถานี Asahikawa หรือ Takikawa แล้วต่อรถไฟสาย JR Furano Line มาลงที่สถานี Furano ใช้เวลาประมาณ 150 นาที

Ningle Terrace
ニングルテラス

หมู่บ้านนิงเกิลเทอเรส (Ningle Terrace) ตั้งอยู่ในบริเวณโรงแรม New Furano Prince Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมและลานสกีชื่อดังของเมือง ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่มีทางเดินในป่าที่เหมือนกับในเทพนิยาย โดยประกอบประกอบด้วยบ้าน 15 หลัง ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าที่จำหน่ายสินค้างานฝีมือและสินค้าจากท้องถิ่น รวมถึงร้านกาแฟ

  • เว็บไซต์: princehotels.com (ภาษาอังกฤษ)
  • เวลาทำการ: 12:00 – 20:45 น.
  • การเดินทาง: จากสถานี Furano สามารถนั่งรถบัส Lavender Bus มาลงที่โรงแรม New Furano Prince Hotel ใช้เวลาประมาณ 18 นาที

เมืองบิเอะ (Biei)

เมืองบิเอะ (Biei / 美瑛) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองฟุราโนะ (Furano) ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟประมาณ 35 นาที ถือว่าเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมทางด้านธรรมชาติแบบทุ่งกว้างและเนินเขา ซึ่งได้รับการโปรโมททางโทรทัศน์ของญี่ปุ่นมากมาย

  • เว็บไซต์: biei-hokkaido.jp (ภาษาอังกฤษ)
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Sapporo ให้นั่งรถไฟ LTD. EXP มาลงที่สถานี Asahikawa แล้วต่อรถไฟสาย JR Furano Line มาลงที่สถานี Biei ใช้เวลาประมาณ 180 นาที
Blue Pond Winter Illumination

บ่อน้ำสีฟ้า
Blue Pond (Aoi-ike)
青い池

บ่อน้ำสีฟ้าหรือที่เรียกกันว่า Blue Pond (Aoi-ike) เป็นบ่อน้ำที่ถูกกักไว้จากการสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันโคลนถล่มบริเวณภูเขาไฟในแถวนั้น การที่น้ำในบ่อมีสีฟ้าสดกว่าบ่อน้ำทั่วไปๆ ก็เป็นเพราะอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์จากการปะทุของภูเขาไฟที่อยู่ในน้ำได้สะท้อนกับแสงแดดที่ส่องลงมา นักท่องเที่ยวสามารถมาชมความงามของบ่อน้ำได้ตลอดทั้งปี และในช่วงหน้าหนาวก็ยังมีการจัดงาน Winter Illumination โดยฉายไฟสีฟ้าที่บ่อน้ำในช่วงที่ฟ้ามืดอีกด้วย

  • เว็บไซต์: biei-hokkaido.jp (ภาษาอังกฤษ)
  • เวลาทำการที่จอดรถ:
    • พฤษภาคม, ตุลาคม 7:00 – 18:00 น.
    • มิถุนายน – กันยายน 7:00 – 19:00 น.
    • พฤศจิกายน – เมษายน 8:00 – 21:30 น.
  • ค่าเข้าชม: ฟรี
  • การเดินทาง: นั่งรถบัส Dohoku Bus (เส้นทาง Biei – Shirogane) จากสถานี Biei มาลงที่ป้าย Blue Pond Entrance ใช้เวลาประมาณ 20 นาที แล้วเดินต่อมายังบ่อน้ำอีกประมาณ 7 – 8 นาที
Shirogane Hot Spring (白金温泉)

ชิโรกาเนะ ออนเซ็น
Shirogane Onsen
白金温泉

Shirogane Onsen หรือ Shirogane Hot Spring ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ่อน้ำสีฟ้า เป็นโซนของโรงแรมและออนเซ็นที่อยู่บนภูเขา สามารถมาแช่ออนเซ็นกลางแจ้งท่ามกลางหิมะได้ นอกจากนี้ใกล้ๆ กันก็ยังมีน้ำตกชิราฮิเกะ (Shirahige Waterfall) ซึ่งมีสีฟ้าอมเขียว เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของเกาะฮอกไกโด

  • เว็บไซต์: biei-hokkaido.jp (ภาษาอังกฤษ)
  • การเดินทาง: นั่งรถบัส Dohoku Bus (เส้นทาง Biei – Shirogane) จากสถานี Biei มาลงที่ป้าย Shirogane Hot Spring ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate)

ฮาโกดาเตะ (Hakodate / 函館) เป็นเมืองท่าทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด สามารถเดินทางมาจากเมืองซัปโปโรได้ด้วยรถไฟ เมืองฮาโกดาเตะขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพยามค่ำคืนอันสวยงามและอาหารทะเลที่สดอร่อย

  • เว็บไซต์: hakodate.travel (ภาษาไทย)
  • การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR Sapporo ให้นั่งรถไฟ Super Hokuto มาลงที่สถานี Hakodate ใช้เวลาประมาณ 210 นาที
กระเช้าลอยฟ้า ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate Ropeway)

กระเช้าลอยฟ้า ภูเขาฮาโกดาเตะ
Mt. Hakodate Ropeway
函館山ロープウェイ

กระเช้าลอยฟ้า ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate Ropeway) เป็นกระเช้าสำหรับขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมือง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากได้มาเมืองฮาโกดาเตะ ใช้เวลานั่งกระเช้าประมาณ 3 นาที ด้านบนยังมีร้านอาหารที่สามารถดินเนอร์ไปด้วยชมวิวยามค่ำไปด้วย และร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว

  • เว็บไซต์: 334.co.jp (ภาษาไทย)
  • เวลาทำการ:
    • 20 เมษายน – 30 กันยายน 10:00 – 22:00 น.
    • 1 ตุลาคม – 19 เมษายน 10:00 – 21:00 น.
  • ค่าขึ้นกระเช้า: ผู้ใหญ่ 1,800 เยน, เด็ก 900 เยน (ไป-กลับ)
  • การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Hakodate ให้นั่งรถรางมาลงที่ป้าย Jujigai แล้วเดินต่ออีก 10 นาทีจะถึงทางขึ้นกระเช้า
ป้อมโงเรียวกาคุ (Fort Goryokaku)

ป้อมโกเรียวคาคุ & โกเรียวคาคุทาวเวอร์
Fort Goryokaku & Goryokaku Tower
五稜郭 & 五稜郭タワー

ป้อมโกเรียวคาคุ (Fort Goryokaku) เป็นป้อมรูปดาวห้าแฉกแห่งเดียวในญี่ปุ่น สร้างขึ้นเมื่อ 100 กว่าปีก่อนเพื่อให้มีพื้นที่ว่างในการวางปืนใหญ่ ต่อมาได้ดัดแปลงเป็นสวนสาธารณะ ซึ่งเป็นจุดที่นิยมมาชมความงามซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาชมภาพมุมสูงของป้อมได้ที่หอคอยโกเรียวคาคุทาวเวอร์ (Goryokaku Tower)

  • เว็บไซต์: goryokaku-tower.co.jp (ภาษาอังกฤษ)
  • เวลาทำการ: 9:00 – 18:00 น.
  • ค่าเข้าชมหอคอย: ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, เด็กมัธยม 750 เยน, เด็กประถม 500 เยน
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Hakodate ให้นั่งรถรางมาลงที่ป้าย Goryokaku-Koen-mae แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
สวนพฤษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ (Hakodate Tropical Botanical Garden)

สวนพฤษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ
Hakodate Tropical Botanical Garden
函館市熱帯植物園

สวนพฤกศาสตร์เขตร้อนเมืองฮาโกดาเตะตั้งอยู่บริเวณน้ำพุร้อนยุโนคาว่า (Yunokawa Hot Spring) จึงสามารถปลูกพืชในแถบเขตร้อนได้ มีกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวนั้นก็คือการมาชมความน่ารักลิงแช่ออนเซ็นสุดฟินในช่วงฤดูหนาว

  • เว็บไซต์: hako-eco.com (ภาษาญี่ปุ่น)
  • เวลาทำการ:
    • เมษายน – ตุลาคม เวลา 9:30 – 18:00 น.
    • พฤศจิกายน – มีนาคม เวลา 9:30 – 16:30 น.
    • หยุด 29 ธันวาคม – 1 มกราคม
  • ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก (ประถม-มัธยมปลาย) 100 เยน
  • การเดินทาง: จากสถานี JR Hakodate ให้นั่งรถบัส Hakodate Bus มาลงป้าย Nettai Shokubutsu-en

รูปภาพโดย สตรอเบอร์รี่น้อยฯ, Poi, Shutterstock

เขียนเมื่อ Oct,9 2015
อัพเดทล่าสุด Jun 30, 20
23

เทียบราคาโรงแรมที่พักในฮอกไกโด


บทความเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido)

รีวิวเที่ยวฮอกไกโดช่วงเทศกาลหิมะ
รีวิวเที่ยวฮอกไกโด *เพราะคิดถึงจึงมาหา♥ (ซัปโปโร – โอตารุ)
รีวิวเที่ยวฮาโกดาเตะ ~เมืองตอนใต้ของฮอกไกโด~

+ ดูบทความเที่ยวฮอกไกโดทั้งหมด

รูปภาพที่มีโลโก้และบทความในเว็บไซต์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ JapanKakkoii.com